เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 104 นี่คือลูกสาวของคุณ
บทที่ 104 นี่คือลูกสาวของคุณ
อันเชี่ยนหัวเราะเย้ยหยันตัวเองเสร็จ ก็พูดกับฉู่ลั่วว่า “เธออย่าไปเชื่อคำพูดไร้สาระของยัยนั่นนะ พี่ชายของฉันแค่พูดออกมาเพราะโกรธมาก ถึงฉันจะไม่ใช่คนดีอะไร แต่ฉันก็ไม่ใช่คนโง่”
“อีกอย่าง สถานะของตระกูลฉู่ในเมืองเจียง ฉันจะล่วงเกินได้เพราะแค่โมโหชั่ววูบเหรอ?”
“ตระกูลอันของพวกเราไม่คิดที่จะเอาดวงชะตาของฉู่หร่านไปบูชาไว้ที่วัดผี”
“พูดอีกอย่างคือ ฉันรู้อยู่แล้วว่าดวงชะตาของเธออยู่ในวัดผี ทำไมฉันต้องทำเรื่องเกินความจำเป็นด้วย?”
“เธออย่าเชื่อคำพูดของฉู่หร่านนะ”
อันเชี่ยนทั้งโกรธทั้งร้อนใจ ด้วยกลัวว่าฉู่ลั่วจะเชื่อ และรับปากฉู่หร่านขึ้นมาจริง ๆ
ทั้งยังกลัวว่าฉู่ลั่วจะเข้าใจผิดคิดว่าตระกูลอันของพวกเธอทำเรื่องสกปรกแบบนั้นได้
ฉู่ลั่วบอกว่า “ฉันไม่เชื่อคำพูดหร่านหร่านอยู่แล้ว ฉันเห็นมาตั้งนานแล้วว่าบนตัวหล่อนมีกลิ่นอายของวัดผีติดอยู่”
“อะไรนะ!” ฉู่หร่านกรีดร้องออกมาเสียงแหลม เธอพุ่งเข้าไปตรงหน้าฉู่ลั่ว “เธอเห็นมาตั้งนานแล้ว ทำไมถึงไม่บอกฉัน?”
“ลั่วลั่ว เธออย่าทำกับฉันแบบนี้เพียงเพราะว่าพวกเราไม่ใช่พี่น้องแท้ ๆ นะ! ทั้งที่ฉันมองเธอเป็นน้องสาวแท้ ๆ มาตลอด”
ฉู่หร่านพูดไปสะอื้นไป ร้องไห้จนน้ำตานองหน้า
ซ่งเชียนหย่าก็ขมวดคิ้วเช่นกัน เธอพูดอย่างไม่พอใจ “ลั่วลั่ว ในเมื่อลูกดูออกมาตั้งนานแล้ว ทำไมไม่พูดออกมาล่ะ”
“ถ้าหนูบอกว่าฉู่หร่านบูชาวัดผีจนมีดวงความรักที่ดีอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ คุณแม่จะเชื่อไหมคะ?”
ซ่งเชียนหย่านิ่งอึ้ง
ฉู่หร่านก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อ “ไม่เกี่ยวว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่เธอจะไม่พูดไม่ได้! พวกเราเป็นพี่น้องกันนะ ทำไมเธอถึงได้…”
“เธอพูดจาไร้สาระให้มันน้อยหน่อย!” อันเชี่ยนรำคาญจนต้องพูดแทรกฉู่หร่าน “ทำไม? เธอจะบอกว่า ต่อให้ฉู่ลั่วรู้ว่าพูดออกมาแล้วต้องถูกด่า ก็ยังต้องบากหน้าพูดออกมา เธอหมายความว่าอย่างนี้ใช่ไหม?”
“ฉู่หร่าน ทำไมก่อนหน้านี้ฉันถึงไม่รู้นะ ว่าหน้าเธอมันหน้าหนาขนาดนี้!”
“ฉู่ลั่วต่างหากที่เป็นลูกสาวแท้ ๆ ของตระกูลฉู่ ทำไมต้องถูกลูกสาวตัวปลอมอย่างเธอสร้างปัญหาให้แล้วมายืนด่าด้วย!”
ซ่งเชียนหย่าได้ยิน สีหน้าก็เปลี่ยนทันที เธอรีบปกป้องฉู่หร่าน “อันเชี่ยน เมื่อก่อนตอนที่เธอเป็นเพื่อนสนิทกับฉู่หร่าน ความสัมพันธ์ของพวกเธอสองคนดีมาก ถึงตอนนี้แตกหักกันไปแล้ว แต่เธอจะมาพูดจาทำร้ายคนอื่นแบบนี้ไม่ได้”
อันเชี่ยนกลอกตามองบน “นี่คือทำร้ายจิตใจแล้วเหรอคะ? ป้าซ่ง ดูฉู่ลั่วสิคะ! นี่คือลูกสาวของคุณนะ ลูกสาวแท้ ๆ ของคุณ!”
เธอชี้ไปที่ฉู่ลั่วสลับกับฉู่หร่าน “คุณดุด่าลูกสาวแท้ ๆ เพื่อฉู่หร่าน ตอนนี้ยังจะมาโทษว่าเป็นความผิดของลูกสาวแท้ ๆ ที่ไม่ยอมพูดความจริงออกมา เพราะไม่อยากถูกคุณดุด่าเหรอคะ?”
“ทำไมคะ หรือว่าในใจของป้าซ่ง ลูกสาวแท้ ๆ มีไว้ให้ด่าเหรอคะ!?”
ซ่งเชียนหย่าถูกอันเชี่ยนที่เด็กกว่าสั่งสอน สีหน้าก็ยิ่งย่ำแย่กว่าเดิม
เธอกัดริมฝีปาก หรี่สายตามองฉู่ลั่วอย่างคาดหวัง… หวังว่าฉู่ลั่วจะช่วยออกปากห้ามอันเชี่ยน
ใครจะรู้ว่าฉู่ลั่วจะหันหลังเดินเข้าไปในครัว ล้างจานของตัวเอง และเก็บกวาดเสียเรียบร้อย ไม่รู้ว่าได้ฟังบ้างไหม
เห็นภาพแบบนี้ อันเชี่ยนก็ยิ่งมีน้ำโหมากขึ้นไปอีก
“ป้าซ่ง คุณดูลูกสาวของคุณ ต้องร่อนเร่อยู่ข้างนอกมายี่สิบกว่าปี กว่าจะได้กลับบ้านไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถูกไล่ออกมาก็ว่าแย่แล้ว ยังต้องทำอาหารเช้ากับล้างจานเองอีก”
เธอหัวเราะเยาะ “ตั้งแต่เล็กจนโตฉู่หร่านเคยล้างจานสักครั้งไหม? เคยทำอาหารเช้าสักครั้งไหม?”
“คุณเห็นลูกสาวแท้ ๆ ของตัวเองคุ้นเคยกับการทำอาหารและล้างจานขนาดนี้ ไม่รู้สึกปวดใจบ้างเหรอคะ?”
ซ่งเชียนหย่ามองร่างผอม ๆ ในห้องครัว แววตาก็สั่นไหว
แน่นอนว่าเธอรู้สึกปวดใจ ทำไมจะไม่ปวดใจล่ะ!
นี่ลูกสาวแท้ ๆ ของเธอนะ!
ในขณะที่กำลังคิดแบบนี้ ฉู่หร่านก็สะอึกสะอื้นท่าทางเสียใจ “ฉันรู้แล้ว… ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน ถ้าฉันออกไปจากตระกูลฉู่ตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้ว่าฉันไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ แบบนี้คงจะดีกับทุกคน”
“ฮือ ฮือ ฮือ!”
“หร่านหร่านอย่าร้องไห้ นี่ไม่ใช่ความผิดของลูก เพราะพ่อกับแม่อยากให้ลูกอยู่ต่างหาก”
“พวกพี่ชายของลูกก็อยากให้ลูกอยู่ต่อ”
“ลูกเป็นลูกสาวและน้องสาวของพวกเรา พวกเราจะไม่ต้องการลูกได้ยังไง”
ขณะที่แม่ลูกคู่นี้กำลังผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง ฉู่ลั่วที่ล้างจานล้างตะเกียบเสร็จแล้วก็เดินออกมา
อันเชี่ยนกวาดสายตามองพวกฉู่หร่านอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะมาหาฉู่ลั่วด้วยความสงสาร