เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 106 ยังต้องการบอดี้การ์ดอีกเหรอ
บทที่ 106 ยังต้องการบอดี้การ์ดอีกเหรอ
“ห้องแรกตรงหัวมุมพักได้ค่ะ”
ฉู่เหิงพยักหน้าก่อนหันหลังให้ฉู่ลั่ว แต่เดินไปได้สองก้าวก็พูดขึ้นมาว่า “ลั่วลั่ว พี่เปลี่ยนทัศนคติของคนที่บ้านไม่ไหว แต่พี่ใหญ่ยืนอยู่ข้างเธอเสมอนะ”
พูดจบ เขาก็เดินจากไป
ฉู่ลั่วมองแผ่นหลังของฉู่เหิงด้วยดวงตาเป็นประกายครู่หนึ่ง
ฉู่เหิงมาหาเธอคืนนี้ ทั้งยังเลือกจะค้างที่นี่ ก็แสดงให้เห็นเจตนาของเขาอย่างชัดเจนแล้ว
ฉู่ลั่วปิดประตู ก่อนมีแววตาเย็นชาขึ้นเล็กน้อย
เธอเอ่ยถาม “ระบบ ทำไมหลังจากที่ฉู่เหิงได้สติขึ้นมาก็ไม่มัวเมาอีก แต่ซ่งเชียนหย่ากับสามียังเหมือนถูกสะกดจิตต่อไปเรื่อย ๆ ล่ะ?”
ฉู่หร่านเป็นลูกรักสวรรค์ แน่นอนว่าใครเห็นใครก็รัก
แต่หลังจากฉู่เหิงหลุดพ้นออกมาได้ ก็ไม่เคยตกอยู่ใต้อำนาจโชคชะตาของลูกรักสวรรค์อีกเลย
พี่ชายใหญ่มีความคิดเป็นของตัวเอง มีวิธีคิดเป็นของตัวเอง
[ไม่ทราบ]
ฉู่ลั่วขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม “นายไม่รู้จริงเหรอ? หรือว่าบอกไม่ได้”
[…]
เธอหรี่ตา “เข้าใจแล้ว”
เช้าวันต่อมา รถยนต์สามคันมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านของฉู่ลั่ว
ฉู่เหิงเดินออกมาจากบ้านพร้อมน้องสาวแท้ ๆ ก่อนถามว่า “ไม่ต้องการให้พี่เตรียมบอดี้การ์ดให้ไปกับพวกเธอด้วยจริงเหรอ?”
“ไม่ต้องค่ะ”
อันเชี่ยนเดินเข้ามา “ฉันพาบอดี้การ์ดมาด้วยสี่คน พี่ฉู่เหิง พี่วางใจได้ค่ะ!”
ฉู่เหิงมองคุณหนูอัน “เรื่องวัดผี ต้องขอโทษด้วย”
เพราะเรื่องนี้ ตระกูลฉู่กับตระกูลอันจึงบาดหมางกันอย่างรุนแรง
ฉู่หร่านไม่ยอมรับว่าตัวเองผิด จึงไม่ยอมขอโทษ
แต่ฉู่เหิงกลับคิดว่า ไม่ว่าเจตนาของฉู่หร่านจะเป็นอย่างไร สิ่งที่เธอทำกับอันเชี่ยนก็คือการทำร้ายอยู่ดี
อันเชี่ยนนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะโบกมืออย่างไม่ถือสา “เรื่องนี้จะว่าไปแล้ว ก็เป็นความผิดของฉันด้วยค่ะ”
หากไม่ใช่เพราะเธอต้องการความรัก ก็คงไม่เป็นแบบนี้
ฉู่หร่านลงมาจากรถก็ได้ยินฉู่เหิงพูดขอโทษอันเชี่ยน ทำเอาขอบตาของเธอแดงขึ้นมาเล็กน้อย
ซ่งเชียนหย่าที่เดินตามมาลูบหลังลูกสาวสุดที่รักเบา ๆ พร้อมกับถลึงตามองลูกชาย
ตระกูลฉู่ก็เตรียมบอดี้การ์ดมาสี่คนเช่นกัน
ฉู่เหิงกวาดตามองพวกเขา แล้วเอ่ยถามขึ้นมา “แม่ครับ แม่ได้เตรียมบอดี้การ์ดไว้ให้ลั่วลั่วหรือเปล่า?”
ซ่งเชียนหย่าพูดออกไปโดยไม่รู้ตัว “เธอเก่งขนาดนั้น ยังต้องการบอดี้การ์ดอีกเหรอ?”
อันเชี่ยนเดาะลิ้น ในขณะที่สีหน้าของฉู่เหิงดูเลวร้ายมาก
ซ่งเชียนหย่ารีบพูดอีกว่า “อีกอย่าง ต่อให้เตรียมมาลั่วลั่วก็คงไม่ต้องการ”
สีหน้าของฉู่เหิงย่ำแย่กว่าเดิม
เยี่ยนฉวีเดินเข้ามาหาฉู่เหิง “ประธานฉู่ คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมจัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้ตลอดการเดินทางแล้ว ผมจะดูแลปรมาจารย์ฉู่ให้เองครับ”
ฉู่เหิงจับมือกับเขา “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องรบกวนคุณแล้วครับ”
ฉู่ลั่วยืนอยู่ข้างหลังฉู่เหิง มองพี่ชายใหญ่พูดคุยกับเยี่ยนฉวี จากนั้นก็สนทนากับอันเชี่ยน สุดท้ายก็กำชับกับซ่งเชียนหย่าและฉู่หร่าน
“ฉู่ลั่ว วันนี้เธอไปรถฉันเถอะนะ!” อันเชี่ยนรีบพูด “รถฉันนั่งสบาย”
เยี่ยนฉวีเอ่ยต่อทันที “ปรมาจารย์ฉู่ รถของผมเป็นรถอเนกประสงค์ มีที่นั่งกว้างขวาง”
ซ่งเชียนหย่ามอง เธอคิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉู่หร่านยิ้มและเปิดปากพูดก่อน “คุณเยี่ยนคงไม่ได้ตกหลุมรักลั่วลั่วตั้งแต่แรกพบหรอกนะคะ ถึงได้เอาใจใส่ขนาดนี้”
รอยยิ้มบนใบหน้าของดาราหนุ่มหายไป เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “รักแรกพบ? ตอนนี้ผมถูกคนวางแผนทำเรื่องไม่ดีใส่ ผมยังจะมีเวลาไปคิดเรื่องรักแรกพบอีกเหรอ? ผมไม่ใช่พวกคลั่งแต่เรื่องรักนะครับ”
อันเชี่ยนที่อยู่ข้างกันก็พูดว่า “เวลาแบบนี้ยังจะมารักแรกพบอะไรกันอีก! ไม่เอาแล้วใช่ไหมหน้าที่การงาน? ไม่เอาแล้วใช่ไหมชีวิต?”
ฉู่หร่าน “…”
ซ่งเชียนหย่าได้จังหวะพูด “หร่านหร่านแค่หยอกเล่นนิดหน่อย ไม่ได้มีเจตนาอื่นหรอกนะ”
ฉู่เหิงสรุป “จะพูดอะไรก็ต้องดูสถานการณ์ด้วย ถ้าไม่รู้จะพูดอะไร ก็เงียบบ้างก็ได้”
เขาไม่สนใจฉู่หร่านที่ร้องไห้ออกมา แต่หันไปกำชับฉู่ลั่วหลายประโยค ก่อนจะส่งน้องสาวแท้ ๆ ให้อันเชี่ยน
เยี่ยนฉวีได้แต่เงียบงัน