เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 122 ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดแน่
บทที่ 122 ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดแน่
หลังจากฉู่เหิงได้ยินแบบนั้นก็ทอดถอนใจ
“นี่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เธอจะบอกใช่ไหม?”
ฉู่ลั่วพยักหน้า เธอหยุดฝีเท้าลงแล้วมองฉู่เหิงหน้าตาจริงจัง “ที่จริงตอนที่หนูเห็นรูปของกู่ชิวอิ่ง ก็รู้แล้วค่ะว่าเธอมีคนรักอยู่แล้ว แต่หนูไม่ได้พูดออกมา”
ฉู่เหิงนึกขึ้นได้ว่าซ่งเชียนหย่าเคยพูดเรื่องนี้มาก่อน บอกว่าเธอเอารูปกู่ชิวอิ่งให้ฉู่ลั่วดู และฉู่ลั่วก็บอกว่ากู่ชิวอิ่งไม่เหมาะสมกับเขา
ตอนนั้น แม่เล่าด้วยน้ำเสียงโมโห
“เรื่องนี้พี่รู้แล้วละ”
ฉู่ลั่วขมวดคิ้ว “หนูจะบอกว่า หนูรู้อยู่แล้วว่ากู่ชิวอิ่งมีคนรักคนอื่น แต่ไม่พูดออกมา ถ้าหนูพูดออกมา ก็อาจจะไม่มีเรื่องการดูตัวเกิดขึ้น”
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ ต่อให้เธอพูดออกมา แม่ก็ยังจะให้พี่ไปดูตัวกับกู่ชิวอิ่งอยู่ดี ตอนนั้นแม่ไม่เชื่อคำพูดของเธอ พูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก”
ฉู่เหิงมองน้องสาวทำหน้ายุ่ง ก็อดยิ้มไม่ได้ “เพราะเธอไม่ได้บอกพี่ เลยรู้สึกผิดอย่างนั้นเหรอ?”
“ค่ะ ที่หนูอยากบอกกับพี่ใหญ่คือ ฉู่หร่านรู้เรื่องของกู่ชิวอิ่งกับหนานฉีตั้งนานแล้ว แต่เธอยังจงใจพากู่ชิวอิ่งมาแนะนำให้พี่รู้จัก”
รอยยิ้มบนใบหน้าของฉู่เหิงค่อย ๆ หายไป กลายเป็นสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา
เขาจ้องมองน้องสาว
ฉู่ลั่วก็มองกลับไปด้วยแววตาเรียบนิ่ง
ฉู่เหิงถาม “…เธอพูดจริงเหรอ?”
“อันเชี่ยนมีหลักฐานอยู่ในมือค่ะ ถ้าพี่ใหญ่ต้องการ ก็ไปหาเธอได้”
“ไม่ต้องหรอก” พี่ชายใหญ่โบกมือ “พี่เชื่อที่เธอพูด แต่ว่า… มันอาจมีเรื่องเข้าใจผิด กลับไปพี่จะลองถามหร่านหร่านดู”
เขาเชื่อฉู่ลั่ว… ในขณะเดียวกันก็เชื่อฉู่หร่านด้วย
แม้ว่าน้องสาวคนนี้จะเอาแต่ใจไปบ้าง แต่ไม่ใช่คนใจร้ายอย่างแน่นอน
เป็นไปไม่ได้เลยที่รู้ว่าเป็นกองไฟ แต่ยังจะผลักเขาเข้าไป
“จะต้องมีเรื่องเข้าใจผิดแน่”
ฉู่ลั่วหยิบกระดาษสีแดงเก่า ๆ แผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อ แล้วยื่นให้เขา “ครั้งนี้ที่หนูไปวัดผี หนูเจอดวงชะตาของพี่ใหญ่อยู่ในนั้นด้วย”
“!?”
ฉู่เหิงรับกระดาษมาดู บนกระดาษเขียนชื่อและดวงชะตาของเขาเอาไว้อย่างชัดเจน
“วัดผีเป็นสถานที่สำหรับขอเนื้อคู่ อีกฝ่ายเขียนชื่อพี่ใหญ่ลงไป ไม่ใช่เพื่อขอเนื้อคู่ แต่เพื่อทำลายดวงเนื้อคู่ของพี่ใหญ่ต่างหาก”
ฉู่เหิงกำกระดาษเอาไว้แน่น “เธอคิดว่าเป็นฝีมือหร่านหร่านเหรอ?”
ฉู่ลั่วเอ่ย “ฉู่หร่านบอกว่าเธอบูชาดวงชะตาของตัวเองในวัดผี แต่หนูหาแล้ว ไม่เจอดวงชะตาของเธอเลยค่ะ กลับเจอดวงชะตาของพี่ใหญ่แทน”
เขาพูดไม่ออก “…”
ฉู่ลั่วกล่าวต่อไป “พี่ใหญ่ พี่เกิดมามีดวงชะตาโดดเดี่ยว ถูกกำหนดให้อยู่คนเดียว แต่เรื่องพวกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน พี่ใหญ่มีด้ายแดงปรากฏขึ้นในดวงแต่งงาน และเป็นดวงแต่งงานที่สมบูรณ์แบบมาก”
“แต่ถ้าหากพลาดการแต่งงานครั้งนี้ไป พี่ใหญ่จะไม่มีวันได้แต่งงานอีกเลย”
ไม่ว่าจะเป็นดวงชะตาโดดเดี่ยวที่ต้องอยู่คนเดียว หรือไม่ได้แต่งงานไปตลอดชีวิต ก็ไม่ได้ทำให้สีหน้าของฉู่เหิงเปลี่ยนไปแม้แต่น้อย
แต่ตอนที่น้องสาวแท้ ๆ พูดว่าดวงแต่งงานของเขาสมบูรณ์แบบ ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมา “ดวงแต่งงานที่สมบูรณ์แบบของพี่ปรากฏขึ้นแล้วเหรอ!?”
ฉู่ลั่วมองท่าทางตื่นเต้นของพี่ชายใหญ่ “ปรากฏหรือไม่ปรากฏ ตัวพี่ใหญ่คงจะรู้ดีอยู่แก่ใจ”
ฉู่เหิงหน้าซีด เขาก้มหน้ามองดวงชะตาที่อยู่ในมือของตนเอง “ถ้าอย่างนั้น… พี่คงพลาดไปแล้วใช่ไหม?”
ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ต้องพลาดไปแล้วแน่นอน
“ไม่ค่ะ ดวงแต่งงานของพี่ใหญ่ยังมีโอกาส แต่ถ้าพลาดมันไป พี่ใหญ่ก็จะ…”
ฉู่เหิงมีสีหน้าผ่อนคลายขึ้น ลูกกระเดือกขยับเล็กน้อย “ลั่วลั่ว ถ้าโอกาสมาถึงเมื่อไหร่ เธอต้องบอกพี่นะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องบอกพี่!”
“ค่ะ”
ฉู่เหิงเก็บกระดาษไว้ ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบหัวน้องสาว “เรื่องดวงชะตา พี่รับรู้แล้ว และจะลองตรวจสอบเรื่องนี้ดู ไม่ใช่ว่าพี่ไม่เชื่อเธอ แต่มันอาจจะมีเรื่องเข้าใจผิดกันได้”
จนถึงตอนนี้ เขายังไม่อยากเชื่อว่าฉู่หร่านจะทำลายดวงแต่งงานของเขา
ฉู่ลั่วรู้ดีว่าเธอไม่สามารถบังคับให้ฉู่เหิงเชื่อได้ “หนูเข้าใจค่ะ”