เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 123 สองหมื่น
บทที่ 123 สองหมื่น
หลังจากส่งฉู่เหิงไปแล้ว ผ่านไปสักพักหนึ่ง ทางโรงแรมก็ให้คนมาเก็บจานชามบนโต๊ะอาหาร
“คุณหนูฉู่คะ นี่คือแอปพลิเคชันของทางร้านเราค่ะ คุณเป็นลูกค้าวีไอพี หากคุณต้องการอะไร ก็สามารถติดต่อกับเราผ่านทางแอปพลิเคชันได้เลยค่ะ”
พนักงานหยิบคิวอาร์โค้ดออกมาหนึ่งแผ่น ทั้งยังมีกระดาษอีกแผ่นให้ด้วย “นี่คือโบรชัวร์ของทางโรงแรมเราค่ะ”
ฉู่ลั่วสแกนคิวอาร์โค้ดและรับโบรชัวร์มา ก่อนจะเซ็นชื่อลงบนใบสั่งงาน
หลังจากเซ็นแล้ว เด็กสาวก็เงยหน้ามองพนักงานสาวที่กำลังเก็บของ “ฉันมียันต์อยู่ คุณอยากจะซื้อไหมคะ?”
หัวหว่านมองกลับมาอย่างงุนงง ก่อนจะยกมือชี้ตัวเอง “ฉัน… ฉันเหรอคะ?”
เพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างกันต่างก็มองมาอย่างเห็นอกเห็นใจ พลางขยิบตาให้เธอ
หัวหว่านยิ้มแห้ง “ได้สิคะ! ยันต์อะไรเหรอคะ ราคาเท่าไหร่?”
อย่างไรเสีย นี่ก็เป็นงานบริการลูกค้า
ฉู่ลั่วเอ่ย “สองหมื่นค่ะ”
“อะไรนะคะ?” หัวหว่านมือสั่นขณะที่ถือโทรศัพท์เอาไว้ในมือ “คุณหนูฉู่ คุณบอกว่าราคาเท่าไหร่นะคะ?”
เด็กสาวย้ำอีกครั้ง “สองหมื่น”
เธอยื่นมือถือออกไป แล้วรับยันต์หนึ่งแผ่นมาจากลูกค้า
เมื่อมองดูยันต์สีเหลืองธรรมดา มุมปากของหัวหว่านก็กระตุกสองสามที เหมือนมีเลือดออกในใจ
เธอพยายามเก็บสีหน้าเจ็บปวดไว้ แล้วกดโอนเงิน
จนกระทั่งออกมาจากบ้าน และขึ้นมานั่งบนรถ หัวหว่านก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาด้วยความเจ็บปวด “สองหมื่นเชียวนะ! สองหมื่น! นี่มันเงินเดือนครึ่งเดือนของฉันเลย”
“ไม่ใช่ว่าเป็นลูกสาวของตระกูลฉู่เหรอ? กับเงินแค่สองหมื่นก็เอาเหรอนั่น”
เพื่อนร่วมงานขับรถไปพลางปลอบไปพลาง “เอาน่า ทำงานนี้ต้องเจอคนหลากหลายรูปแบบแหละ”
พูดจบ เพื่อนร่วมงานอีกคนก็ซุบซิบกัน “เธอยังไม่รู้ใช่ไหม! คุณหนูของตระกูลฉู่คนนี้ ตระกูลเพิ่งพาตัวกลับมาละ”
“เรื่องซุบซิบดราม่าของครอบครัวคนรวยน่ะ เขาว่ากันว่าเด็กสองคนถูกสลับตัวกัน ตอนที่คุณหนูคนนี้ถูกตามหาจนเจอ เธออาศัยอยู่ในห้องเช่าขนาดสิบตารางเมตร แถมยังทำงานตั้งสี่งานเชียวนะ”
“จู่ ๆ กลายเป็นคนรวย คงปรับตัวไม่ได้ ก็เลยถูกตระกูลฉู่ไล่ออกมา”
“เฮ้อ! เพราะไม่ได้เลี้ยงดูมาด้วยตัวเอง ก็เลยไม่มีความผูกพันสินะ”
หัวหว่านได้ยินเรื่องซุบซิบของฉู่ลั่ว ก็ถอนหายใจ
“คุณหนูฉู่คนนี้ อาจจะเป็นเพราะเมื่อก่อนไม่มีเงิน ตอนนี้เลยอยากจะได้เงินมาเก็บไว้กับตัวสินะ”
หัวหว่านกลับไปที่โรงแรมพร้อมกับเพื่อนร่วมงาน หลังจากส่งมอบงานแล้ว ก็ยังคงยุ่งกับงานต่อไป
เธอทำงานหัวหมุนมาจนกระทั่งสองทุ่ม ถึงได้เปลี่ยนชุด แล้วกลับบ้าน
ที่พักอาศัยอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานมากนัก เดินประมาณสิบนาทีก็ถึงแล้ว
เมื่อกลับมาถึง หัวหว่านก็อาบน้ำ เป่าผม ก่อนที่เสียงโทรศัพท์จะดังขึ้น
เธอมองดูเบอร์แปลกแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้รับ และเลือกที่จะตัดสายไป
ผ่านไปสักพัก โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีก
เธอจึงกดรับ “สวัสดีค่ะ!”
ปลายสายไม่มีเสียงอะไรเลย มีแต่เสียงซ่าซ่าเท่านั้น
หัวหว่านเอ่ย “เอ่อ… สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรหรือเปล่าคะ? ถ้าคุณไม่พูดอะไร ฉันวางสายแล้วนะคะ”
“หว่านหว่าน หว่านหว่าน ทำไมเธอไม่มาหาฉัน?”
พนักงานสาวชะงักไป เธอพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว “เฉิงเหยียน?”
พูดชื่อนี้จบ หัวใจของเธอก็เต้นรัว
เจ้าแฟนเก่าสารเลวคนนี้ เมื่อก่อนเคยถูกจับได้ว่านอกใจ เธอจึงตัดขาดและเลิกกับเขา ครึ่งเดือนก่อนได้ยินว่าสามีของคนที่เขาเกี่ยวพันด้วยรู้เข้า จึงทุบตีเขาจนตายคาที่ไปแล้ว
“เฉิงเหยียน นั่นนายเหรอ? นาย… นายไม่ได้ตายไปแล้วเหรอ? นาย…” หัวหว่านตัดสายอย่างลนลาน แต่กลับพบว่าตัวเองไม่สามารถกดวางสายได้
ปลายสายมีเสียงหัวเราะแปลก ๆ ดังขึ้น “คิกคิก คิกคิก หว่านหว่าน เธอยังจำได้ไหม? ก่อนหน้านี้พวกเราเคยสาบานว่าจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต”
“ตอนนี้ฉันจะไปหาเธอแล้ว ตอนนี้ฉันจะไปหาเธอแล้ว!”
“เธอรอฉันก่อนนะ!”
แล้วสายก็ตัดไป…