เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 125 เทพธิดา
บทที่ 125 เทพธิดา
หญิงสาวลงจากเตียง หลังจากอาบน้ำเสร็จก็เตรียมจะออกไปทำงาน ตอนที่ยื่นมือไปหยิบกระเป๋าก็ลูบไปเจอยันต์
เธอหยิบยันต์แผ่นนั้นออกมา ยันต์ที่ตอนแรกเป็นกระดาษสีเหลือง แต่เมื่อมือเธอแตะโดนก็กลายเป็นขี้เถ้าในทันที
หัวหว่าน “…”
เมื่อมีโชคดีเข้ามาก็เข้าใจอะไรมากขึ้น
หญิงสาวนึกถึงสายตาที่ฉู่ลั่วมองมาเมื่อวานนี้ก็ขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกสงสัย แต่หลังจากนั้น คุณหนูฉู่ก็ขายยันต์แผ่นนี้ให้เธอ
เพราะฉะนั้น…
คุณหนูฉู่รู้แต่แรกแล้วว่าวิญญาณของเฉิงเหยียนจะมาหา?
ไม่ได้ทำเพื่อเงิน แต่เพื่อช่วยชีวิตฉันอย่างนั้นหรือ
หัวหว่านเงียบงัน เธอมองกองขี้เถ้าบนพื้นพลางตะโกนอยู่ในใจ
คุณหนูฉู่ ช่วยด้วย!
…
เพื่อนร่วมงานมองหัวหว่านอยางไม่เข้าใจ “เธอบอกว่าไม่อยากไปบ้านคุณหนูฉู่อีกแล้วไม่ใช่เหรอ? เพราะไม่อยากถูกบังคับให้ซื้อยันต์ไม่ใช่หรือไง?”
หัวหว่านได้ยินก็รีบหันหน้ามาหาทันที “ฉันไม่เคยพูดแบบนั้น! คุณหนูฉู่ไม่ได้บังคับให้ฉันซื้อ ฉันเต็มใจซื้อเองต่างหาก คุณหนูฉู่เป็นคนดีนะ”
เพื่อนร่วมงานงงไปหมด
ใช่สิ
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาอยู่แล้วนี่!
มาถึงบ้าน พวกเขาก็ยกอาหารเข้ามา หลังจากวางไว้เรียบร้อยแล้ว หัวหว่านก็พูดกับฉู่ลั่วอย่างมีมารยาท “คุณหนูฉู่ เชิญทานอาหารได้ค่ะ ต้องการให้พวกเรากลับมาอีกครั้งตอนไหนคะ?”
วันนี้อาหารไม่เยอะ ฉู่ลั่วสั่งอาหารมาเพียงสองอย่างเท่านั้น
“อีกครึ่งชั่วโมงก็แล้วกัน”
หัวหว่านลองถามหยั่งเชิง “ถ้าคุณหนูฉู่ไม่รังเกียจ พวกเราสามารถรอที่นี่ได้หรือเปล่าคะ?”
เพื่อนร่วมงานมองหล่อนด้วยความสงสัย
แน่นอนว่าบริษัทของพวกเขาอนุญาตให้รอลูกค้าทานเสร็จและเก็บของกลับไปพร้อมกันได้เลย แต่ฉู่ลั่วอยู่ในบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้เพียงลำพังโดยไม่มีคนรับใช้แม้แต่คนเดียว เห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการให้ใครรบกวน
ปกติหัวหว่านไม่ใช่คนทำอะไรประมาทเลินเล่อ ทำไมวันนี้ถึงได้หุนหันพลันแล่นขนาดนี้?
ฉู่ลั่วเหลือบมองหัวหว่าน พลางพยักหน้า “ได้สิ พวกคุณนั่งก่อนเถอะ”
เพื่อนร่วมงานลากหัวหว่านมานั่งบนเก้าอี้ในสวนดอกไม้
“เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เห็นชัด ๆ ว่าคุณหนูฉู่ไม่อยากให้ใครรบกวน ทำไมเธอถึงพูดแบบนั้น? ถ้าคุณหนูฉู่ร้องเรียนขึ้นมา เธอจะทำยังไง?”
หัวหว่านมองไปทางห้องรับแขก “ฉันคิดว่าคุณหนูฉู่ไม่ใช่คนแบบนั้น เธอต้องรู้เหตุผลที่ฉันอยากจะรออยู่ที่แน่นอน”
เพื่อนร่วมงานงุนงง “เหตุผล? เหตุผลอะไร?”
หัวหว่านไม่อยากทำให้อีกฝ่ายกลัวจึงตอบไปว่า “เรื่องนี้มันซับซ้อนน่ะ มีแค่คุณหนูฉู่เท่านั้นที่อธิบายได้”
คนฟังยิ่งสงสัยมากขึ้นอีก
จนกระทั่งฉู่ลั่วทานอาหารเสร็จ และหัวหว่านก็เก็บของเรียบร้อย เช็ดมือให้สะอาด ก่อนจะเดินไปหาฉู่ลั่ว ผู้กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้
คุณหนูฉู่สวมชุดกระโปรงสีขาวที่สง่างามและสุภาพ ด้านบนมีลายปักไผ่อันประณีตงดงาม ผมถูกมวยไว้ด้วยปิ่นปักผมที่ทำจากไม้
แสงแดดจากด้านนอกสาดส่อง ทำให้เรือนผมของเธอมีแสงเปล่งประกายออกมา
ทั้งที่เป็นเครื่องแต่งกายแสนจะธรรมดา แต่เมื่อฉู่ลั่วเป็นคนสวมใส่ กลับให้ความรู้สึกไว้ตัวและเย็นชาอย่างเป็นธรรมชาติ
นางฟ้า!
หัวหว่านแอบถอนหายใจ
เมื่อวานนี้ทำไมถึงมองไม่ออกว่าคุณหนูฉู่เป็นนางฟ้ามาโปรดฉันกันนะ
เพราะตาไม่มีแววหรือเปล่า
หรือเพราะตกใจกับยันต์ราคาสองหมื่นอยู่?
ในหัวคิดสิ่งต่าง ๆ มากมายขึ้นมาทันที ตอนที่มองไปทางฉู่ลั่วอีกครั้ง ความคิดของเธอก็กลับเข้าร่องเข้ารอย
“คุณหนูฉู่ ขอร้องละค่ะ ช่วยฉันด้วย”
หน้าอกของหัวหว่านร้อนขึ้นมา เธอพูดออกมาตรง ๆ ก่อนจะคุกเข่าลงบนพื้นเสียงดัง “เมื่อวานเป็นเพราะฉันมีตาแต่ไม่มีแวว คุณหนูฉู่ใจดีช่วยชีวิตฉันเอาไว้แท้ ๆ ฉันกลับโทษว่าคุณหนูฉู่คิดเงินแพงเกินไป”
“คุณหนูฉู่คะ เมื่อคืนนี้ฉัน…”
เธอเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้ฟัง “ตอนแรกฉันนึกว่าเป็นความฝันค่ะ ถ้าตอนเช้าไม่ตื่นมาเห็นยันต์ที่คุณหนูฉู่ให้มา ฉันคงไม่รู้เลยว่าคุณหนูฉู่ช่วยชีวิตฉันเอาไว้”