เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 128 คนเป็นล้วนกลัวคนตาย
บทที่ 128 คนเป็นล้วนกลัวคนตาย
เฉิงเหยียนเป็นวิญญาณแท้ ๆ แต่ตอนนี้กลับถูกตีจนบู้บี้กลายเป็นลูกบอล เขายกมือขึ้น “หว่านหว่าน ไม่สิที่รัก ฉันผิดไปแล้ว ฉันผิดไปแล้วตกลงไหม! เธอปล่อยฉันไปเถอะ!”
หัวหว่านหัวเราะเยาะ “ตอนนี้รู้ตัวว่าผิดแล้วเหรอ ตอนมาทำให้ฉันตกใจกลางดึก ทำไมไม่รู้ว่ามันผิด? ตอนที่คิดจะพาฉันไปด้วย ทำไมถึงไม่รู้ ห้ะ!”
“ตายไปก็ยังไม่สำนึกจริง ๆ!”
หัวหว่านหยิบไม้เบสบอลขึ้นมา แล้วทุบแล้วทุบอีกเหมือนเล่นตีตัวตุ่น
วิญญาณโดนทุบตีไปก็ไม่มีเลือดออก ในที่เกิดเหตุจึงไม่มีรอยเลือดสักหยด
หัวหว่านระบายอารมณ์เสร็จ ก็ถือไม้เบสบอลไว้ด้วยมือข้างเดียว พลางเตะเท้าลงบนพื้น “ต่อไปจะกล้ามาอีกไหม?”
“ไม่กล้าแล้ว ไม่กล้าแล้ว”
เฉิงเหยียนหมอบอยู่ที่พื้นอย่างทำอะไรไม่ได้ ก่อนจะร้องขอชีวิต (?)
เมื่อก่อนเขาไม่เคยรู้เลยว่าอดีตแฟนสาวหยาบคายขนาดนี้ ไม่ได้อ่อนโยนเหมือนในความทรงจำเลยสักนิด!
หัวหว่านมองเขาด้วยสีหน้ารังเกียจ เธอยิ้มอย่างเย็นชาพลางเปิดประตูห้องน้ำออก “ไสหัวไป! ถ้าฉันเห็นหน้านายอีก ฉันจะ… ทำให้นายกลายเป็นขี้เถ้าเลยคอยดู!”
เฉิงเหยียนที่หมอบอยู่บนพื้นมองเธออย่างหวาดกลัว
ยัยนี่โหดร้ายขนาดนี้เลยเหรอ?
หัวหว่านยกเท้าจะเหยียบหน้าเขาอีกสักป้าบ แต่เฉิงเหยียนก็วิ่งหนี แล้วหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
“กากเอ๊ย!”
หัวหว่านมองไล่หลัง เธอหยิบอาวุธคู่กายอย่างใจเย็นก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอน แล้วก็หลับไปพร้อมกับกอดไม้เบสบอลแทนหมอนข้าง
ห้าวันต่อมา หัวหว่านก็ขนกระเป๋าทั้งใบเล็กใบใหญ่ไปที่บ้านของฉู่ลั่ว
เธอเคาะเรียกก่อนประตูจะค่อย ๆ เปิดออก ทั้งที่หลังประตูไม่มีคน
หัวหว่าน “…”
สายตาของเธอมองสำรวจไปทั่วทุกทิศทาง แต่กลับไม่เห็นอะไรเลย ความรู้สึกหนาวสะท้านไต่ขึ้นมาบนแผ่นหลัง
เธอดันกระเป๋าสัมภาระทั้งสองใบเข้าไปในบ้าน เดินผ่านผนังที่มีภาพวาดก็เห็นฉู่ลั่วกำลังนั่งสมาธิบำเพ็ญอยู่ใต้ชายคาบ้าน
“คุณหนูฉู่ ฉันมาแล้วค่ะ”
แม่บ้านคนใหม่ยังคงยืนอย่างประหม่าอยู่ที่เดิม มองเจ้านายด้วยความกลัวและความเคารพ
ฉู่ลั่วยังคงนั่งสมาธิต่อไปโดยสีหน้าไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย
หัวหว่านกะพริบตา พูดอธิบายว่า “ก่อนหน้านี้ฉันตั้งใจจะรีบมารายงานตัวกับคุณหนูฉู่ให้เร็วที่สุด แต่เจ้าเฉิงเหยียนนั่น… หลังจากถูกตีไปหนึ่งที เขาก็ไม่ยอมแพ้ คืนต่อมายังมาหาฉันอีกค่ะ”
“จนกระทั่งเมื่อวานที่เขาถูกฉันตีซ้ำไป ถึงสาบานว่าไม่กล้ามารบกวนอีกแล้ว” เดิมทีเธอคิดว่าหลังจากผีแฟนเก่าถูกตีไปหนึ่งครั้งจะไม่กล้ามาอีก
ใครจะไปคิดว่าเจ้าผู้ชายชาติหมานั่น ตายไปก็ยังเป็นหมาอยู่ดี
เขายังคงมารบกวนหลายคืนติด ๆ กัน!
โชคดีที่เธอมียันต์ที่ได้มาจากคุณหนูฉู่ ไม่อย่างนั้นคงไม่รู้ว่าจะจัดการกับผู้ชายหมา ๆ ที่เอาแต่ตามหลอกหลอนเธอยังไง
“คุณหนูฉู่ ฉันขอโทษด้วยนะคะ ฉันไม่ได้มาตามเวลา ฉัน…”
“เวลาที่ฉู่ลั่วฝึกฝนตอนเช้า เธอไม่ชอบให้ใครมารบกวน”
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหูของเธอ หัวหว่านพูดอย่างประหลาดใจว่า “อ๋อ อย่างนั้นเหรอคะ? ถ้าอย่างนั้นคุณหนูฉู่ ฉันไม่รบกวนคุณแล้วค่ะ ฉัน… ฉันขอเอาสัมภาระไปเก็บก่อนนะคะ”
ก่อนหน้านี้ ฉู่ลั่วได้เตรียมห้องพักสำหรับแขกเอาไว้ให้แล้ว
หัวหว่านยกสัมภาระขึ้นมาสักพัก เธอก็หยุดฝีเท้าลง และรีบมองไปรอบ ๆ แต่กลับไม่เห็นใครเลย แม้แต่เสียงอะไรก็ไม่มี
“ไม่ต้องมองแล้ว ตอนนี้คุณมองไม่เห็นพวกเราหรอก รอให้ฉู่ลั่วบำเพ็ญเสร็จก่อน ค่อยให้เธอเปิดดวงตาให้คุณ!”
หัวหว่านเงียบงัน
เสียงนั้นเหมือนดังมาจากข้าง ๆ เธอมองตามที่มาของเสียงนั้น แต่กลับมองไม่เห็นอะไร
แต่หลายวันก่อนเธอเคยทุบตีเฉิงเหยียนแล้ว ความสามารถในการทนต่อแรงกดดันแข็งแกร่งขึ้นไม่น้อย
“อ๋อ… ขอบคุณค่ะ”
“ไม่ต้องขอบคุณ”
หัวหว่านยกสัมภาระขึ้นไปชั้นบนทั้งที่ชุ่มด้วยเหงื่อเย็นจัดไปทั้งตัว
ด้านหลังมีเสียงพูดคุยทั้งของเด็กและของผู้ใหญ่ดังขึ้นมา
“พวกเราทำให้พี่สาวคนนั้นตกใจหรือเปล่าคะ?”
“อาจจะใช่นั่นแหละ! คนเป็นต่างก็กลัวคนตาย”
“ที่จริงคนตายอย่างพวกเราก็กลัวคนเป็นมากเหมือนกัน”
“ไม่ต้องพูดแล้ว เหมือนเธอจะได้ยินนะ”
หัวหว่านหมดคำจะพูด