เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 137 พื้นฐานครอบครัว
บทที่ 137 พื้นฐานครอบครัว
[ว้าว! พี่ชายหล่อมาก! พี่ชายมีแฟนหรือยังคะ?]
[ดวงตาของพี่ชายสวยสุด ๆ ไปเลย!]
[แค่พี่ชายยิ้ม หัวใจของฉันก็ละลายแล้ว]
“สวัสดีค่ะ” ฉู่ลั่วทักทายผ่านหน้ากล้อง
เจ้าของแอ็กเคานต์พบสิ่งดีจิตใจก็เบิกบานยิ้มอย่างมีความสุข “ผมมีแฟนแล้วครับ ไม่สิ พูดให้ถูกคือ ผมมีคู่หมั้นแล้วครับ นี่คือคู่หมั้นของผม!”
เขาหันกล้องไปหาคู่หมั้นของตัวเอง เป็นผู้หญิงหน้าตาสวยหวานคนหนึ่ง
เธอโบกมือให้กล้อง “สวัสดีค่ะคุณเจ้าของช่อง พวกเราชอบดูไลฟ์สตรีมของคุณมากเลยค่ะ พวกเราลองลุ้นรางวัลทั้งคู่ คิดไม่ถึงว่าเขาจะได้เป็นผู้โชคดี”
หนุ่มหล่อสาวสวยอยู่บนจอดูเพลินตาเป็นอย่างมาก
ในขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้ชมในช่องไลฟ์สตรีมรู้สึกอิจฉาอยู่เล็กน้อย
ท่าทางของฉู่ลั่วอ่อนโยนลง เธอถามว่า “ไม่ทราบว่าอยากฟังเรื่องอะไรคะ?”
เขาตอบอย่างจนใจว่า “ไม่ใช่ผมหรอกครับที่อยากถาม เธอต่างหากครับที่ขอมา ที่จริงอดีตมันก็ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ผมไม่สนใจแล้วละครับ”
แต่คู่หมั้นเขากลับหยิบมือถือไปแล้วพูดว่า “อะไรคือไม่สนใจแล้ว ไม่ว่าอดีตจะผ่านมานานแค่ไหน คุณไม่ยอมทำให้ชัดเจน ในใจต้องมีปมเหลืออยู่แน่นอน”
เธอพูดกับฉู่ลั่ว “คุณเจ้าของช่องคะ พวกเราอยากฟังเรื่องราวในอดีตของคู่หมั้นฉันค่ะ”
ฉู่ลั่วเอ่ย “คู่หมั้นของคุณใช้ชีวิตอยู่ในครอบครัวที่ยากจน พ่อแม่รักลูกสาวมากกว่าลูกชาย คนเป็นพ่อติดการพนัน ส่วนคนเป็นแม่ก็อ่อนแอและโง่เขลา”
สีหน้าของฝ่ายชายอึมครึมลงเล็กน้อย ก่อนพยักหน้า “คุณเจ้าของช่องพูดถูกครับ สถานการณ์ทางบ้านของผมเป็นแบบนี้”
คู่หมั้นกอดเขาด้วยความสงสาร “ไม่เป็นอะไรนะคะ ต่อไปพวกเราจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”
[เห็นพี่ชายสดใสขนาดนี้ คิดว่าเกิดมาในครอบครัวที่มีความสุขมากซะอีก คิดไม่ถึงเลยว่า…]
[พี่ชายไม่ต้องเสียใจนะคะ ความผิดของพื้นฐานครอบครัว ไม่ใช่ความผิดของคุณ คุณหนีออกมาได้แล้ว]
[พื้นฐานครอบครัวมีอิทธิพลต่อเด็กไปทั้งชีวิต โดยเฉพาะครอบครัวแบบนี้ ถ้าพี่สาวคิดจะใช้ชีวิตร่วมกับเขาจริง ๆ ก็ต้องเตรียมใจเอาไว้ให้ดีนะ]
คู่หมั้นพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันรู้สถานการณ์ครอบครัวของเขาแต่แรกแล้วค่ะ ฉันรู้จักเขาดี เขาเป็นคนดีมาก”
[ยอมแพ้ที่จะช่วยคนมีความรักเถอะ ช่วยคนคลั่งรักไม่ไหวหรอก เหม็น]
[ดูจากหน้าตาของพี่สาว ก็รู้เลยว่าเงื่อนไขครอบครัวไม่แย่แน่นอน พ่อแม่ของพี่สาวเห็นด้วยหรือเปล่าคะ?]
น้ำเสียงของฉู่ลั่วเย็นชาเล็กน้อย “พวกคุณวางใจได้ค่ะ คุณ ‘พบสิ่งดีจิตใจก็เบิกบาน’ ไม่ใช่คนเจ้าชู้ และไม่ใช่เพลย์บอยด้วย เป็นคนอ่อนโยน จิตใจมั่นคง ไม่ว่าจะด้านความรักหรือด้านการงานเขารู้ดีว่าตัวเองต้องการอะไร”
“อีกอย่าง พวกคุณมีดวงชะตาผูกโยงกันและกัน หากแต่งงานกันแล้ว ชีวิตจะเต็มไปด้วยความสุขแน่นอนค่ะ”
พบสิ่งดีจิตใจก็เบิกบานมีสีหน้าดีใจขึ้นมาทันที เขาเอื้อมมือไปโอบคู่หมั้นเอาไว้ และยิ้มราวกับคนบ้า
“ผมบอกแล้ว ผมไม่มีทางหักหลังคุณแน่นอน คุณฟังที่เจ้าของช่องพูดสิ คุณไม่รู้หรอกว่าผมชอบคุณมากขนาดไหน” ประโยคสุดท้าย พบสิ่งดีจิตใจก็เบิกบานพูดด้วยน้ำเสียงเง้างอนเล็กน้อย
คู่หมั้นเองก็ยิ้มหวาน “เอาละ อย่าพูดเรื่องพวกนี้เลย คุณเจ้าของช่องคะ ที่พวกเราอยากถามไม่ใช่คำถามนี้หรอกค่ะ ที่พวกเราอยากถามคือ…”
ยังไม่ทันพูดจบ ก็มีเสียงหยาบกระด้างของผู้ชายดังขึ้นมา “เสี่ยวชวน มานี่ ฉันมีเรื่องจะคุยกับแก!”
จางชวนขมวดคิ้วก่อนจะยิ้มให้คู่หมั้น แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือเดินออกไป “พ่อ มีอะไรครับ?”
พ่อจางดึงเจ้าของแอ็กเคานต์ออกไปข้าง ๆ “ข้าวเย็นที่บ้านใกล้จะเตรียมเสร็จแล้ว เรื่องที่คุยกับแกก่อนหน้านี้ แกต้องพูดขึ้นมาบนโต๊ะอาหารเข้าใจไหม!”
จางชวนขมวดคิ้ว “พ่อ ผมบอกแล้วไง เรื่องนี้ผมจะไม่พูดถึงอีก พ่ออย่าแม้แต่จะคิดเลย”
“แกหาเมียรวยได้ ช่วยที่บ้าน ช่วยน้องชายของแกสักหน่อยจะเป็นอะไรไป? แกยังเป็นพี่ชายอยู่หรือเปล่า!”
“ตั้งแต่เล็กจนโต ที่บ้านเคยปล่อยให้แกขาดอะไรไหม? ถ้ารู้แต่แรกว่าจะเป็นแบบนี้ คงไม่ให้แกไปเรียนมหาวิทยาลัยหรอก”
“ที่เรียนมาเสียเปล่าจริง ๆ”