เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 138 ผมแต่งเข้า
บทที่ 138 ผมแต่งเข้า
จางชวนได้ยินที่บิดาพูด ก็แสดงสีหน้าเจ็บปวดใจออกมา
[ให้ตายสิ ฉันรู้นะว่ามีพี่สาวที่เป็นโวลเดอมอร์*[1] แต่ยังมีโวลเดอมอร์เวอร์ชันพี่ชายด้วยเหรอเนี่ย?]
[คอมเมนต์บนอ่อนต่อโลกเกินไปแล้ว ถ้าพ่อแม่ลำเอียง ไม่ว่าพี่ชายหรือพี่สาวก็เป็นโวลเดอมอร์ได้ทั้งนั้น]
[พี่ชายน่าสงสารจังเลย!]
[พี่สาวต่างหากที่น่าสงสาร! แต่งงานกับคนแบบนี้ ก็ต้องเจอญาติกลุ่มนี้เกาะไปทั้งชีวิต]
คุณพ่อยังคงด่าทอจางชวน
“แกไม่พูด ฉันพูดเอง พ่อแม่ของเหวินเหวินก็อยู่ไม่ใช่เหรอ? ฉันจะไปพูดกับพวกเขา พวกเขาอยากให้ลูกสาวแต่งเข้าตระกูลของเรา ก็ต้องแสดงความจริงใจบ้างสิ! ตระกูลจางของพวกเรา ไม่ได้เข้ามาง่าย ๆ หรอกนะ”
พูดแล้ว พ่อจางก็หันหลังเดินเข้าไปในบ้าน
จางชวนรีบดึงแขนเขาไว้ พยายามห้ามเขา
เหวินเหวินเห็นพวกเขาฉุดกระชากกัน ก็รีบเดินมา “อาชวน คุณลุง เป็นอะไรไปเหรอคะ?”
จางชวนรีบปล่อยมือ “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร”
พ่อจางก็ยิ้ม ก่อนจะรีบจากไปอย่างรวดเร็ว
จางชวนปลอบใจเธอ ก่อนจะเล่าเรื่องที่พ่อของตนพูดให้ฟัง
เหวินเหวินเงียบงัน
แม้เธอจะรู้สถานการณ์ของครอบครัวแฟนหนุ่มอยู่แล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าพ่อของเขาจะไร้เหตุผลขนาดนี้
สีหน้าฝ่ายหญิงลำบากใจมาก
จางชวนเจ็บปวดขึ้นมา “เธอสบายใจได้เลย ถ้าเขากล้ามาขอเงินจากเธอ ฉันจะไม่แต่งงาน”
เธอโพล่งอย่างตกใจ “พวกเราจะไม่แต่งงานกันเหรอ?”
จางชวน “แต่งสิ! แต่ฉันจะแต่งเข้า! ฉันจะแต่งเข้าตระกูลของเธอ ฉันจะคอยดูว่าเขาจะพูดยังไง! ตระกูลจางเข้ายากนักใช่ไหม อย่างนั้นพวกเราก็ไม่ต้องเข้า”
หลังจากเหวินเหวินได้ยิน เธอก็เผยรอยยิ้มออกมาบนใบหน้า ก่อนคล้องแขนจางชวนไว้ “ดีจังเลย พวกเรากลับกันเถอะ จะได้กันไม่ให้พ่อแม่ทะเลาะกับคุณลุงคุณป้า”
ไม่ต่างจากที่พวกเขาคิด เมื่อกลับมาถึงบ้าน พ่อจางก็พูดสิ่งที่ตนเองต้องการออกมา
เขาพูดด้วยท่าทางมั่นใจ “ผมรู้ว่าครอบครัวของพวกคุณมีเงิน ไม่เดือดร้อนอะไร ผมไม่ขอเยอะหรอก แค่ให้ลูกชายคนเล็กของพวกเราซื้อบ้านในเมืองกับรถสักคันก็พอ”
“ดูจากสถานการณ์ของครอบครัวพวกคุณ ไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินใช่ไหมล่ะ”
สีหน้าพ่อแม่ของเหวินเหวินดูไม่ดีเอาเสียเลย
หากไม่ใช่เพราะถูกอบรมสั่งสอนมาอย่างดี คงจะลุกหนีไปนานแล้ว
พวกเขารอจนเหวินเหวินมาถึงก็รีบดึงลูกสาวมา และพูดกับครอบครัวจางว่า “ตระกูลจางของพวกคุณเข้ายาก เหวินเหวินของเราคงปีนเข้าไปไม่ไหว”
พูดจบ ก็ดึงลูกสาวเตรียมจะจากไป
พ่อจางได้ยินก็ร้อนใจ รีบขยิบตาให้ลูกชาย
จางชวนเดินเข้าไปพูดกับพ่อแม่ของเหวินเหวิน “คุณลุงคุณป้า ขอโทษครับ ครอบครัวของผมให้การต้อนรับไม่ดีเอง”
“ผมอยากใช้ชีวิตร่วมกับเหวินเหวินด้วยความจริงใจ ในเมื่อตระกูลจางเข้ายาก ไม่ทราบว่าตระกูลเหวินเข้าง่ายหรือเปล่าครับ?”
“ผมแต่งเข้าได้นะครับ ต่อไปถ้าเหวินเหวินยอมมีลูก ผมจะให้ลูกใช้แซ่เหวิน”
“ตอนนี้ผมไม่มีอะไรเลย มีแค่เงินเก็บในบัญชีเล็กน้อยกับรถราคาหนึ่งแสนหยวน แต่ผมสัญญาครับ หลังจากนี้ผมจะขยัน ผมจะทำให้เหวินเหวินมีชีวิตที่ดีอย่างแน่นอน”
พ่อจางมองจางชวนอย่างไม่อยากจะเชื่อ “แก… แกไม่ขายหน้าบ้างหรือไง! แต่งเข้าเหรอ ถ้าแกพูดออกไป คนตระกูลจางจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
จางเหอ น้องชายของจางชวนพูดอย่างไม่พอใจ “พี่… พี่จะแต่งเข้า แล้วผมจะบอกกับภรรยาในอนาคตของผมยังไง! อีกอย่างเงินเก็บพวกนั้น พี่ควรเอาออกมาตอบแทนพ่อแม่ไม่ใช่หรือไง?”
แม่จางก็พูดเสียงเบาว่า “เสี่ยวชวนอย่าทำให้พ่อโกรธเลยนะ ขอโทษพ่อของแกซะ!”
จางชวนมองคนตระกูลเหวินอย่างจริงใจ โดยไม่สนใจคนบ้านตัวเองที่ส่งเสียงเอะอะอยู่โดยรอบ
พ่อแม่ของเหวินเหวินมองออกว่าแฟนลูกสาวเป็นคนจริงใจ และสงสารที่เขามีพื้นฐานครอบครัวแบบนี้
แต่ว่า…
“จางชวน พวกเรารู้ดีว่าเธอเป็นเด็กดี แต่ว่า… เหวินเหวินเป็นลูกที่พวกเราเลี้ยงดูมาด้วยความรัก พวกเราทนมองเธอทุกข์ทรมานไม่ได้”
พ่อแม่ตระกูลเหวินพูดกับลูกสาวว่า “ความรักกินไม่ได้หรอกนะ และไม่สามารถป้องกันปัญหากวนใจที่เกิดขึ้นในชีวิตได้ โดยเฉพาะ…”
ปัญหากวนใจที่มาจากครอบครัวที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เหล่านี้
[1] โวลเดอมอร์ (扶弟魔) ในอินเทอร์เน็ตจีนเป็นคำแสลงใช้เรียกพี่สาวคนโตในครอบครัวที่มีค่านิยมรักลูกชายมากกว่าลูกสาว และให้พี่สาวรับผิดชอบน้องชายทุกอย่าง