เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 14 เหรียญห้าจักรพรรดิ
เวลาผ่านไปจนกระทั่งออกมาจากถนนโบราณ ซ่งจือหนานถึงหมดความอดทน เอ่ยถามว่า “เจ้าหมอดูนั่นเป็นนักต้มตุ๋น ทำไมคุณถึงช่วยเขาล่ะ?”
“ไม่ได้ช่วยเขา… ช่วยไม่ให้คนอื่นถูกเขาหลอกอีกต่างหาก”
ฉู่ลั่วรู้สึกได้ว่า เวลาที่เธอช่วยคน พลังวิญญาณจะเพิ่มขึ้น
เมื่อกี้เธอช่วยหมอดูนักต้มตุ๋นไว้ พลังวิญญาณก็เพิ่มขึ้นด้วย
แต่เจ้านักต้มตุ๋นคนนี้ไม่ได้มาจากทางไลฟ์สตรีม
ก็หมายความว่าต่อให้ไม่ใช่ทางไลฟ์สตรีม ขอเพียงเธอสั่งสมคุณธรรมความดี ก็สามารถเพิ่มพลังวิญญาณได้เช่นกัน
ซ่งจือหนานไม่ได้ล่วงรู้ถึงความคิดในใจของฉู่ลั่ว จึงได้แต่ลอบถอนหายใจ
ปรมาจารย์ก็คือปรมาจารย์… สูงส่งกว่าคนทั่วไปในโลกนี้
ซ่งจือหนานไปส่งฉู่ลั่วที่บ้านตระกูลฉู่
ฉู่ลั่วบอกกับเขาว่า “นายรอก่อน”
เธอถือกล่องใส่เหรียญขึ้นไปบนห้อง เปิดกล่องออก แล้วหยิบเอาด้ายแดงสามเส้น เอาเหรียญโบราณมาร้อยเข้าด้วยกัน
ก่อนจะยกมือขึ้นมาสร้างผนึก ดวงตาของเธอวูบไหวไปมา
เหรียญโบราณทั้งสิบห้าเหรียญเปล่งแสงสีทองออกมาจาง ๆ
เพียงชั่วครู่ ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
ซ่งจือหนานที่ดูอยู่ข้าง ๆ ถึงกับขยี้ตาตัวเอง “พี่ลั่ว เมื่อกี้ผมเห็นแสงสีทอง ผมตาฝาดไปหรือเปล่า?”
ตั้งแต่รู้จักกับฉู่ลั่ว ทัศนคติที่เขามีต่อโลกนี้ก็ถูกทำลายและเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา
ฉู่ลั่วไม่ได้ตอบคำถามของเขา แต่เอาเหรียญทองแดงสามแถวยื่นให้แทน “นี่คือเหรียญห้าจักรพรรดิ ถ้านายอยากขับไล่วิญญาณชั่วร้ายปัดเป่าสิ่งอัปมงคลก็เอามันไปวางไว้เหนือประตูบ้าน หรือไม่ก็เหนือหน้าต่าง แต่จำเอาไว้ว่าอย่าวางตรงข้ามกับประตู”
“ถ้าอยากเรียกโชคลาภเข้ามา ก็เอามันใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์หรือที่เก็บสมบัติ”
“หรือหากอยากเสริมโชคชะตาของตัวเองให้แกร่งขึ้น ก็เอามาสวมติดตัวได้”
ซ่งจือหนานถือเหรียญห้าจักรพรรดิไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง พร้อมเบิกตากว้าง “พี่ลั่ว คุณจะให้สิ่งนี้กับผมเหรอ?”
“อืม เหรียญโบราณพวกนี้นายเป็นคนจ่ายเงิน นี่เป็นของตอบแทนของฉัน” เธอกลัวว่าซ่งจือหนานจะไม่เข้าใจ “นายอย่าคิดว่าเหรียญโบราณพวกนี้ผ่านการออกซิเดชันจนเป็นสนิมแล้ว แต่เหรียญโบราณพวกนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยของจักรพรรดิที่เรืองอำนาจและรุ่งเรืองที่สุดในสมัยโบราณ”
“เหรียญห้าจักรพรรดิผ่านมือผู้คนมานับหมื่น สั่งสมพลังหยางจากร้อยตระกูล…”
“พี่ลั่ว คุณไม่ต้องอธิบายหรอกครับ คุณพูดไปผมก็ไม่เข้าใจ แต่ผมรู้ว่านี่เป็นของดี” แสงสีทองที่ปรากฏขึ้นมาเมื่อครู่ ทำลายทัศนคติที่เขามีต่อโลกไปแล้ว
ของสิ่งนี้เป็นของเขาแล้ว ยังมีอะไรต้องถามอีก?
พี่ลั่ว ไม่สิ… ต่อไปผมเรียกว่าเจ๊ใหญ่ลั่วแล้วกัน ต่อไปเจ๊ใหญ่อยากซื้ออะไร ก็เรียกผมได้เลย!”
เขาตื่นเต้นจนน้ำลายกระเด็นออกมา
ฉู่ลั่วถอยหลังไปหนึ่งก้าวด้วยความรังเกียจ “สิ่งนี้ฉันให้ครอบครัวของนาย จะใช้ยังไงพวกนายก็ตัดสินใจเอาเอง”
ซ่งจือหนานได้รับของดีแล้ว หลังออกจากบ้านตระกูลฉู่ ก็ตรงไปที่โรงพยาบาลทันที!
“พ่อครับ! แม่ครับ! ฉู่ลั่วสุดยอดมาก ๆ เธอต้องเป็นผู้บำเพ็ญที่เก็บตัวฝึกฝนมานานแน่นอน!” ไม่รอให้ซ่งอวิ๋นชิงถาม เขาก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ให้ฟังทั้งหมด!
ไม่ว่าจะเรื่องย้ายหลุมศพ เรื่องหมอดูปลอมที่ถนนโบราณ หรือแม้แต่เรื่องเหรียญห้าจักรพรรดิ
“พ่อครับ แม่ครับ ตอนนั้นสองคนไม่เห็น ฉู่ลั่วทำแบบนี้แล้วก็แบบนี้ เธอพูดออกมาสองสามประโยค แล้วเหรียญโบราณนี่ก็เปล่งแสงสีทอง!”
“ถ้าไม่ใช่เพราะผมได้เห็นกับตา คงคิดว่าเป็นสเปเชียลเอฟเฟกต์ในทีวี!”
หลังฟังที่พล่ามจนจบ ซ่งอวิ๋นชิงก็ลุกขึ้นมาเคาะกำปั้นลงบนศีรษะลูกชายหนึ่งที
“พ่อ ตีผมทำไมเนี่ย!?”
“ยังถามอีกว่าทำไม? แกยังสงสัยในความสามารถของท่านฉู่ลั่วอีกเหรอ ท่านจะซื้อเหรียญโบราณ แกกลับคิดว่าท่านจะโดนหลอก ยังคิดจะเกลี้ยกล่อมไม่ให้ซื้ออีก” ซ่งอวิ๋นชิงถูกความซื่อบื้อของลูกชายทำให้โกรธเข้าแล้ว
ซ่งจือหนานกุมศีรษะตรงที่ถูกตี พลางแก้ตัวเสียงเบาว่า “ผมก็แค่กลัวว่าเธอจะไม่รู้เรื่องวัตถุโบราณเท่านั้นเอง?”
ซ่งอวิ๋นชิงโกรธจนอยากเตะเขาสักที แต่เจ้าลูกชายตัวดีก็หลบได้ “ท่านไม่รู้ แล้วแกจะรู้เหรอ!? แกจะสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำหรือไง?”
ซ่งจือหนานหมดคำพูด “…”