เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 142 ขโมยเด็ก
บทที่ 142 ขโมยเด็ก
พ่อจางตอบเสียงแข็ง “จะไปพออะไรล่ะ! เงินของแกแค่นั้น มันพอซื้อบ้านในเมืองเหรอ?”
“ทำไมจะไม่พอ? หลายปีมานี้ ทุกครั้งที่ผมส่งเงินกลับมาให้ที่บ้าน ผมจำได้ทุกเหมา*[1] หลายปีมานี้มันมากพอจะเอาไปวางดาวน์ได้แล้วนะครับ!”
“วางเงินดาวน์เหรอ แล้วต่อไปถ้าต้องชำระคืนเงินกู้จะทำยังไง?”
พ่อจางคับข้องใจเป็นอย่างมาก แม่จางก็ร้องไห้ออกมา “พวกเราเลี้ยงแกมาไม่ง่ายเลย ตอนเด็ก ๆ แกมีไข้ พวกเราต้องฝ่าสายฝนตอนกลางคืนเพื่อพาแกไปส่งโรงพยาบาล”
“ตอนนี้ขอให้แกเอาเงินออกมาให้นิดหน่อย แกกลับไม่ยอมให้”
จางชวนเงียบงัน “…”
หลังจากรู้ว่าพ่อแม่เป็นพ่อแม่บุญธรรม เขาทั้งจนใจทั้งปวดใจ
เพราะเพิ่งเข้าใจว่าทำไมหลังจากน้องชายเกิด ท่าทีของพ่อแม่จึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคนขนาดนั้น
ไม่ใช่เพราะน้องชายยังเด็ก แต่เป็นเพราะเขาไม่ใช่ลูกชายแท้ ๆ
พ่อแม่ของตระกูลเหวินเดินออกมา “เงินพวกเราจ่ายให้ได้ แต่ต้องเซ็นสัญญาก่อน เพื่อเป็นการรับรองว่าต่อไปพวกคุณจะไม่มายุ่งกับลูกชายของฉันอีก ไม่อย่างนั้น พวกเราจะไม่ให้เงินแม้แต่แดงเดียว”
เดิมทีคนตระกูลจางไม่เห็นด้วย แต่เห็นท่าทางหนักแน่นของคนตระกูลเหวิน ก็กลัวว่าจะไม่ได้เงิน จึงยอมตกลง
ในตอนนี้เอง เสียงของฉู่ลั่วก็ดังขึ้นมา “เก็บเงินเอาไว้ก่อนเถอะค่ะ สิ่งที่พวกคุณต้องคิดในตอนนี้คือ หลังจากที่ลูกชายของคุณหายตัวไป เขามาอยู่ที่บ้านตระกูลจางได้ยังไง?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ทุกคนในที่นั้นก็เงียบไปหลายวินาที
คนตระกูลเหวินนิ่งไป พ่อเหวินขมวดคิ้วแล้วถามพ่อแม่ตระกูลจางอย่างจริงจัง “ลูกชายของผมมาอยู่ที่บ้านตระกูลจางได้ยังไง?”
พ่อจางแอบหลบสายตา “เก็บมาน่ะสิ! ก็เหมือนลูกสาวพวกคุณนั่นแหละ เก็บได้จากข้างถนน”
ฉู่ลั่วแย้งเสียงเรียบ “ไม่ใช่เก็บได้ค่ะ… ตอนนั้นพวกคุณอยู่ในโรงพยาบาลเดียวกัน คุณได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะมีบุตรยาก เพื่อให้ได้ลูกชาย พวกคุณเลยขโมยเด็กคนหนึ่งมาจากห้องคลอด”
พ่อจางโต้กลับเสียงดัง “ไม่ใช่! ฉันไม่ได้ขโมย! พวกเราเก็บได้จากข้างถนน เธอพูดแบบนี้ มีหลักฐานรึเปล่า?”
ฉู่ลั่วตอบ “ถึงตอนนั้นโรงพยาบาลจะไม่มีการรักษาความปลอดภัย แต่ก็มีประวัติการรักษา แค่ไปตรวจสอบดู จะพบว่าตอนนั้นพวกคุณมีบันทึกการรักษาที่โรงพยาบาลเดียวกัน”
พ่อจางยังอยากเถียงต่อ แต่แม่จางกลับคุกเข่าลงบนพื้น กอดขาจางชวนเอาไว้ พร้อมร้องห่มร้องไห้พลางสารภาพว่า
“เสี่ยวชวน! ตอนนั้นพวกเราไม่มีทางเลือกจริง ๆ ถ้าไม่มีลูกชายพวกเราจะอยู่ต่อไปได้ยังไง!”
“พวกเรารักลูกเหมือนเป็นลูกชายแท้ ๆ ลูกอยากกินอะไร พวกเราก็หามาให้ ลูกอยากเข้าโรงเรียน พวกเราก็ยอมให้ไป”
“พวกเราทำเหมือนลูกเป็นลูกชายแท้ ๆ ของเราจริง ๆ นะ!”
จางชวนเผยสีหน้าเจ็บปวด
เหวินเหวินดึงเขามาจากโจรลักพาตัวด้วยความโกรธ ตวาดใส่ว่า “พวกคุณทำเหมือนเขาเป็นลูกชายแท้ ๆ เหรอ? บนตัวเขามีรอยแผลเป็นเยอะมาก เพราะพวกคุณทุบตีเขาไงล่ะ! ที่หลังมือมีรอยแผลน้ำร้อนลวก พวกคุณเป็นคนทำไม่ใช่เหรอ!”
“คุณรู้ไหมว่าเมื่อก่อนเขาดูถูกตัวเองขนาดไหน ทั้งที่เขาเป็นคนเก่งขนาดนั้น กลับคิดว่าตัวเองสู้คนอื่นไม่ได้เลย”
พูดจบ เหวินเหวินก็น้ำตาไหลออกมา “ทั้งที่เขาควรจะ… ควรจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข รู้บ้างไหม!?”
เธอดึงเสื้อของจางชวนขึ้น เผยให้เห็นรอยแผลเป็นที่บนหน้าท้อง และบนแผ่นหลัง
รอยเหล่านี้เป็นรอยจากการทุบตีของพ่อแม่จาง
แม่ของเหวินเหวินเสียงสั่น น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด “พวกคุณขโมยลูกของฉันไป แล้วยังทำร้ายเขาอีก!”
เธอมองรอยแผลเป็นบนตัวลูกชายด้วยความเจ็บปวดใจ
จางชวนดึงเสื้อลงอย่างไม่ใส่ใจ “ไม่เป็นอะไรหรอกครับ มันผ่านไปแล้ว พอผมโตขึ้น พวกเขาก็ไม่ตีผมแล้ว”
เหวินเหวินพูดไม่ออก
พ่อแม่ตระกูลเหวินก็เช่นกัน
พ่อจางพูดด้วยสีหน้าไร้สำนึก “ลูกบ้านไหนไม่โดนตีบ้าง! ลองไปถามคนในหมู่บ้านสิ ลูกบ้านไหนไม่เลี้ยงมาแบบนี้บ้าง?”
สีหน้าของจางชวนเรียบเฉยและเย็นชา “ตั้งแต่เด็กจนโต คุณเคยตีน้องชายสักครั้งไหม?”
พ่อจางโพล่งออกมา “เพราะน้องชายของแกเป็นเด็กดีเชื่อฟังฉันไม่ใช่หรือไง? เด็กที่เชื่อฟัง ทำไมต้องตีด้วย?”
จางชวนได้แต่นิ่งเงียบ
เขาหัวเราะเยาะตัวเองในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า!
[1] 笔 เหมา ค่าเงินของจีน 10 เหมา เท่ากับ 1 หยวน