เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 148 มนุษย์เอาชนะสวรรค์ได้
บทที่ 148 มนุษย์เอาชนะสวรรค์ได้
ฉู่ลั่วตัดไลฟ์ ปิดคอมพิวเตอร์ แต่ยังคงนั่งเงียบ ๆ อยู่ที่โต๊ะ
[นายหญิง อารมณ์ไม่ดีเหรอ?]
เสียงระบบดังขึ้นมา
ฉู่ลั่วถาม “ลูกรักสวรรค์อยากได้อะไรก็ต้องได้จริง ๆ เหรอ? ไม่ว่าสิ่งที่เธอทำจะเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง สวรรค์ก็จะช่วย อย่างนั้นใช่ไหม?”
[…บางทีสวรรค์อาจจะแค่มอบโชคดีให้ แต่ไม่รู้ว่าลูกรักสวรรค์จะเอามันมาใช้ทำอะไรก็ได้]
[อีกอย่าง มนุษย์ก็มักพูดว่าตนเองเอาชนะสวรรค์ได้ไม่ใช่เหรอ?]
ฉู่ลั่วไม่พูดอะไร
เธอคำนวณดวงชะตาของฉู่เหิงแล้ว ไม่ว่าตอนนี้เขาจะหาไฟลต์บินตามไปทัน หรือจะนั่งเครื่องบินส่วนตัว หรือต่อให้คนในเมืองตี้ตูช่วยเหลือ
…ก็ไม่อาจรั้งอีกฝ่ายไว้ได้
หากไม่ใช่เพราะฉู่หร่านปรากฏตัวขึ้นมารั้งพี่ชายใหญ่เอาไว้ เขาก็จะขึ้นเครื่องบินรอบล่าสุดจากสนามบินตี้ตูทัน
พลาดไปแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น
แต่ไม่กี่นาทีนี้… สามารถเปลี่ยนทั้งชีวิตของฉู่เหิงได้เลย
ฉู่ลั่วหลับตาลงพลางเอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างอ่อนล้า
ระบบปลอบใจ
[นายหญิง คุณอย่าผิดหวังเกินไปเลย ครั้งนี้ล้มเหลว ไม่ได้หมายความว่าต่อไปจะล้มเหลว]
[ถ้าพี่ชายไม่ยอมแพ้ นายหญิงเองก็คงไม่คิดจะยอมแพ้ใช่ไหม]
“ฉู่ลั่ว”
เสียงแหบพร่าที่ทุ้มต่ำเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
เด็กสาวค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ก็เห็นร่างที่อยู่ในสถานะวิญญาณของฮั่วเซียวหมิง
เขายืนตรงข้ามโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าเธอ สีหน้าแสดงออกถึงความกังวล “สีหน้าคุณไม่ดีเลยนะ เพราะฉู่เหิงเหรอ?”
ฉู่ลั่วส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นอะไร”
เธอยืนขึ้น “ฉันไปนั่งบำเพ็ญก่อนนะ”
ฮั่วเซียวหมิงลอยมาขวางอยู่ตรงหน้าเธอ
วิญญาณหนุ่มก้มตัวลงเล็กน้อย เข้ามาใกล้หญิงสาวมากขึ้น “ถ้าสาเหตุมาจากเรื่องของฉู่เหิง ผมช่วยคุณได้”
ฉู่ลั่วเงยหน้าขึ้นมาสบตาอีกฝ่าย “คุณ… ช่วยฉันได้งั้นเหรอ?”
ฮั่วเซียวหมิงกดคางลง “โทรหาพ่อแม่ผมสิ แล้วเล่าเรื่องราวให้พวกเขาฟัง พวกเขาจะรั้งอีกฝ่ายไว้ได้”
ฉู่ลั่วเงียบไปสักพักหนึ่งก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา
“ถ้าครั้งนี้พ่อแม่ของคุณช่วยพี่ใหญ่ได้จริง ฉันจะรับผิดชอบเรื่องพาคุณกลับเข้าร่าง และจะไม่คิดเงินแม้แต่แดงเดียว”
ฮั่วเซียวหมิงยิ้มละไม “ได้ คุณต้องรับผิดชอบให้ถึงที่สุดเลยนะ!”
“แน่นอน!”
แค่ฉู่ลั่วกดโทรออก ทางนั้นก็รับสายอย่างรวดเร็ว
“คุณนายฮั่ว สวัสดีค่ะ หนูเองนะคะ… ฉู่ลั่ว”
ตอนแรกอีกฝ่ายน้ำเสียงเย็นชามาก แต่พอได้ยินชื่อฉู่ลั่ว น้ำเสียงก็ฟังดูตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที “ลั่วลั่วเองเหรอ! ก่อนหน้านี้บอกแล้วว่าให้หนูติดต่อพวกเรามาบ่อย ๆ แต่หนูไม่โทรมาหากันบ้างเลย”
หยางไต้หัวเราะคิกคักขณะที่พูดคุย
ความกระตือรือร้นนี้ทำให้ฉู่ลั่วรู้สึกเกรงใจขึ้นมา
“คุณนายฮั่วคะ ที่จริงฉันมีเรื่องให้คุณช่วยค่ะ”
หยางไต้ได้ยินดังนั้น ก็รีบตอบว่า “ได้สิ! หนูบอกมาเลยว่าเรื่องอะไร ขอแค่ตระกูลฮั่วของเราจัดการได้ จะต้องจัดการให้แน่นอน”
ฉู่ลั่วรีบเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง “รบกวนคุณนายฮั่วแล้วค่ะ”
“ไม่รบกวน เรื่องแค่นี้เรียกว่ารบกวนอะไรกัน หนูรอก่อนนะ ฉันจะต้องรั้งคนเอาไว้ได้แน่นอน”
ฉู่ลั่วพูดขอบคุณอีกครั้ง
หลังจากวางสาย เด็กสาวก็มองโทรศัพท์มือถือด้วยความสงสัย
ฮั่วเซียวหมิงถาม “เป็นอะไรไป ยังกังวลอยู่เหรอ? ตระกูลฮั่วออกหน้าให้ โอกาสที่จะรั้งเอาไว้ได้ก็มากทีเดียว”
ฉู่ลั่วส่ายหน้า “ไม่ได้กังวล ฉันแค่รู้สึกแปลกเท่านั้นเอง ท่าทางที่แม่ของคุณมีต่อฉัน ดูกระตือรือร้นเกินไปหน่อยหรือเปล่า”
ฮั่วเซียวหมิงกะพริบตาปริบ
“งั้นเหรอ? แต่ท่าทีที่คนตระกูลซ่งมีต่อคุณก็กระตือรือร้นแบบนี้นี่?”
ฉู่ลั่วยังคงส่ายหน้า “มันรู้สึกไม่เหมือนกัน”
แต่ไม่เหมือนกันตรงไหน เธอเองก็แยกไม่ออก
ฮั่วเซียวหมิงมองฉู่ลั่วยืนงุนงงไปพลางโทรหาฉู่เหิงไป มุมปากก็เผยให้เห็นถึงรอยยิ้มจาง ๆ
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวกับเฉิงยวนที่ยืนอยู่มุมห้อง และทำเหมือนตัวเองล่องหนอยู่ตลอดเวลาต่างหันมามองหน้ากัน
เฉิงยวนเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะดึงซ่งเมี่ยวเมี่ยวออกไป
หนุ่มสาวสมัยนี้อี๊อ๊อกัน ไม่เห็นเด็กกับคนชราอยู่ในสายตาเสียเลย…
…
สนามบินตี้ตู
“ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว เธอหยุดเล่นโทรศัพท์ได้แล้ว!”
“เอ๊ะ หมอเวิน ฉันกำลังดูไลฟ์สตรีมอยู่” เหยาจินเกอยื่นมือถือไปให้ แต่เพิ่งจะยื่นออกไป ไลฟ์สตรีมก็จบลงแล้ว “เฮ้อ… ทำไมไลฟ์สตรีมถึงจบแล้วล่ะ!”
เวินอวิ๋นเสาเพียงแค่กวาดตามอง ก็หันหน้าไปทางอื่น
“เจ้าของช่องคนนี้เก่งมากนะ!” เหยาจินเกอพยายามขายสตรีมเมอร์คนโปรดของตนเองให้เธอฟัง “ได้ยินมาว่าเธอใช้ความสามารถช่วยเหลือผู้คนมากมายเลยละ”
เวินอวิ๋นเสาพูดด้วยรอยยิ้ม “โอเค โอเค ถ้ามีโอกาสจะไปลองดูแล้วกัน”
“ครั้งนี้เหมือนจะช่วยคุณชายคนหนึ่งตามหาความรัก เจ้าของช่องบอกว่าชั่วชีวิตนี้คุณชายคนนี้จะมีดวงแต่งงานแค่ครั้งเดียว หากพลาดไปแล้ว ก็จะไม่มีโอกาสอีกเลย”
แต่งงานเหรอ…
เวินอวิ๋นเสายิ้มอย่างจนใจ เธอหยิบมือถือขึ้นมาอ่านข้อความที่แม่ของเธอส่งมาให้
พ่อของเธอป่วย สิ่งเดียวที่เขาปล่อยวางไม่ลงก็คือเธอ
พ่อแม่อยากให้เธอหาคนมาแต่งงานด้วย
เวินอวิ๋นเสาถือโทรศัพท์ไว้ พร้อมกับถอนหายใจออกมาเบา ๆ
เธอส่งข้อความไปให้แม่ของเธอหนึ่งข้อความ
[แม่คะ ทำตามที่แม่บอกเลยค่ะ เอาเบอร์โทรหนูส่งไปให้อีกฝ่าย หนูจะลองคุยกับทางนั้น ถ้าเข้ากันได้ดีก็จะแต่งงานให้เร็วที่สุด]
เธอเพิ่งกดส่งข้อความไป
ทันใดนั้นสนามบินก็มีเสียงประชาสัมพันธ์ดังขึ้น “คุณเวินอวิ๋นเสา โปรดมาที่ห้องประชาสัมพันธ์ในเวลานี้ด้วยค่ะ คุณเวินอวิ๋นเสา โปรดมาที่ห้องประชาสัมพันธ์ในเวลานี้ด้วยค่ะ”
เวินอวิ๋นเสาตัวเลิกคิ้วอย่างงุนงง “ฉันเหรอ?”