เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 151 ตอบฉันมา
บทที่ 151 ตอบฉันมา
บ้านตระกูลฉู่
ซ่งเชียนหย่ามองลูกสาวที่เพิ่งปลอบเสร็จ ก่อนจะพูดอย่างเหนื่อยใจว่า “ลูกนี่นะ! ยังเหมือนตอนเด็ก ๆ ไม่มีผิด จิตใจเปราะบางมาแต่ไหนแต่ไร ต้องให้แม่คอยโอ๋ตลอด”
“ต้องให้แม่ปลอบถึงจะหายนี่คะ” ฉู่หร่านคล้องแขนอีกฝ่าย “แม่คะ พี่ใหญ่ไปหาผู้หญิงคนนั้น… หาเจอหรือเปล่าคะ?”
ซ่งเชียนหย่าหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กดเข้าไปในแพลตฟอร์มไลฟ์สตรีม แม้ว่าไลฟ์สตรีมของฉู่ลั่วจะจบลงแล้วก็ตาม
แต่ในแพลตฟอร์มยังมีคลิปวิดีโอไลฟ์สตรีมในครั้งนี้อยู่จำนวนไม่น้อย
มีบางคนลงเรื่องราวต่อจากนี้ไว้ด้วย
บ้างก็บอกว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่พบพี่สาวคนนั้นที่ไหนเลย
บางคนไปตามหาที่สนามบินด้วยตัวเอง แต่บอกว่ารอจนกระทั่งขึ้นเครื่อง ก็ไม่เห็นฉู่เหิง
[ฉันคิดว่าต้องคลาดกันแน่เลย]
[เจ้าของช่องบอกแล้ว ถ้าพลาดไป ชีวิตนี้พี่ชายจะไม่ได้แต่งงานอีกแล้ว น่าสงสารจังเลย]
[หวังว่าพี่สาวจะได้เห็นคลิปวิดีโอนะ จะได้รู้ว่าพี่ชายกำลังตามหาเธออยู่ และเป็นฝ่ายเริ่มตามหาด้วย]
[เจ้าของช่องพูดไว้ชัดเจนมากนะ ถ้าวันนี้พลาดไปแล้ว พวกเขาก็ไม่มีโอกาสอีกแล้วนะ หรือต่อให้เจอกันอีกครั้ง ก็ไม่ได้แต่งงานกันแล้วละ]
ซ่งเชียนหย่าอ่านความคิดเห็นเหล่านั้นก็หน้าถอดสี
ฉู่หร่านก็ยื่นหน้าเข้าไปดู เมื่อเห็นข้อความบนหน้าจอ มุมปากของเธอยกขึ้น ก่อนจะรีบกลั้นรอยยิ้มของตัวเองไว้
“แม่คะ อย่าเสียใจไปเลยนะคะ ลั่วลั่วเก่งขนาดนี้ ต้องช่วยหาคู่ชีวิตให้พี่ใหญ่ได้แน่นอนค่ะ”
ซ่งเชียนหย่าส่ายหน้าช้า ๆ
ลั่วลั่วเก่งมากก็จริง แต่ว่า…
เนื้อคู่คนเดียวของอาเหิง กลับคลาดกันไปแล้ว
ฉู่หร่านปลอบโยนแม่อย่างอ่อนโยน หลังจากไปส่งซ่งเชียนหย่าแล้ว เธอก็ปิดประตูห้องนอน และหัวเราะออกมาอย่างอุกอาจ
ซ่งเชียนหย่ากลับไปที่ห้องนอน และคุยเรื่องของฉู่เหิงกับฉู่เหว่ยฮ่าว
ฉู่เหว่ยฮ่าว “…”
“หลังจากนี้ค่อยดูกันอีกทีเถอะ ถ้าอาเหิงเป็นอย่างที่ลั่วลั่วบอกจริง มีเส้นสมรสแค่เส้นเดียว ทั้งยังขาดไปแล้ว… ก็ทำอะไรไม่ได้”
ซ่งเชียนหย่า “…”
สองสามีภรรยานอนลงบนเตียงด้วยความหดหู่ พวกเขาพลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับ ทั้งที่คุยกันจบแล้ว ก็ยังได้ยินเสียงสะท้อนอยู่ในหู
หลายชั่วโมงต่อมา ขณะทั้งคู่กำลังจะเคลิ้มหลับไป ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูแรง ๆ ดังขึ้นมา
ปัง! ปัง! ปัง!
ซ่งเชียนหย่าลืมตาขึ้น “เกิดอะไรขึ้น?”
ฉู่เหว่ยฮ่าวหยิบเสื้อคลุมมา “ผมจะออกไปดูเอง”
“ฉันไปด้วยค่ะ”
เพิ่งเปิดประตูออกมา ก็เห็นพ่อบ้านวิ่งหน้าตาตื่นมาหา “นายท่าน! คุณนาย! คุณชายใหญ่สีหน้าโกรธมาก เขากำลังไปหาคุณหนูหร่านครับ”
“หร่านหร่าน!?”
“เขาไปหาหร่านหร่านทำไม?”
สองสามีภรรยารีบร้อนมายังชั้นสอง ก็เห็นฉู่เหิงที่ท่าทางเย็นชา กำลังบีบคั้นให้ฉู่หร่านตอบคำถาม
ส่วนลูกสาวฟุบนั่งลงบนพื้น ร้องไห้อย่างน่าสงสาร
ฉู่เหว่ยฮ่าวพุ่งตัวเข้าไปดึงฉู่เหิงออกมา ก่อนจะยกมือขึ้นมาต่อยหน้าลูกชายไปหนึ่งที “แกทำอะไร? แกโมโหแล้วมาลงกับน้องสาวได้ยังไง!?”
ซ่งเชียนหย่าก็ปกป้องฉู่หร่าน “หร่านหร่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม อาเหิงลงไม้ลงมือกับลูกหรือเปล่า?”
เธอประคองฉู่หร่านและจะพาออกไป
แต่ถูกฉู่เหิงขวางเอาไว้ “เธอยังไม่ได้ตอบคำถามฉัน…”
ฉู่หร่านร้องไห้เสียใจยิ่งกว่าเดิม
“แกทำให้น้องสาวแกตกใจขนาดนี้แล้วเห็นไหม!” ฉู่เหว่ยฮ่าวเข้ามาบังลูกสาวไว้ “ถ้าแกอยากตีเธอ ก็ตีฉันก่อน”
ฉู่เหิงหรี่ตา
เขามองดูพ่อแม่ที่พยายามปกป้องฉู่หร่านอย่างเต็มที่ ในตอนนั้นเอง เขาก็นึกถึงตอนที่ฉู่ลั่วเพิ่งกลับมาบ้านซ้อนทับกับภาพตัวเองตอนนี้
“พ่อครับแม่ครับ พ่อกับแม่ไม่แม้แต่จะถามสักคำ ก็โยนความผิดมาให้ผมแล้วเหรอ?” ฉู่เหิงถามเสียงเรียบ “เหอะ! ที่แท้ เมื่อก่อนพ่อกับแม่ก็ทำกับลั่วลั่วแบบนี้นี่เอง”
เมื่อความลำเอียงนั้นเกิดขึ้นกับตัวเองบ้าง ชายหนุ่มจึงสัมผัสได้ถึงความผิดหวังอย่างชัดเจน
“ฉู่หร่าน ไม่ว่าวันนี้เธอจะร้องไห้หนักขนาดไหน แต่เธอต้องตอบฉันมาหนึ่งข้อ” ฉู่เหิงใบหน้าเย็นชา ไม่สนใจสักนิดว่าใบหน้าของตนถูกต่อยจนบวม “ตอนนั้นเธอไปหาเวินอวิ๋นเสาทำไม ทำไมถึงบอกให้เวินอวิ๋นเสาเปลี่ยนสถานที่นัดพบ?”
“เธอรู้อยู่แล้วว่าฉันชอบเวินอวิ๋นเสามากแค่ไหน ทั้งครอบครัวฉันบอกเธอแค่คนเดียว”
“ฉันเห็นเธอเป็นน้องสาวที่ฉันรักมากที่สุด …ก็เลยบอกความลับนี้กับเธอแค่คนเดียว”
“ทำไมเธอถึงทำแบบนี้!?”
ฉู่หร่านสะอื้นโดยไม่พูดอะไร
ฉู่เหิงก้าวเข้าไปอีกหนึ่งก้าว “ตอบฉันมา!”
เธอซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของซ่งเชียนหย่าด้วยความหวาดกลัว แถมร้องไห้สะอึกสะอื้น
ซ่งเชียนหย่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น “ลูกพูดอะไร?”
ฉู่เหิงไม่ได้อธิบาย เขาแค่มองคนที่เคยคิดว่าเป็นน้องสาวด้วยสายตาโกรธแค้น
ฉู่หร่านก็เอาแต่ร้องไห้ ไม่พูดอะไรสักคำเดียวเหมือนเดิม
“เอาละ! หร่านหร่านร้องจนเป็นลมไปแล้ว ลูกเป็นพี่ชายก็ไม่ควรทำกับเธอขนาดนี้ไหม? มีเรื่องอะไรสำคัญกว่าน้องสาวของลูกอีกเหรอ!” ซ่งเชียนหย่าผลักชายหนุ่มอย่างโมโห
ว่าแล้วก็พาฉู่หร่านกลับไปที่ห้อง พร้อมกับปิดประตูเสียงดัง
ปัง!
ฉู่เหว่ยฮ่าวมองลูกชายที่ถูกต่อย “มีเรื่องอะไรทำไมคุยกันดี ๆ ไม่ได้ ถึงกับต้องลงไม้ลงมือกับน้องสาวเลยเหรอ”
ฉู่เหิงหลับตาด้วยความเหนื่อยล้า “ผมไม่ได้ทำอะไร ผมแค่ถามเธอคำถามเดียว เธอก็ร้องขนาดนั้นแล้ว แถมยังล้มลงไปบนพื้นเองอีก”
พ่อถามต่อ “…แล้วแกถามอะไรน้องสาวแก?”
ฉู่เหิงค่อย ๆ ลืมตาขึ้น น้ำเสียงราบเรียบ เขาเอ่ยออกมาโดยไม่มีอารมณ์โกรธเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว “ผมถามเธอว่า ทำไมต้องหลอกอวิ๋นเสา? ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ผมกับอวิ๋นเสาก็ไม่ต้องเข้าใจผิดจนเลิกกัน”
ฉู่เหว่ยฮ่าวแทบไม่เชื่อที่ได้ยิน “…เข้าใจผิด? เลิกกัน?”