เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 159 เด็กดีตัวใหม่
บทที่ 159 เด็กดีตัวใหม่
วันต่อมา ฉู่ลั่วทานอาหารเช้าแล้วถึงให้หัวหว่านพางูสวาทลงมาข้างล่าง
หลังจากคิดทบทวนมาทั้งคืน จิ่งเจียเหยียนก็เข้าใจสถานการณ์ของตนเองอย่างชัดเจนแล้ว
มันไม่สามารถต่อกรกับคนพวกนี้ได้
มีทางออกเดียวเท่านั้น คือเป็นเด็กดีเชื่อฟัง ไม่ก่อเรื่อง
“นายท่านขา ฉันมาแล้วค่ะ อยากทำพันธสัญญากับฉันหรือเปล่าคะ หรือจะกักขังฉันเอาไว้ในบ้านหลังนี้? หรือว่าจะหาหุบเขาลึก แล้วเอาฉันไปขังไว้ในเขาลึกแห่งนั้นสักร้อยปีสองร้อยปีก็ได้ค่ะ”
“ฉันสำนึกผิดจากก้นบึ้งของทุกอณูรูขุมขนแล้ว!”
ฉู่ลั่วหรี่ตามองมัน “…”
เธอขมวดคิ้ว น้ำเสียงมีความประหลาดใจเล็กน้อย “เธออยากให้ฉันทำพันธสัญญากับเธอเหรอ? อยากให้ฉันกักขังเธอเหรอ?”
คนในบ้านต่างก็มองไปที่มัน
เฉิงยวนมีสายตาแปลก ๆ “คิดไม่ถึงเลยว่า เจ้าจะมีรสนิยมจัดจ้านขนาดนี้!”
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวไม่เข้าใจ “พี่ยวนยวน รสนิยมจัดจ้านคืออะไรเหรอคะ”
“เด็กไม่เข้าใจหรอก รอให้เจ้าโตก่อนเดี๋ยวก็เข้าใจเอง”
หัวหว่านมองด้วยสายตายากจะอธิบายเป็นคำพูด แต่เธอค่อย ๆ ขยับตัว เข้าไปบังฉู่ลั่วไว้ แสดงท่าทางเหมือนกำลังปกป้อง
จิ่งเจียเหยียนเงียบงัน “…”
ตอนแรกเธอพูดสิ่งเหล่านี้ออกมาเพราะความคับข้องใจ คิดไม่ถึงว่า…
“พี่น้องที่ลงเขามาพร้อมกับฉันเคยบอกเอาไว้นี่! ถ้าเจอผู้บำเพ็ญที่จิตใจดี พวกเขาอาจจะขอให้เราทำพันธสัญญา หรือไม่ก็กักขังพวกเราไว้ในหุบเขาลึก” เรียกให้สละสลวยก็คือบำเพ็ญตน
บอกว่าเมื่อไหร่ที่พวกเขารู้ว่าควรทำให้เหมือนมนุษย์ได้อย่างไร ถึงจะปล่อยพวกเราไป
เหอะ!
พวกเขาเป็นปีศาจ ไม่ใช่มนุษย์
เลียนแบบให้เหมือนยังไง ก็ไม่ใช่มนุษย์อยู่ดี
ไม่รู้ว่าสมองของผู้บำเพ็ญพวกนั้นวัน ๆ คิดอะไรบ้าง?
ฉู่ลั่วโบกมือ “ไม่ทำพันธสัญญา และไม่กักขังเธอด้วย แต่มีกฎอยู่สองข้อที่เธอต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด”
ไม่ทำพันธสัญญา?
ไม่กักขัง?
จิ่งเจียเหยียนมองนายหญิงอย่างมีความหวัง “กฎอะไรเหรอคะ ขอแค่ฉันทำได้ ฉันจะต้องทำตามแน่นอนค่ะ”
ฉู่ลั่วเหลือบมองซ่งเมี่ยวเมี่ยว
วิญญาณตัวน้อยชูนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้ว “ข้อแรก ห้ามทำร้ายคน”
จากนั้นก็ชูนิ้วที่สองขึ้นมา “ข้อสอง ห้ามออกจากบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวพูดอย่างเคร่งขรึม “ถ้าพวกเราจะออกไปข้างนอก ต้องบอกพี่ลั่วลั่วก่อน หากพวกเราเจออันตรายข้างนอก พี่ลั่วลั่วก็จะไปช่วยพวกเราได้”
เฉิงยวนเสริม “ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่แล้ว พวกเราไม่ได้ต้องการให้คนช่วยก็ตาม”
จิ่งเจียเหยียนรีบพูดขึ้นมาทันที “ฉันก็ไม่ต้องการให้คนช่วย!”
เธอหมุนตัวหนึ่งครั้ง ก่อนจะเผยหางงูออกมา “ฉันก็เก่งมากเหมือนกัน ไม่ต้องการให้คนช่วยหรอก”
หัวหว่านเบิกตาโพล่ง
เธอคิดไม่ถึงเลยว่า อีกฝ่ายจะเป็นงูจริง ๆ!?
“ว้าว! หางใหญ่มากเลยค่ะ!” ซ่งเมี่ยวเมี่ยวตื่นเต้นมาก เธอมองหางที่ขยับราวกับมีชีวิตด้วยดวงตาเป็นประกาย
จิ่งเจียเหยียนภูมิใจ เธอสะบัดหางไปมา “อยากลูบดูไหม?”
“อยากค่ะ”
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวยกมือขึ้น แล้วพูดเสียงดัง
จิ่งเจียเหยียนยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นก็มาเลย!”
วิญญาณน้อยวิ่งกรูเข้าไป มือเล็กแตะลงบนหางงูเบา ๆ สัมผัสเย็น ๆ ทำให้เธอร้องอุทานด้วยความตกใจ
เฉิงยวนมองด้วยสายตาอิจฉา ก่อนค่อย ๆ ก้าวเข้าไป เมื่อไปอยู่ข้างจิ่งเจียเหยียนแล้ว ก็ยื่นมือออกไปลูบดู
นี่คือปีศาจงูในตำนานจริง ๆ!
หางนี้เย็นมาก!
สมแล้วที่เป็นสัตว์เลือดเย็น
แม้แต่หัวหว่านที่เห็นท่าทางภูมิใจของจิ่งเจียเหยียน ก็เดินเข้าไปลูบดูเช่นกัน
ฉู่ลั่วมองทั้งสามคนที่มุงกันอยู่ตรงนั้น เธอก็หันไปมองฮั่วเซียวหมิงที่ยืนอยู่ด้านข้าง “ถ้าคุณสงสัย ก็ลองไปลูบได้นะ”
ฮั่วเซียวหมิงก้มลงมองมา เห็นสายตาที่จริงใจของฉู่ลั่ว
“…ผมไม่สนใจพวกสัตว์เลื้อยคลานเลือดเย็น”
จิ่งเจียเหยียนที่แอบฟังอยู่อีกด้านหนึ่ง ริมฝีปากก็สั่นระริก เธอแอบด่าในใจเงียบ ๆ ไปหนึ่งประโยค
ฉันเองก็ไม่สนใจพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไร้เหตุผลหรอก!
ให้นายลูบ ถือว่าให้เกียรตินายหรอกนะ
ยังไม่รู้จักสำนึกบุญคุณอีก!
หึ!
จากนั้นเป็นต้นมา ฮั่วเซียวหมิงกลายเป็นคน (?) ที่จิ่งเจียเหยียนเกลียดมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง และตำแหน่งนี้ก็อยู่อย่างมั่นคงมาตลอด แข็งแกร่งจนไม่มีใครสามารถล้มตำแหน่งนี้ลงได้
จิ่งเจียเหยียนเพิ่งจัดตำแหน่งในบ้านฉู่อวิ๋นเสร็จ ซ่งจือหนานก็เข้ามา
เขาพุ่งมาตรงหน้าอดีตคู่หมั้นด้วยท่าทางรีบร้อน “บอกมา เธอลงมือกับเพื่อนของฉันใช่ไหม!?”
จิ่งเจียเหยียนกะพริบตา “ห้ะ?”
“ผู้หญิงที่มากับเธอนั่นไงล่ะ! หลังผู้หญิงคนนั้นคบกับเพื่อนของฉัน ก็หลอกให้เพื่อนฉันซื้อบ้านซื้อรถให้ แถมยังให้เขาโอนเงินให้อีกห้าสิบกว่าล้าน ตอนนี้กลับหายตัวไปแล้ว!” ซ่งจือหนานโกรธแทบตาย “บอกมา พวกเธอเป็นพวกเดียวกันใช่ไหม!?”
จิ่งเจียเหยียนครุ่นคิด ทันใดนั้นก็คิดขึ้นมาได้ “นายหมายถึงหย่าจิ้งเหรอ?”