เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 161 เทพธิดาพยากรณ์
บทที่ 161 เทพธิดาพยากรณ์
ซ่งจือหนานขับรถให้ซ่งเมี่ยวเมี่ยวกับเฉิงยวน
หัวหว่านขับรถให้ฉู่ลั่ว ฮั่วเซียวหมิง และจิ่งเจียเหยียน
ไม่นานรถทั้งสองคันก็ขับมาถึงสถานที่ที่ฉู่ลั่วปักหมุดไว้ มันคือทุ่งหญ้าสำหรับการท่องเที่ยวแถวชานเมือง
เพราะเป็นเวลาทำงาน คนที่มาเที่ยวทุ่งหญ้าจึงมีไม่มาก มองแวบเดียวซ่งจือหนานก็เห็นซุนหย่าจิ้ง เขาหัวเราะเย็นชา แล้วก้าวยาว ๆ เข้าไปหา
รูปลักษณ์ภายนอกของซุนหย่าจิ้งสู้จิ่งเจียเหยียนไม่ได้ แต่บุคลิกมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เธอสวมกระโปรงยาวสีม่วงเข้ม สวมหมวกใบกว้าง นั่งท่าทางสง่างามอยู่บนเก้าอี้ผ้าใบด้านหน้าเต็นท์
นี่น่ะเหรอ อาจารย์ของนังงูพิษที่เล่นงานเพื่อนของเขาเสียหมดสภาพ…
“ซุนหย่าจิ้ง!”
ซ่งจือหนานตะโกนเสียงดัง
อีกฝ่ายเชิดหมวกขึ้นแล้วมองตามเสียง เธอยืนขึ้นโดยไร้ซึ่งอาการตกใจ พร้อมกับยิ้มอ่อนโยน “คุณชายซ่ง คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ? บังเอิญจังเลย”
“บังเอิญกับผีสิ! ฉันตั้งใจมาตามหาเธอต่างหาก กลับไปตี้จิงกับฉัน แล้วเอาเงินมาคืนด้วย”
ซุนหย่าจิ้งเดินตามซ่งจือหนานไปแต่โดยดีไม่มีขัดขืน ระหว่างก้าวขาก็เอ่ยถามไปด้วยว่า “เงิน? เงินอะไรคะ?”
“เธอหลอกเอาเงินเหล่าว่านไปห้าสิบล้าน อย่ามาแกล้งโง่ใส่ฉัน!”
ซุนหย่าจิ้งหยุดฝีเท้าลง “คุณชายว่านบอกคุณแบบนั้นเหรอคะ บอกว่าฉันหลอกเอาเงินเขาเหรอ?”
ซ่งจือหนานทำเสียงไม่พอใจ “หรือว่าไม่ใช่? เขาไม่ได้ให้เงินห้าสิบล้านกับเธอเหรอ”
“ให้ค่ะ”
“ก็ตามนั้นแหละ! เธอได้เงินมาก็หนีไป เพราะเธอหลอกเอาเงินไงล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะเหล่าว่านไม่ยอมแจ้งตำรวจ ตอนนี้เธอคงได้ไปนอนในคุกแล้ว!”
ซุนหย่าจิ้งขอบตาแดงก่ำด้วยความเสียใจ เธอสะอื้นแล้วพูดว่า “คุณชายว่านบอกคุณแบบนั้นเหรอคะ เขาบอกกับทุกคนแบบนี้ใช่ไหมคะ”
แม้ซ่งจือหนานจะโกรธ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่กำลังร้องไห้ เขาก็ทำอะไรไม่ถูก จนเผลอปล่อยมือเธอ “ฉันไม่ได้ทำอะไรให้เธอนะ เธอจะร้องไห้ทำไม!”
พวกฉู่ลั่วก็มาถึงแล้ว จิ่งเจียเหยียนวิ่งเข้ามาผลักเขาด้วยความโกรธ “นายทำอะไรเธอ?”
ซ่งจือหนานยกมือปฏิเสธ “ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย”
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวเอ่ย “น้องชาย จะรังแกเด็กผู้หญิงไม่ได้นะ”
เฉิงยวนเชิดหน้าใส่ “เหอะ!”
“ฉันเปล่านะ! ฉันไม่ได้รังแกเธอ!”
ไม่ว่าซ่งจือหนานจะแก้ตัวอย่างไร ทุกคนต่างก็เข้าใจว่าเขาทำให้ซุนหย่าจิ้งร้องไห้
จิ่งเจียเหยียนที่กำลังปลอบซุนหย่าจิ้งอุทานออกมาด้วยความตกใจ “เธอถูกใครทุบตีมาเนี่ย?”
เธอเปิดแขนเสื้อของซุนหย่าจิ้งขึ้น ก็เห็นรอยฟกช้ำบนร่างกายอย่างชัดเจน “ใครทำร้ายเธอ!”
ทุกคนต่างมองไปที่ซ่งจือหนาน
เขารีบถอยหลัง “ฉันเปล่านะ ฉันไม่ได้ลงมือกับเธอนะ เธอบาดเจ็บได้ยังไงฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน!”
“พี่ลั่ว พี่ช่วยพูดให้ผมหน่อยสิครับ!”
ฉู่ลั่วเดินเข้ามาอย่างเรียบนิ่ง ซุนหย่าจิ้งที่ตอนแรกร้องไห้อยู่ ก็หยุดร้องไปทันที “คุณ… คุณคือเมฆใสเฝ้ามองตะวันคนนั้นใช่ไหมคะ? เทพธิดาที่เก่งกาจด้านการทำนายคนนั้น!”
ซุนหย่าจิ้งเช็ดน้ำตา ไม่สนใจแล้วว่าเครื่องสำอางของตนจะลบหรือไม่
เธอเดินเข้ามาตรงหน้าฉู่ลั่วด้วยความตื่นเต้น “คุณเจ้าของช่อง! ใช่คุณหรือเปล่าคะ? ฉันเป็นแฟนตัวยงของคุณเลยค่ะ คุณไม่ไลฟ์สตรีม แต่ออกมาเที่ยวเล่นเหรอคะเนี่ย”
“ไม่มีครีเอเตอร์คนไหนพักผ่อนเยอะเท่าคุณแล้ว”
“ฉันรอดูไลฟ์สตรีมของคุณอยู่นะคะ”
ฉู่ลั่วมองซุนหย่าจิ้งตั้งแต่หัวจรดเท้า “คุณเกิดมาพร้อมดวงความรักเปี่ยมล้น แต่คุณเป็นคนเย็นชา ไม่เคยจริงใจต่อความรักที่เข้ามาหาคุณ”
“ถึงตอนแรกจะมีความรู้สึกแปลกใหม่ แต่เมื่อคุณได้ตามที่ต้องการแล้ว ความรู้สึกแปลกใหม่นั้นก็หายไป”
ซุนหย่าจิ้งรีบพยักหน้า “ฉันเองก็รู้สึกแปลกใจมากค่ะ ตอนแรกฉันชอบพวกเขามากจริง ๆ พวกเขาล้วนแต่เป็นคนรักที่ฉันเอื้อมไม่ถึง แต่พอฉันไล่ตามพวกเขาทัน ฉันก็…”
“ไม่ชอบพวกเขาแล้ว”
ซุนหย่าจิ้งถอนหายใจ “กับคุณชายว่านก็เหมือนกัน ตอนแรกฉันชอบเขาจากใจจริงนะคะ ยังเคยคิดจะแต่งงานกับเขาด้วย แต่ว่า…”
“แต่พอเขาชอบฉันเข้าจริง ๆ พูดออกมาว่ารักฉัน เอ็นดูฉันทั้งใจ ฉันก็ไม่รักเขาแล้วค่ะ”
ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอึ้ง
จิ่งเจียเหยียนปกป้องเธอ “เธอไม่ใช่ผู้หญิงเจ้าชู้นะ เธอก็แค่… ก็แค่ไม่รักเขาแล้ว เลยให้อิสระกับอีกฝ่ายไงล่ะ!”
“ในเมื่อไม่ได้รักแล้ว ก็ยังคิดจะอยู่ด้วยกันไปตลอดอย่างนั้นเหรอ? นี่ต่างหากที่เรียกว่าทำคนอื่นเสียเวลา เป็นพวกขี้กั๊ก ไม่มีความรับผิดชอบ!”
ไม่มีใครคัดค้านคำพูดของเธอได้เลย
ซ่งจือหนานที่ยืนอยู่ข้างหลังฉู่ลั่วพูดด้วยความโกรธ “ถ้าเธอไม่ได้หลายใจแล้วจะเรียกว่าอะไร อยากได้คนอื่น เข้าหาเขา พอเขามีใจให้แล้วไม่รักษา ได้แล้วทิ้ง! แถมยังหลอกเอาเงินไปอีก!”