เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 166 ไม่ทำตามกฎ
บทที่ 166 ไม่ทำตามกฎ
ตกเย็น
ซุนหย่าจิ้งแปะยันต์เอาไว้กับตัว ก่อนจะเอนกายลงบนเตียงแล้วหลับไป
เฉิงยวนมองผีสาวที่นอนลงบนเตียงข้างอีกฝ่ายไปพลางเม้มริมฝีปากไปพลาง ก่อนพาซ่งเมี่ยวเมี่ยวกลับ
เมื่อออกมาจากบ้านหลังนั้นแล้ว ซ่งเมี่ยวเมี่ยวก็ถามว่า “พี่ยวนยวนคะ พี่ลั่วลั่วรู้อยู่แล้วว่ามีผีสาวตามพี่สาวซุนอยู่ ทำไมถึงไม่บอกพี่สาวซุนล่ะคะ?”
“ผีสาวตนนั้นเหมือนจะทำร้ายพี่สาวซุนนะคะ?”
เฉิงยวนลูบผมวิญญาณตัวน้อยแล้วบอกว่า “ซุนหย่าจิ้งทำเรื่องไม่ดีไว้เยอะมาก ถึงนางจะไม่ได้ทำร้ายคน แต่ก็เป็นต้นเหตุให้คนจำนวนไม่น้อยถูกทำร้าย นี่คือความผิดของนาง”
เฉิงยวนยกคำพูดของฉู่ลั่วมาพูด “รอดูทางเลือกในอนาคตของนางเถอะ”
แต่หล่อนจะเลือกอะไรนั้น ก็ไม่ทราบเช่นกัน
แต่ในใจของเฉิงยวนทึ่งกับความสามารถในการบำเพ็ญของฉู่ลั่วมากกว่า
เหมือนว่าตอนนี้อีกฝ่ายจะสามารถทำนายอนาคตได้ อีกทั้งระยะเวลาที่ทำนายได้ก็ยาวนานขึ้นไปอีก
ก่อนหน้านี้ที่ฉู่ลั่วทำนายอนาคตของอันเชี่ยน เธอสามารถทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้เท่านั้น
แต่ตอนนี้ กลับทำนายจุดจบในชีวิตของซุนหย่าจิ้งได้
แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้… เธอทำนายอนาคตได้ยาวนานแค่ไหน
เฉิงยวนลองคำนวณระยะเวลาในการทำนายของฉู่ลั่วดู
…
เจ็ดวันต่อมา
เฉิงยวนพาซ่งเมี่ยวเมี่ยวมาดูซุนหย่าจิ้งอีกครั้ง คราวนี้พบว่ากลิ่นอายความโกรธแค้นล้อมรอบตัวผีสาวรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ สีหน้าของซุนหย่าจิ้งก็ย่ำแย่ลงมากเช่นกัน
ใกล้แล้ว!
น่าจะภายในสองวันนี้นี่แหละจะได้รู้จุดจบของซุนหย่าจิ้ง
รวมแล้วก็เจ็ดวัน…
หนึ่งสัปดาห์เต็ม!
ความสามารถในการทำนายของฉู่ลั่ว ตอนนี้คำนวณได้ล่วงหน้าถึงหนึ่งสัปดาห์แล้ว!
หลังจากเรื่องของอันเชี่ยน เพิ่งผ่านไปได้ไม่นานเองนี่นา?
ความสามารถของฉู่ลั่วพัฒนาอย่างก้าวกระโดดขนาดนี้เชียวหรือ!
จะเก่งเกินไปแล้วหรือเปล่า!
…
ในคืนนั้นเอง
เฉิงยวนกับซ่งเมี่ยวเมี่ยวที่ยืนอยู่มุมห้อง มองผีสาวที่นอนอยู่บนเตียงเดียวกันกับซุนหย่าจิ้ง ในช่วงกลางดึกก็ค่อย ๆ ขยับเข้าใกล้เป้าหมาย
เส้นผมสีดำขลับ เคลื่อนไหวขยุกขยิกเข้าไปหาซุนหย่าจิ้ง
สุดท้ายเส้นผมก็พันรอบคออีกฝ่าย ค่อย ๆ รัดแน่นขึ้นเรื่อย ๆ
ซุนหย่าจิ้งที่อยู่บนเตียงพยายามดิ้นรนขัดขืน ดวงตาเบิกกว้าง มองผีสาวที่อยู่ใกล้ในระยะประชิดด้วยความหวาดกลัว!
มือหนึ่งพยายามดึงเส้นผมออก ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็คลำหายันต์ที่วางเอาไว้ตรงหัวเตียง
เวลาผ่านมาหลายวันโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอจึงประมาทเกินไป วันนี้ก่อนจะนอนจึงเอายันต์วางไว้ที่หัวเตียง ไม่ได้เอามาติดไว้กับตัว
ใครจะรู้ว่าคืนนี้จะเกิดเรื่องขึ้น!?
พลาดไปแล้ว!
ฉันไม่ควรสบายใจจนประมาทเลย ท่านเทพธิดาบอกแล้วแท้ ๆ แต่ก็ยังชะล่าใจมากเกินไป!
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวเอ่ย “…พวกเราจะไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยจริงเหรอคะ? ผีตนนั้นจะฆ่าคนตายแล้วนะคะ!”
เฉิงยวนเองก็ขมวดคิ้ว “ฉู่ลั่วบอกแล้วว่าพวกเรายื่นมือเข้าไปยุ่งไม่ได้”
เธอยื่นมือออกไปปิดตาวิญญาณน้อยเอาไว้ ไม่อยากให้ซ่งเมี่ยวเมี่ยวมองเห็นฉากโหดร้ายนองเลือด
จนกระทั่งผีสาวพูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบงันว่า “เป็นเพราะเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ อาข่ายไม่มีทางทิ้งฉัน คงไม่รังเกียจฉัน”
“เพราะเธอทำร้ายอาข่าย ทำให้อาข่ายไม่เชื่อใจผู้หญิง ทำให้อาข่ายคิดว่าผู้หญิงทุกคนบนโลกเป็นนังแพศยาเหมือนเธอ”
“ทั้งหมดเป็นเพราะเธอ… เพราะเธอ!”
ซุนหย่าจิ้งถูกบีบคอจนแทบจะขาดอากาศหายใจ เธอใช้พลังเฮือกสุดท้ายคว้ายันต์จำนวนหนึ่งมา แล้วโยนใส่ผีสาว
ผีสาวตกใจถอยหลังไปหนึ่งก้าว เส้นผมทั้งหมดหดกลับไป เจ้าตัวออกไปยืนอยู่ไกล ๆ ขณะดวงตาดำมืดมองทะลุเส้นผมยุ่งเหยิง จับจ้องซุนหย่าจิ้งด้วยความเกลียดชัง
ซุนหย่าจิ้งหอบหายใจ เธอไอโขลกอยู่สักพักหนึ่ง ถึงชี้ไปทางผีสาว “อาข่ายที่เธอพูดถึง คือเฝิงข่ายใช่ไหม?”
“ใช่!”
ซุนหย่าจิ้งกัดฟัน แล้วด่าด้วยความโมโห “ฉันรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นไอ้คนจอมปลอมนั่น ในบรรดาคนที่ฉันคบด้วย มีแต่หมอนี่แหละที่ไร้ศีลธรรมที่สุด!”
ตอนท่านเทพธิดาบอกว่ามีคนล่อลวงผู้หญิง แล้วทำร้ายผู้หญิงจนตาย คนแรกที่โผล่พรวดเข้ามาในหัวเธอ ก็คือเฝิงข่าย
ซุนหย่าจิ้งก่นด่าด้วยเสียงแหบแห้ง “ฉันรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเขา”
ผีสาวแค่นเสียงอาฆาต “ฉันไม่อนุญาตให้เธอด่าอาข่าย!”
ขณะที่พูด เส้นผมที่แหลมคมราวกับดาบก็พุ่งมาหาซุนหย่าจิ้ง!
หญิงสาวรีบหยิบยันต์ขึ้นมาทันที ตอนเส้นผมสัมผัสกับยันต์ มันก็หยุดลงอย่างรวดเร็ว
ผีร้ายขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
ซุนหย่าจิ้งมองที่ข้อมือตัวเองสลับกับข้อมือของผีสาวที่มีรอยแผลเป็นน่ากลัวรอยหนึ่ง บนปากแผลยังมีเลือดสีดำหยดลงมาอยู่เลย
“ไอ้สารเลว…”
ถึงซุนหย่าจิ้งจะรักสนุก แต่ทุกครั้งที่ตกลงปลงใจกับใคร เธอก็จะคบและแยกทางกันด้วยดี ในระหว่างที่คบกันนั้น เธอมอบความรู้สึกที่ล้ำค่าให้อีกฝ่ายอย่างเต็มที่เสมอ
อีกฝ่ายต่างก็ได้รับความสุข
แต่เฝิงข่ายคนนี้ไม่ยอมทำตามกฎ!