เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 168 มีอะไรต้องกลัว
บทที่ 168 มีอะไรต้องกลัว
ซุนหย่าจิ้งกรอกตาอย่างเหนื่อยหน่ายพลางลุกจากโซฟา เมื่อผีสาวจะพุ่งเข้ามา เธอก็ชูยันต์ขึ้น
ถังเจียวพูดอย่างมืดมนว่า “มันใช้ป้องกันไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอก ต้องมีสักวัน ฉันจะฆ่าเธอให้ได้ เพื่อแก้แค้นให้อาข่าย เพื่อแก้แค้นให้ตัวฉันเอง เพื่อแก้แค้นให้ลูกของฉัน!”
“แล้วเธอไม่อยากให้เฝิงข่ายจ่ายค่าชดใช้ให้เธอบ้างเหรอ?”
ถังเจียวเอ่ย “…อาข่ายไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะเธอทำร้ายเขาต่างหาก”
ซุนหย่าจิ้งถอนหายใจ ก่อนจะกลอกตามองบนอย่างรับไม่ได้อีกครั้ง “ฉันจะนอนแล้ว เธอก็ตามสบายนะ”
หญิงสาวเดินกลับไปที่ห้องนอน แล้วเอายันต์มาติดไว้บนร่างกาย
ถังเจียวเข้าไปใกล้พลางเพ่งมองอีกฝ่ายด้วยสายตาดุร้าย
ซุนหย่าจิ้งเหลือบมองกลับมาด้วยแววตาเรียบเฉย ก่อนจะเอาผ้าปิดตามาใช้
แล้วไม่สนใจผีสาวที่คิดจะเอาชีวิตเธออีกต่อไป ปล่อยให้นอนอยู่ข้าง ๆ ไปทั้งแบบนั้น
ถังเจียวโกรธมาก ได้แต่พูดด้วยน้ำเสียงแหลมบาดหู “เธอไม่กลัวฉันเหรอ? ไม่กลัวว่าฉันจะฆ่าเธอเหรอ?”
ซุนหย่าจิ้งถอนหายใจ “เธอสู้กับสวะอย่างเฝิงข่ายไม่ได้ด้วยซ้ำ มีอะไรให้ฉันต้องกลัวด้วยเหรอ? ฉันจะนอนแล้ว อย่ารบกวนอีกล่ะ”
ถังเจียวพูดไม่ออก “…”
ซุนหย่าจิ้งบอกให้อีกฝ่ายอย่ารบกวน ทางนั้นก็จะยิ่งรบกวน
ผีร้ายกรีดร้องเสียงแหลม ทำให้ไฟภายในห้องกะพริบทั้งคืน ดูแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก
แม้กระทั่งภาพที่แขวนอยู่ตรงผนังและแจกันก็ร่วงลงมาเพราะอารมณ์ตื่นตระหนกของหล่อน
ทั้งห้อง สิ่งเดียวที่ยังคงสงบคือซุนหย่าจิ้งที่นอนอยู่บนเตียง
เฉิงยวนที่เห็นเหตุการณทั้งหมดก็จากไปพร้อมกับซ่งเมี่ยวเมี่ยว
เมื่อกลับไปถึงบ้านฉู่อวิ๋น เฉิงยวนก็ลูบคาง แล้วพูดออกมาด้วยคำพูดลึกซึ้งว่า “ซุนหย่าจิ้งคนนี้เก่งมากจริง ๆ”
มีผีร้ายอยู่ข้างตัวแท้ ๆ แต่ยังนอนหลับได้
เกือบถูกผีร้ายฆ่าตายแล้ว แต่ยังสามารถฟังผีร้ายเล่าเรื่องราวให้ฟังได้อย่างสงบ
นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปก็สามารถทำได้
ซุนหย่าจิ้งคนนี้ดูเหมือนเป็นคนขี้ขลาด แต่ในความเป็นจริงกลับใจกล้ามาก
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวไม่เข้าใจสักเท่าไหร่ แต่ก็พูดออกมาว่า “หนูเองก็คิดว่าพี่สาวซุนเก่งมากเลยค่ะ!”
…
วันต่อมา เฉิงยวนเล่าเรื่องราวที่บ้านตระกูลซุนให้ทุกคนฟัง เธอยกนิ้วหัวแม่มือพลางชื่นชม… ฉู่ลั่ว
“ฉู่ลั่ว! เจ้าเก่งขึ้นเรื่อย ๆ เลยนะ! สามารถทำนายเรื่องราวล่วงหน้าได้ตั้งเจ็ดวัน ทั้งยังทำนายได้แม่นยำมากด้วย”
ฉู่ลั่วก้มหน้ามองมือของตนเอง
พลังวิญญาณของเธอเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
แต่…ยังเร็วเกินไปหากคิดจะต่อกรกับฉู่หร่าน
[นายหญิง รู้สึกหรือเปล่าว่าพลังวิญญาณของคุณเพิ่มขึ้นเยอะมากเลย! นี่เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าตอนนี้มีคนเชื่อในตัวคุณเป็นจำนวนมาก]
[นายหญิง คุณต้องสู้ต่อไปนะ ขยันไลฟ์สตรีมต่อไป!]
ฉู่ลั่วนั่งขัดสมาธิอยู่บนเบาะรองนั่ง แล้วหลับตาลง
ระบบประหลาดใจมาก
[นายหญิง วันนี้คุณดูแปลกไปนะ เมื่อก่อนถ้าบอกว่าพลังวิญญาณของคุณฟื้นฟูมากแล้ว คุณมักจะดีใจมาก ทำไมวันนี้ถึงไม่ดีใจล่ะ?]
ฉู่ลั่วเอ่ย “ข้างกายฉันยังมีคนที่พลังวิญญาณเสียหายหนักกว่า กำลังรอฉันอยู่”
[คุณหมายถึงฮั่วเซียวหมิงใช่ไหม?]
เธอพยักหน้า “อืม”
ระบบเงียบไปครู่หนึ่ง
[ดูจากท่าทางแล้ว เขาก็ดูไม่รีบร้อนเท่าไหร่]
ฉู่ลั่วเผยสีหน้าจริงจัง “ในระยะเวลาอันใกล้นี้ ฮั่วเซียวหมิงจะประสบเคราะห์ร้าย จำเป็นต้องพาเขากลับเข้าร่างโดยด่วน”
ระบบตกใจ
[นายหญิง คุณทำนายออกมาได้แล้วเหรอ?]
“อืม”
ระบบตรวจสอบพลังวิญญาณของฉู่ลั่วอีกครั้งก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
[นายหญิง จากพลังวิญญาณของคุณในตอนนี้ สามารถพาฮั่วเซียวหมิงกลับเข้าสู่ร่างได้อย่างสมบูรณ์!]
ฉู่ลั่วไม่พูดอะไร
สายตาของเธอจับจ้องไปยังวิญญาณหนุ่มที่ยืนอ่านหนังสืออยู่ไม่ไกล
หลังจากทำข้อตกลงกันแล้ว ฮั่วเซียวหมิงก็สงบมากขึ้น หากเธอไม่อนุญาต เขาก็แทบไม่ออกจากบ้านไปไหนเลย
บางครั้งบางคราววิญญาณหนุ่มจะอ่านหนังสือ หรือไม่ก็ดูโทรทัศน์
ใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติมาก ราวกับว่าเขาใช้ชีวิตแบบนี้มาหลายสิบปีแล้ว
“คุณหนูคะ คุณหนูซุนมาแล้วค่ะ บอกว่าอยากพบคุณ”
ฉู่ลั่วลงมาข้างล่างตามเสียงเรียกของแม่บ้าน ก็เห็นซุนหย่าจิ้งในชุดลำลองสบาย ๆ วันนี้เธอไม่ได้แต่งหน้าแบบจัดเต็ม
มาถึงก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ขอบคุณท่านเทพธิดาค่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะท่านเทพธิดา หลายวันก่อนฉันคงถูกฆ่าตายไปแล้ว!”
ฉู่ลั่วมองไปยังคอเสื้อของซุนหย่าจิ้งที่ตั้งขึ้นปกปิดลำคอเอาไว้
น้ำเสียงยามที่พูดมีความแหบพร่า เห็นได้ชัดว่ามีอาการเจ็บไม่น้อย
“ไม่ต้องขอบคุณ เธอจ่ายเงินแล้ว”
ซุนหย่าจิ้งเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม “ถึงอย่างนั้นฉันก็ควรขอบคุณท่านเทพธิดาค่ะ ท่านเทพธิดา วันนี้ที่ฉันมาหาคุณ เพราะมีเรื่องหนึ่งอยากจะถามค่ะ”
ฉู่ลั่วเอ่ย “ถามมาสิ”
“คือว่าเฝิงข่ายคนนั้น ฉันจัดการเขาได้ไหมคะ?” ซุนหย่าจิ้งหัวเราะอย่างเย็นชา “เขาใช้ชื่อของฉันไปอ้างเพื่อทำร้ายคนอื่น ฉันปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้จริง ๆ ค่ะ!”
“ท่านเทพธิดา ฉันแค่อยากถามว่า ถ้าจัดการกับเฝิงข่ายแล้ว หนี้กรรมจะแปดเปื้อนฉันหรือเปล่าคะ?”
“…” ฉู่ลั่วมองอีกฝ่ายที่กำลังโกรธจัด “ระวังหนักเบาให้ดี อย่าให้ถึงชีวิตก็พอ”