เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 169 ดอกไม้เยี่ยมหลุมศพ
บทที่ 169 ดอกไม้เยี่ยมหลุมศพ
ซุนหย่าจิ้งได้ยิน ก็ยิ้มออกมาทันที “เข้าใจแล้วค่ะ ฉันไม่ใช่เฝิงข่าย ไม่บ้าคลั่งเสียสติแบบนั้นหรอกค่ะ”
เธอออกจากบ้านไป พลางมองดูวิญญาณของถังเจียวที่ไม่กล้าเข้าใกล้บ้านหลังนี้ ก่อนยกร่มสีดำที่คันร่มมียันต์แปะเอาไว้ขึ้นมา
“มานี่สิ!”
ถังเจียวเงียบงัน
ซุนหย่าจิ้งถอนหายใจอย่างอารมณ์เสีย เธอเดินเข้าไป แล้วกางร่มนั้นไว้เหนือศีรษะของถังเจียว ภายใต้ร่มสีดำ โครงหน้าหยดสยองของผีร้ายค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติ ไม่ได้น่ากลัวเหมือนเมื่อครู่นี้แล้ว
ซุนหย่าจิ้งมองใบหน้ารูปไข่ที่งดงามและอ่อนเยาว์ของเหยื่อผู้ชายเฮงซวย ก็รู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นไปอีก
ใบหน้านี้ ผิวพรรณนี้…
ดูดีกว่าเธอมากเหลือเกิน!
แต่กลับต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
ซุนหย่าจิ้งมองถังเจียวผู้ไม่เข้มแข็งมากพออย่างไม่สบอารมณ์
“ตอนนี้ฉันจะไปที่ตี้จิง ฉันมาหาท่านเทพธิดาเพื่อขอร่มคันนี้ ต่อไปเธอก็ซ่อนตัวอยู่ใต้มัน ถ้ามีร่มคันนี้อยู่ เธอก็ไม่ต้องปรากฏตัวด้วยใบหน้าแบบนั้น สมองของเธอก็จะมีสติมากขึ้นด้วย”
ซุนหย่าจิ้งลูบร่มด้วยความปวดใจ ร่มคันนี้จ่ายไปตั้งห้าล้าน
ห้าล้านเชียวนะ!
เธอหุบร่ม ขึ้นรถ แล้วขับรถตรงไปที่สนามบินด้วยอารมณ์ที่อยากระบายเต็มที
เฝิงข่าย!
หากทำให้เขามาคุกเข่าต่อหน้าหลุมศพของถังเจียว แล้วโขกหัวตัวเองจนแตกไม่ได้ เธอก็ไม่ใช่ซุนหย่าจิ้งแล้ว!
เฉิงยวนมองซุนหย่าจิ้งที่ขับรถออกไปด้วยความมุ่งมั่นพร้อมสู้เต็มที่ เธอก็ยืนอยู่ตรงประตูหน้าบ้านอย่างคาดหวัง ก่อนจะหันมองฉู่ลั่วด้วยแววตาน่าเวทนา
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวจับกระโปรงวิญญาณสาวไว้ และหันมามองฉู่ลั่วอย่างสงสารเช่นกัน
บรรยากาศหนักอึ้งจนกระทั่ง…
ฉู่ลั่วออกคำสั่งกับหัวหว่าน “เก็บของให้ทีนะ พวกเราจะไปตี้จิงกัน”
“ได้ค่ะ!”
“พี่ลั่วลั่วดีที่สุดเลยค่ะ!”
“ฉู่ลั่ว เจ้าเป็นผู้บำเพ็ญที่ดีที่สุดในโลกแล้ว เจ้าต้องบำเพ็ญจนกลายเป็นเซียนได้แน่!”
ฉู่ลั่วหันไปหาฮั่วเซียวหมิงที่เงียบมาตลอด แล้วบอกกับเขาว่า “ฉันจะติดต่อไปหาตระกูลฮั่ว ให้พวกเขานำร่างของคุณกลับไปที่ตี้จิง”
เขาตอบรับ “ได้สิ”
ฉู่ลั่วขมวดคิ้ว “คุณไม่ถามเหรอว่าเพราะอะไร?”
ฮั่วเซียวหมิงส่ายหน้า
เธอไม่เข้าใจ “คุณไม่กลัวฉันทำร้ายคุณเหรอ?”
“ถ้าคุณจะทำร้ายผม ต้องลงมือกับกายเนื้อของผมด้วยเหรอ? คุณอยากให้เอาร่างของผมกลับไป แน่นอนว่าต้องมีเรื่องเกิดขึ้นแน่ และต้องเป็นเรื่องที่สำคัญมากด้วย”
ฮั่วเซียวหมิงมองฉู่ลั่ว “จะมีเรื่องเกิดขึ้นกับตระกูลฮั่ว… และผมจำเป็นต้องออกหน้าใช่ไหม?”
ฉู่ลั่วมองเขาอย่างประทับใจ
คนฉลาดช่างแตกต่างจากคนทั่วไปจริง ๆ แค่พูดออกมาประโยคเดียว อีกฝ่ายก็รู้แล้วว่าคุณจะทำอะไร
หัวหว่านเก็บของของฉู่ลั่วอย่างรวดเร็ว “คุณหนู ฉันจองตั๋วเครื่องบินไว้แล้วห้าใบค่ะ”
“อืม” ฉู่ลั่วตอบรับ
“ห้าใบ?” เฉิงยวนชี้ตัวเอง “พวกเราต้องมีที่นั่งด้วยหรือ?”
ฉู่ลั่วมองแก๊งวิญญาณตัวป่วน “ถึงคนทั่วไปจะมองไม่เห็นพวกเธอ แต่พวกเธอยังมีความคิดว่าตัวเองมีตัวตนอยู่”
เฉิงยวนหันไปกอดซ่งเมี่ยวเมี่ยวด้วยความดีใจ วี้ดว้ายกันสนุกสนาน
พวกเธอกลายเป็นวิญญาณไปแล้ว ย่อมมีความแตกต่างจากมนุษย์เป็นธรรมดา
นอกจากฉู่ลั่วแล้ว ไม่มีใครที่ไหนอนุญาตให้พวกเขามีอิสระได้เท่านี้อีกแล้ว
อยากดูโทรทัศน์ก็ได้ดูโทรทัศน์ อยากไปดูละครสด ๆ กับตา ก็ได้ไปดู
หากเธอตกไปอยู่ในมือของผู้บำเพ็ญคนอื่น ตอนนี้หากไม่ถูกกำจัด ก็คงถูกส่งไปยมโลกแล้ว!
…
ณ สุสานเมืองตี้จิง
แม่ถังมองดูหลุมศพที่เย็นเฉียบ ก็ร้องไห้จนแทบจะเป็นลม
เด็กสาววัยรุ่นหลายคนประคองเธอเอาไว้ “คุณป้า อย่าร้องไห้เลยค่ะ ถ้าเจียวเจียวเห็นเข้าจะเป็นห่วงนะคะ เธอต้องปวดใจมากแน่ ๆ”
“เธอปวดใจเหรอ! ถ้าปวดใจเพราะเป็นห่วงฉันจริง ทำไมต้องฆ่าตัวตายเพราะผู้ชายคนเดียวด้วย!?”
ระหว่างที่พูด ผู้ชายใส่สูทผูกไทด์คนหนึ่งก็เดินเข้ามา เอาช่อดอกไม้มาวางที่หน้าป้ายหลุมศพ
“ใครต้องการดอกไม้ของแก!?”
แม่ถังเอาช่อดอกไม้ฟาดใส่เฝิงข่าย “ไสหัวไป! แกไสหัวไปเดี๋ยวนี้ แกได้ยินไหม?”
เฝิงข่ายจัดระเบียบเสื้อผ้าของตนเล็กน้อย “คุณป้า ทำไมพูดจาหยาบคายขนาดนี้ล่ะครับ เพราะคุณเป็นแบบนี้ ถังเจียวถึงใช้ชีวิตปล่อยตัวขนาดนั้น”
“ถ้าคุณมีเงิน และให้การอบรมสั่งสอนถังเจียวอย่างดี ถังเจียวคงไม่ตกเป็นของผู้ชายง่ายขนาดนี้ จนกลายเป็นผู้หญิงไม่บริสุทธิ์”
หญิงสาวคนหนึ่งพุ่งเข้าพร้อมยกมือขึ้นจะตบเขา แต่เฝิงข่ายคว้าข้อมือไว้ได้ทัน แล้วสะบัดออก “คิดจะตบฉันเหรอ? พวกเธอก็เหมือนกับถังเจียว ไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์สักคน มีผู้หญิงที่ไหนเสียครั้งแรกไปก่อนแต่งงานบ้าง”
“แกมันไอ้คนสารเลว!”
ผู้หญิงหลายคนพุ่งเข้ามา แต่ก็ถูกเฝิงข่ายผลักออกไป
เขาเดินมาที่หน้าป้ายหลุมศพ ยื่นมือออกไปลูบภาพถ่ายของผู้หญิงที่หน้าตางดงามบนป้าย “เจียวเจียว เธอตายไปได้ก็ดี ชีวิตนี้เธอสกปรกไปแล้ว ชาติหน้าจะต้องสะอาดกว่านี้นะ!”
พูดจบ ก็เดินวางท่าใหญ่โตออกไป