เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 17 สวรรค์ไม่ยุติธรรม
บทที่ 17 สวรรค์ไม่ยุติธรรม
ตำรวจพาเหลียงเยว่ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล
ขณะนั่งอยู่ในรถ หลังจากกล่อมลูกสาวเสร็จแล้ว ก็ถามฉู่ลั่วว่า “คุณเจ้าของช่อง ถ้าครั้งนี้ฉันไม่กลับมา แม่สามีของฉันจะขายลูกของฉันจริงเหรอคะ?”
ฉู่ลั่วพยักหน้า
เหลียงเยว่ตาแดง น้ำตาร่วงเผาะลงมา “มิน่าล่ะ เมื่อก่อนเธอดูไม่ชอบเด็กมากเลยค่ะ แต่จู่ ๆ ช่วงนี้ก็เปลี่ยนไป ดีกับลูกของฉันมาก มักจะอุ้มลูกของฉันออกไปเล่นตลอดเลย ที่แท้ก็…”
เธอนึกว่าแม่สามีของตนคิดได้แล้ว
ที่แท้ไม่ใช่ว่าคิดได้ แต่เพราะมีแผนการนี่เอง
“ขอบคุณนะคะคุณเจ้าของช่อง… ขอบคุณที่ช่วยลูกฉันไว้ ขอบคุณที่ช่วยให้พวกเราแม่ลูกไม่ต้องพรากจากกัน” เธอสะอื้น
ในตอนนั้นเองเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา คุณนายก็รับโทรศัพท์โดยไม่ได้ปิดไลฟ์
ปลายสายมีเสียงโวยวายของสามีดังขึ้น “แม่โทรหาฉันบอกว่าเธอแจ้งตำรวจไปจับแม่ เรื่องจริงหรือเปล่า?”
เหลียงเยว่ไม่ตอบ สมองของเธอตื่นตัวกว่าปกติ “คุณเจ้าของช่องคะ สามีของฉันรู้เรื่องที่แม่สามีจะขายลูกหรือเปล่า?”
“รู้ค่ะ” ฉู่ลั่วตอบเสียงนิ่ง
เหลียงเยว่ได้ยินเช่นนั้น เธอก็โกรธและต่อว่ากลับไปทางโทรศัพท์ “ฉันไม่ใช่แค่จะแจ้งความจับแม่คุณ แต่จะแจ้งความจับคุณด้วย จะส่งทุกคนในครอบครัวคุณเข้าคุกให้หมด!”
“เสือมันยังไม่กินลูกตัวเอง คุณมันเลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน!”
จากนั้นก็วางสายเสียงดัง
เธอขอบคุณฉู่ลั่วอีกครั้งหนึ่ง ถึงได้ออกจากไลฟ์ไป
[ให้ตายสิ เมื่อก่อนเคยเห็นแต่พ่อแม่ขายลูกในละคร นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นแม่สามีเอาเด็กไปขาย]
[นี่มันแปลกจริง ๆ เรียกว่าเปิดโลกความแปลกเลย แปลกทั้งบ้าน]
[นี่มันสมัยไหนแล้ว ยังมีคนให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาวอีกเหรอ ที่บ้านมีบัลลังก์ต้องสืบทอดหรือไง? นี่มันผ่านมากี่ชั่วอายุคนแล้ว มีลูกสาวก็เท่ากับไร้คนสืบทอดเลยเหรอ น่าโมโหชะมัด!]
[ถ้านี่เป็นบทละคร ทำไมตอนที่ผู้ชายโทรมาถึงได้ดูจริงขนาดนั้น ฉันดูแล้วเจ็บปวดไปด้วยเลย]
[คนรุ่นเก่ามีความคิดแบบนั้นยังพอเข้าใจได้นะ เพราะพวกเขาไม่ได้รับการศึกษากันเท่าไหร่ แต่คนเป็นพ่อเห็นดีเห็นงามด้วยนี่สิ… เป็นสัตว์เดรัจฉานเหรอ!]
ฉู่ลั่วมองดูห้องแชตที่ครึกครื้น ก็ยกยิ้มมุมปาก
เธอรู้สึกได้ว่าเมื่อครู่พลังวิญญาณของเธอฟื้นฟูขึ้นมาอีกนิดแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็ไลฟ์สตรีมถึงแค่นี้ พวกเราเจอกันในไลฟ์ครั้งต่อไปนะคะ”
ปิดไลฟ์สตรีมแล้ว ฉู่ลั่วก็มองไปที่ฮั่วเซียวหมิงซึ่งลอยอยู่ข้าง ๆ “คุณรู้ได้ยังไงว่าพวกเขาอยู่ที่หลงอันพลาซ่า?”
ฮั่วเซียวหมิง “เมืองเจียงมีห้างสรรพสินค้ามากมาย แต่ห้างสรรพสินค้าทางใต้ที่มีคนพลุกพล่าน มีแค่หลงอันพลาซ่าที่เดียว เพราะแถวนั้นมีมหาวิทยาลัยหลายแห่ง”
เขาชะงักไปชั่วขณะ “วันนี้ผมเบื่อก็เลยไปดูแผนที่ของเมืองเจียงมาน่ะ”
ได้ยินฮั่วเซียวหมิงอธิบาย ฉู่ลั่วก็เงียบไป
ก่อนหน้านี้เธอนึกว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้บำเพ็ญที่สามารถคำนวณตำแหน่งได้แม่นยำกว่าเธอ
คิดไม่ถึงว่า เป็นเพราะอีกฝ่ายเป็นคนฉลาด ไม่ใช่แค่ดูรอบเดียวก็จำได้ แต่ยังอธิบายให้เธอฟังได้อีก จนสามารถหาตำแหน่งที่ตรงกันเจออย่างง่ายดาย
หรือนี่จะเป็นข้อได้เปรียบของบุตรแห่งสวรรค์อย่างนั้นเหรอ?
สวรรค์ลำเอียงขนาดนี้เลยเหรอ?
ให้ใบหน้าแบบนั้นกับเขา ให้เขาได้เกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แล้วยังให้สมองที่ชาญฉลาดมาอีก
เสียงระบบดังขึ้นมาในหัวเธอ
[นายหญิง ท่านมีระบบ แค่นี้สวรรค์ก็ลำเอียงให้ท่านมากแล้ว]
ฉู่ลั่วโต้ตอบกลับไปในใจ “นายมีประโยชน์อะไร มีสมองเหมือนของฮั่วเซียวหมิงไหม ระบุสถานที่ในเมืองเจียงได้แม่นยำหรือเปล่า?”
มันเงียบอยู่นานก่อนจะตอบ
[…ไม่ได้]
ฉู่ลั่วพ่นลมหายใจออกมาเป็นการเหน็บแนม
ระบบจึงชิ่งหนีจากบทสนทนาด้วยการปิดตัวเอง
…
สำนักเมฆาคราม
หยางเสียนมองไลฟ์สตรีมที่จบไปแล้ว ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบเคราตัวเอง “ช่างเป็นเจ้านิกายหญิงที่อายุน้อยจริง ๆ! ถ้ามีโอกาสได้เจอสหายน้อยมากพรสวรรค์คนนี้คงดี”
เฉินหย่งปิดโทรศัพท์มือถือ “อาจารย์คิดว่าเธอเก่งมากเลยเหรอครับ?”
“ก่อนหน้านี้ได้เห็นการคำนวณฮวงจุ้ยที่ยอดเยี่ยม เท่าที่อาจารย์เคยเห็นมาทั้งชีวิต มีเพียงเจ้าอาวาสวัดไป๋หลงเท่านั้นที่มีพลังเช่นนี้”