เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 171 เรื่องซุบซิบของตระกูลฮั่ว
บทที่ 171 เรื่องซุบซิบของตระกูลฮั่ว
โรงแรมรุ่ยข่าย
“คุณหนู ฉันจองห้องเอาไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ อยู่ชั้นเดียวกับคุณหนูซุนเลย” ตอนที่หัวหว่านกำลังพูดอยู่นั้น หางตาก็เหลือบไปเห็นเฉิงยวนกับซ่งเมี่ยวเมี่ยว
เมื่อทั้งคู่ได้ยินก็เบิกตาโพล่งทันที ก่อนสยายรอยยิ้มจนมองไม่เห็นดวงตาแล้ว
หัวหว่าน “…”
หากเมื่อก่อนเธอเจอผีสาวสองตัวที่ยิ้มแป้นได้ทั้งวันอย่างเฉิงยวนกับซ่งเมี่ยวเมี่ยว จะต้องน่ากลัวมากแน่นอน
แต่ตอนนี้…
เธอรู้สึกเพียงว่า พวกเขาเหมือนกับสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกีสองตัว
ฉู่ลั่วมาที่ห้องของตนเอง ขณะที่กำลังเตรียมตัวจะพักผ่อน เสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้น
หัวหว่านวางมือจากการช่วยจัดของให้ฉู่ลั่ว แล้วเดินไปเปิดประตู
“คุณหนูคะ คุณนายฮั่วมาค่ะ”
หยางไต้เดินเข้ามาหาด้วยท่าทางสนิทสนม “ลั่วลั่วจ๊ะ หนูให้พวกเราพาร่างของอาจิ่วกลับมา พวกเราพากลับมาแล้วนะ”
“หมอทำการตรวจร่างกายของเขาอย่างละเอียด และมีพยาบาลคอยดูแลอย่างดี ร่างกายไม่มีปัญหาอะไรจ้ะ” หยางไต้เน้นย้ำ “หนูวางใจได้ อาจิ่วมีวินัยกับตัวเองมาตั้งแต่เด็ก เขาชอบออกกำลังกายมาก”
“ถึงตอนนี้จะไม่มีกล้ามหน้าท้องไม่มีกล้ามอกแล้ว แต่รอให้เขาฟื้นขึ้นมา ออกกำลังกายเพิ่มอีกสักหน่อย ก็มีแล้วละ”
“ลั่วลั่ว หนูสบายใจได้เลย หุ่นของลูกชายป้าไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น ใบหน้าของเขาก็ด้วย ยังพาออกมาเชิดหน้าชูตาได้”
ฉู่ลั่วเอียงคอ “?”
แววตามีความสงสัยปรากฏอยู่
รูปร่างของฮั่วเซียวหมิงเป็นยังไง เหมือนจะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอนะ!?
เธอเองก็ไม่เคยกังวลเรื่องรูปร่างของฮั่วเซียวหมิงด้วย!
“คุณนายฮั่วคะ หนูไม่ได้เป็นห่วงเรื่องรูปร่างของฮั่วเซียวหมิงหรอกค่ะ”
หยางไต้ทำสีหน้าเขาอกเข้าใจ “เข้าใจจ้ะ เข้าใจ ไม่ใช่หนูกังวล เป็นลูกชายของป้าต่างหากที่กังวล วางใจเถอะ วางใจเถอะ”
ฉู่ลั่วเงียบไป
ทำไมรู้สึกว่า สิ่งที่หยางไต้เข้าใจกับสิ่งที่เธอคิดมันไม่เหมือนกัน!
เธอมองฮั่วเซียวหมิง แต่กลับสังเกตเห็นว่าวิญญาณหนุุ่มที่ทำท่าทางเย็นชามาตลอดมีอะไรเปลี่ยนไปเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เธอมองไปที่เขา เหมือนว่าเขาจะหลบสายตาเธอด้วย
ฉู่ลั่วเลิกคิ้วขึ้น ได้แต่ยืนงุนงง
เธอต้อนรับหยางไต้อย่างดี หลังจากคุณนายฮั่วนั่งแล้วก็มองห้องชุดที่ฉู่ลั่วจองเอาไว้ “ที่จริงนะลั่วลั่ว ถ้าหนูไม่รังเกียจ เวลามาตี้จิงก็มาพักที่บ้านของพวกเราได้นะ”
ฉู่ลั่วยิ้มบาง แต่ไม่ตอบรับอะไร
หยางไต้ไม่ได้รู้สึกอึดอัดใจ เธอรู้ว่าตอนนี้เด็กสาวไม่มีทางเห็นด้วยแน่นอนอยู่แล้ว
เธอทำได้แค่ตำหนิลูกชายไม่ได้เรื่องของตัวเองอยู่ในใจ ไปอยู่ข้างลั่วลั่วมานานขนาดนี้ ยังไม่ระบุสถานะให้ชัดเจนอีก
ใช้หน้าตาที่พ่อแม่มอบให้อย่างเสียเปล่าจริง ๆ!
“ตระกูลฮั่วของพวกเราก็มีโรงแรมในตี้จิงเหมือนกัน ตกแต่งดีกว่าที่นี่แน่นอน”
ฉู่ลั่วเอ่ยว่า “ก็แค่ที่พักเท่านั้นเองค่ะ ไม่ต้องมากพิธีก็ได้ค่ะ”
หยางไต้ที่กำลังอารมณ์ดีก็ไม่ได้ตื๊ออะไรอีก พูดเพียงว่า “ครั้งนี้ช่างเถอะ ครั้งหน้าถ้าหนูมาตี้จิงอีก ต้องมาพักที่โรงแรมของตระกูลเรานะ! ป้าจะบอกกับทางโรงแรมเอาไว้ แค่บอกชื่อหนูกับพวกเขา ก็สามารถเข้าพักได้เลย ไม่ต้องจองล่วงหน้า”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
หยางไต้ถาม “ว่าแต่หนูมีอะไรหรือเปล่า?”
หลังจากทักทายกันอีกสองสามประโยค ฉู่ลั่วก็พูดขึ้นว่า “ตอนนี้ตระกูลฮั่วมีเรื่องอะไรที่ต้องการให้ฮั่วเซียวหมิงออกหน้าใช่ไหมคะ”
คุณนายฮั่วพยักหน้า ใบหน้างดงามเผยให้เห็นถึงความกังวลเล็กน้อย “อาจิ่วนอนนิ่งอยู่บนเตียงมาสองปีกว่าแล้ว หลายคนในตระกูลฮั่วเลยกระวนกระวายใจ”
“พวกเขาคิดว่าลุงฮั่วของหนูควรยกตระกูลฮั่วให้กับคนอื่นรับช่วงต่ออย่างเป็นทางการได้แล้ว”
“พวกเขาเสนอเถาเป่ย ลูกชายนอกสมรสของนายท่ายคนเก่า”
หยางไต้ไม่ได้ทำเหมือนฉู่ลั่วเป็นคนนอกเลย เธอเล่าความลับของตระกูลฮั่วให้ฟังจนหมด “ลุงฮั่วของหนูไม่มีทางยกตระกูลฮั่วให้เถาเป่ยเด็ดขาด เถาเป่ยคนนั้น… เฮ้อ!”
“ตอนนั้นคุณนายคนเก่าเสียชีวิตไปได้แค่หนึ่งเดือน นายท่านคนเก่าก็พาเถาเป่ยกับแม่ของเขากลับมา เถาเป่ยคนนั้นอายุน้อยกว่าอาจิ่วแค่ปีเดียว”
“ตอนนั้นลุงฮั่วของหนูโกรธมาก”
“นายท่านคนเก่าอยากให้เถาเป่ยได้เข้ามาอยู่ในตระกูล แต่ตอนนั้นลุงฮั่วของหนูขัดแย้งกับนายท่านคนเก่า ไม่ยอมให้เถาเป่ยใช้แซ่ฮั่ว”
“หลังจากที่อาจิ่วโต ก็ได้รับสืบทอดตระกูลฮั่วอย่างรวดเร็ว ไม่เปิดช่องให้เถาเป่ยสอดมือเข้ามาได้เลย”
“สองปีก่อน นายท่านคนเก่าป่วยหนัก ก็เลยเรียกลุงฮั่วของหนูไปที่เตียงผู้ป่วย ขอร้องลุงฮั่วของหนูให้รับเถาเป่ยเข้าตระกูล”
“ลุงฮั่วทำอะไรไม่ได้ เลยต้องยอมรับปาก”
“ตอนอาจิ่วยังอยู่ เถาเป่ยเชื่อฟังมาก”
“แต่พอเกิดเรื่องกับอาจิ่ว เขาก็ออกนอกหน้าขึ้นมาทันที”
หยางไต้ถอนหายใจ “อีกอย่าง ครั้งนี้นายท่านคนเก่าก็เป็นคนออกปากเอง ลุงฮั่วของหนูทนความดื้อดึงของนายท่านคนเก่าไม่ไหว”
รอฮั่วเซียวหมิงไม่ไหวแล้ว แน่นอนว่าตระกูลฮั่วต้องหาทายาทคนต่อไป
เหตุผลนี้ทำให้ฮั่วจิ้นไม่สามารถปฏิเสธได้
ฉู่ลั่วไม่พูดอะไร เพียงหันไปมองฮั่วเซียวหมิง
เห็นเพียงใบหน้าตึงเครียดและเคร่งขรึมของเขาเท่านั้น
“ลั่วลั่ว หนูพาอาจิ่วกลับมา เพราะมีวิธีทำให้อาจิ่วฟื้นขึ้นมาใช่ไหมจ๊ะ?”
ฉู่ลั่วพยักหน้า “ถึงฟื้นขึ้นมาได้ไม่กี่วัน แต่คงมากพอให้พวกคุณได้จัดการเรื่องราวทั้งหมดค่ะ”
“พอ ๆๆ! พอแน่นอนจ๊ะ ต้องรบกวนหนูแล้วลั่วลั่ว” หยางไต้มองอากาศที่ว่างเปล่าแล้วสั่งว่า “อาจิ่ว ลูกต้องดูแลลั่วลั่วให้ดีนะ!”
ฉู่ลั่วเงียบงัน “…”
ได้ยินแบบนี้ เธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลก ๆ เหมือนก่อนหน้าไม่มีผิด
แต่กลับไม่รู้ว่าแปลกตรงไหนกันแน่