เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 178 ต้นไม้เหล็กผลิดอก
บทที่ 178 ต้นไม้เหล็กผลิดอก
โม่เฉิงก้มหน้ามองบาดแผลบนหน้าอกของตน “อักขระของเธอ… ไม่ได้เอาไว้ฆ่าฉัน?”
ฉู่ลั่วเอ่ย “แน่นอนว่าไม่ใช่ นี่เป็นอักขระแก้คำสาป โซ่ตรวนที่คุณใช้คุมขังคนอื่นถูกคลายออกแล้วละ”
ฉินเหว่ยพุ่งเข้ามาข้างใน เขายกปืนขึ้นแล้วมองโม่เฉิงอย่างระมัดระวัง พลางเอ่ยถามฉู่ลั่ว “ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?”
เธอส่ายหน้า “ไม่เป็นอะไรค่ะ จับตัวเขาเอาไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้เขาบาดเจ็บเพราะกระสุนของพวกคุณอยู่”
“ได้”
ทีมของฉินเหว่ยกำลังจะก้าวไปข้างหน้า แต่กลับเห็นโม่เฉิงที่อยู่บนหลังคากางแขนออก ดวงตาแดงราวกับเลือดดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก
เขาเอื้อมมือขึ้นมาเช็ดเลือดที่หน้าอก แล้วรีบวาดยันต์บนอากาศ
ฉู่ลั่วเห็นแบบนั้นก็ตกใจทันที เธอบอกกับวิญญาณที่อยู่รอบ ๆ “รีบหนี”
พวกผีที่เพิ่งได้สติกลับมา กำลังสับสนอย่างหนัก
บางตนยังยืนอยู่ที่เดิม บางตนก็หนีออกไปแล้ว
แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหน ไม่กี่วินาทีต่อมา พวกมันก็ถูกปกคลุมไว้ด้วยแสงสีแดง
ฉู่ลั่วกัดนิ้วตัวเองแล้ววาดยันต์กลางอากาศ เพื่อปกป้องฉินเหว่ยกับเพื่อนร่วมทีมของเขาเอาไว้
เธอทำได้เพียงมองวิญญาณถูกดูดกลืนไปทีละดวง
บาดแผลบนตัวโม่เฉิงก็สมานกลับมาเป็นเหมือนเดิมอย่างเห็นได้ชัด
ฉินเหว่ยแค่นเสียงโกรธเกรี้ยว “นี่แก…”
เขาจะพุ่งออกไป แต่ถูกฉู่ลั่วรั้งเอาไว้
“ถ้าคุณออกไป วิญญาณจะหลุดออกจากร่าง”
โม่เฉิงดูดกลืนวิญญาณในบ้านพักไปหมดแล้ว หันมายิ้มให้ฉู่ลั่ว “สหายน้อย พวกเราจะพบกันอีกในอนาคต”
เงาร่างของเขาวาดผ่านดวงจันทร์ ก่อนจะหายลับไปในความมืด
ฉู่ลั่วเผยสีหน้าเย็นชา
ส่วนสีหน้าของพวกฉินเหว่ยย่ำแย่มาก
“ปรมาจารย์ฉู่ ตอนนี้พวกเรา…”
ฉู่ลั่วสารภาพ “เขาหนีไปแล้วค่ะ แต่คำสาปผนึกวาจาของกัวห่าวก็ถูกแก้แล้วเหมือนกัน หลังจากพวกคุณกลับไปก็สามารถสอบปากคำเธอได้แล้ว”
ฉินเหว่ยเก็บปืนก่อนถอนหายใจออกมา “ถือว่าไม่เสียแรงเปล่า”
ระหว่างทางกลับ เด็กสาวเอาแต่หลับตาเอนหลังพิงเบาะ
กระทั่งพาฉู่ลั่วมาส่งถึงโรงแรม ฉินเหว่ยถึงพูดกับเธอว่า “ปรมาจารย์ฉู่ ครั้งนี้ต้องขอบคุณคุณมากครับ”
ฉู่ลั่วตอบว่า ‘อืม’ คำเดียว แล้วเดินเข้าโรงแรมไป
“หัวหน้าทีมฉิน ปรมาจารย์ฉู่คนนี้เข้ากับคนยากจังครับ!”
ฉินเหว่ยตบไหล่เพื่อนร่วมทีม “นายไม่เข้าใจ ปรมาจารย์ฉู่ยังเด็กอยู่เลย”
เพื่อนร่วมทีม “อะไรนะ?”
ฉินเหว่ยมองแผ่นหลังของฉู่ลั่ว ก่อนจะยิ้มออกมา
เขาเห็นเธอเป็นแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งจริง ๆ
ก่อนฉู่ลั่วจะเข้าไปในบ้านก็ได้ทิ้งกระดาษไว้ให้ เมื่อถึงเวลาให้พวกเขาเข้าไปในบ้านพัก ก็เข้าไปทันที
เด็กสาวคิดว่าตัวเองวางแผนมาดีมากแล้ว และต้องจับโม่เฉิงได้แน่
คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะหนีไปได้
ความรู้สึกที่ว่าคนร้ายอยู่ตรงหน้า แต่กลับหนีไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้ พวกเขาทุกคนเข้าใจดี… และรู้ซึ้งความเจ็บปวดนี้มากกว่าใคร
แต่พวกเขามีประสบการณ์มากมาย สามารถปรับสภาพจิตใจได้รวดเร็ว
แต่ฉู่ลั่ว…
ฉินเหว่ยก้มหน้ายิ้ม ความสว่างไสวของโคมไฟคริสตัลที่แขวนอยู่ในห้องโถงใหญ่ ยังเทียบกับรอยยิ้มในดวงตาของเขาไม่ได้
เพื่อนร่วมทีมกลั้นยิ้ม
พวกเขาพากันกระแทกไหล่คนข้าง ๆ “เห็นหรือเปล่า หัวหน้าทีมฉินยิ้มล่ะ”
“ต้นไม้เหล็กผลิดอกแล้ว!”
“หัวหน้าฉินยิ้มอะไรกันนะ?”
“ไม่รู้สิ? ขนาดผู้ร้ายหนีไปแล้ว หัวหน้าทีมฉินยังยิ้มได้อีก! แหม แหม แหม! ต้องมีเรื่องอะไรดี ๆ แน่นอน”
คนกลุ่มนั้นพูดคุยและหัวเราะกันพลางเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไป
ไม่มีใครรู้เลยว่า ตรงที่พวกเขายืนอยู่เมื่อครู่นี้ ยังมีวิญญาณตนหนึ่งยืนอยู่ด้วยใบหน้าเย็นชา