เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 179 แนวแก้แค้น
บทที่ 179 แนวแก้แค้น
ฮั่วเซียวหมิงลอยมายังห้องของฉู่ลั่ว ก็เห็นเธอกำลังหลับตา นั่งขัดสมาธิบำเพ็ญพลังวิญญาณอยู่ที่ระเบียง
เธอเผยสีหน้าเย็นชา เม้มริมฝีปากอมชมพู แม้จะบำเพ็ญอยู่ แต่กลับขมวดคิ้วแน่น
ฮั่วเซียวหมิงอดสนใจไม่ได้
ไม่ว่าเรื่องอะไร ฉู่ลั่วก็มักจะเฉยเมยอยู่เสมอ ขนาดพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของตนเองลำเอียงรักคนอื่นมากกว่า เธอก็เผชิญหน้าด้วยท่าทางสงบได้
แต่ตอนนี้ เธอดูเหมือนกำลังโกรธมาก
ฮั่วเซียวหมิงลอยไปตรงหน้าฉู่ลั่ว ไม่พูดอะไร แค่ยืนอยู่เงียบ ๆ เท่านั้น
แสงไฟส่องผ่านวิญญาณ ลมพัดผ่านกายละเอียดของเขา
ฮั่วเซียวหมิงก้มหน้ามองมือตนเอง
ตัวเขาในตอนนี้เป็นเพียงวิญญาณ
ฮั่วเซียวหมิงทายาทของตระกูลฮั่วประสบอุบัติเหตุจนกลายเป็นผัก ตระกูลฮั่วจึงต้องเลือกทายาทคนใหม่
โดยฮั่วเป่ยกลายเป็นตัวเลือกแรก
“ฮั่วเป่ยงั้นเหรอ เขาเคลื่อนไหวเร็วมาก ขนาดชื่อก็ยังเปลี่ยนแล้ว” ฮั่วจิ้นอ่านหัวข้อข่าวธุรกิจในมือถือ แล้วยิ้มเยาะ
หยางไต้เหลือบมองด้วยท่าทางเฉยเมย “นายท่านคนก่อนลำเอียงให้เขา พวกเราจะทำอะไรได้ ถ้าถึงวันประชุมผู้ถือหุ้น อาจิ่วปรากฏตัวอย่างราบรื่น พวกผู้ถือหุ้นจะฟังนายท่านคนก่อนไหม?”
เธอยืนขึ้น บีบนวดไหล่ของฮั่วจิ้น “ทำไมถึงได้อารมณ์เสียขนาดนั้นคะ”
ฮั่วจิ้นหันมองลูกชายที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย มีอุปกรณ์หลายอย่างแปะอยู่บนร่างกาย
ใบหน้าหล่อเหลานั้น ซูบผอมและขาวซีดลงอย่างมาก
เขาจับมือของภรรยา “ลั่วลั่วบอกว่าทำให้อาจิ่วฟื้นขึ้นมาได้จริงเหรอ?”
“แน่นอนค่ะ ฉันเชื่อลั่วลั่ว”
ฮั่วจิ้นได้ยิน ก็รีบพูดว่า “ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อลั่วลั่วนะ ผมแค่ไม่เชื่อ…”
เขาเหลือบมองลูกชายของตน
หยางไต้เองก็หันไปหาร่างของฮั่วเซียวหมิง “คุณก็มองออกเหรอคะ?”
ฮั่วจิ้นยิ้มเยาะ “เป็นผู้ชายเหมือนกัน ผมจะมองไม่ออกเหรอ?”
หยางไต้ยื่นมือออกมาตีมือลูกชายของตัวเองเบา ๆ “เขาน่ะนะ! ถูกคุณเลี้ยงมาจนเสียคนแล้ว ตอนเขาเจ็ดแปดขวบคุณก็พาเขาไปที่บริษัท อายุสิบห้าก็ให้เริ่มผู้สืบทอดแล้ว”
“เขาอายุปูนนี้แล้ว ฉันไม่เคยได้ยินเขาพูดถึงเพศตรงข้ามที่นอกเหนือจากเรื่องงานเลย!”
“ครั้งก่อนตอนพูดถึงฉู่ลั่วยังทำเป็นเสแสร้งใส่ฉัน บอกว่าฉู่ลั่วแข็งแกร่ง ฉู่ลั่วเป็นคนช่วยเหลือเขา ช่วงนี้ต้องพึ่งพาฉู่ลั่ว…”
หยางไต้ส่ายหน้า “ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้จะทำสำเร็จหรือเปล่านะคะ”
ฮั่วจิ้นก็ถอนหายใจ “ยาก! เห็นแวบเดียวก็รู้ว่าลั่วลั่วคนนี้ไม่เปิดช่องเลยสักทาง ในใจของเธอมุ่งมั่นแต่กับหน้าที่การงานของตัวเองเท่านั้น”
สองสามีภรรยามองตากัน ก่อนจะถอนหายใจออกมาพร้อมกัน
…
โรงแรม
เฉิงยวนพาซ่งเมี่ยวเมี่ยวไปดูเรื่องสนุกมาหลายวัน ก็กลับมาทั้งที่ยังดูไม่หนำใจ พวกเขามาที่ห้องฉู่ลั่ว ก่อนจะเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นตลอดหลายวันนี้ให้ฟังด้วยความตื่นเต้น
“ตั้งแต่นี้ไป ข้าจะเรียกซุนหย่าจิ้งว่าปรมาจารย์ นางเก่งมากจริง ๆ” เฉิงยวนทอดถอนใจ “คนชื่อเฝิงข่ายนั่น ถูกนางปั่นจนหัวหมุนเข้าแล้ว!”
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ “ตอนพี่สาวคนนั้นบอกเลิก เธอร้องไห้หนักมากเลยนะคะ! ทั้งที่คุณลุงคนนั้นเป็นคนไม่ดี เลิกไปก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ?”
เฉิงยวนโบกมือ “ไม่ ๆๆ สำหรับคนบางคน การเสียคนรักไปคือเรื่องแย่ที่สุด แต่ถือว่าซุนหย่าจิ้งช่วยชีวิตนางเอาไว้แล้วละ”
“ซุนหย่าจิ้งแอบถ่ายประวัติแชตในโทรศัพท์มือถือที่เฝิงข่ายคุยกับเพื่อนออกมา หลังจากนั้นก็เลยมีเรื่องสนุกให้ดูยังไงล่ะ”
เฉิงยวนประคองใบหน้าไว้ “นี่มันสนุกกว่าละครทีวีเสียอีก”
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวเอ่ย “…อยากเห็นผู้ชายสารเลวถูกทุบตีจังค่ะ”
เฉิงยวนปลอบโยน “ใกล้แล้ว ใกล้แล้ว”
เธอมองฉู่ลั่วกับฮั่วเซียวหมิงที่อยู่ในห้อง ก่อนจะถามว่า “ข้าเห็นว่าช่วงนี้สื่อพากันให้ความสนใจกับเรื่องของตระกูลฮั่ว การประชุมผู้ถือหุ้นจะเริ่มเมื่อไหร่หรือ?”
“พรุ่งนี้”
“พรุ่งนี้!” เฉิงยวนตื่นตระหนกขึ้นมา “แต่พรุ่งนี้เป็นวันที่ซุนหย่าจิ้งจะบังคับให้ผู้ชายสารเลวคุกเข่าสำนึกผิดเหมือนกัน ข้าเองก็ไม่อยากพลาด!”
“ละครแนวตัวเอกเลวถูกเอาคืน กับละครแนวนักธุรกิจสุดฮอตในเมืองหลวง มันเลือกยากมากนะ!”
“ยากมากเลยค่ะ!”
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวเองก็เท้าคางเลียนแบบเฉิงยวน แล้วพูดอย่างทุกข์ใจ
ฮั่วเซียวหมิงเงียบงัน “…”
ฉู่ลั่วเตือนพวกเขา “การสร้างอาคารขนาดใหญ่ของฮั่วกรุ๊ป มีการดูเรื่องของฮวงจุ้ยมาอย่างดี วิญญาณเร่ร่อนหรือผีตนไหนต่างก็ไม่กล้าเข้าใกล้อาคารแห่งนั้น ถ้าพวกเธอไป มันจะไม่ดีกับตัวพวกเธอเอง”
ตอนนั้นเอง เฉิงยวนก็แปะมือกับวิญญาณน้อยด้วยความดีใจ “เยี่ยม! ไม่ต้องเลือกแล้ว ไปดูละครแนวแก้แค้นกัน!”
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวกระดี๊กระด๊า “ไม่เลือกแล้วค่า จะดูแนวแก้แค้น แนวแก้แค้น!”
ฉู่ลั่ว “…”