เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 18 ฮอตเสิร์ชอันดับหนึ่ง
บทที่ 18 ฮอตเสิร์ชอันดับหนึ่ง
คิดไม่ถึงว่าสหายน้อยฉู่ยังอายุน้อย แต่กลับเก่งกาจถึงขนาดนี้
หยางเสียนเผยสีหน้าชื่นชม
คนรุ่นหลังไม่ขาดผู้บำเพ็ญ เป็นเรื่องดี… เป็นเรื่องดีมาก เขาจะไปจุดธูปไหว้สามมหาเทพเซียน เพื่อเฉลิมฉลอง!
เฉินหย่งเห็นอาจารย์ยิ้มตาหยีเป็นเส้นตรง แล้วก็เดินสะบัดชายแขนเสื้อออกไป
อาจารย์จะดีใจเกินไปหรือเปล่า!
ดีใจยิ่งกว่าตอนรับลูกศิษย์เสียอีก
…
หลับสนิททั้งคืน
ตอนที่ฉู่ลั่วตื่นขึ้นมา ก็มองไปทางหน้าต่างด้วยความเคยชิน
เมื่อเห็นแผ่นหลังของฮั่วเซียวหมิง เธอก็เปลี่ยนเสื้อผ้าไปพลาง พูดไปพลาง “ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ฉันมีพลังมากพอให้คุณกลับเข้าร่างได้สักพัก แต่คุณไม่ยอมตอบรับสักที”
ฮั่วเซียวหมิงเอ่ยเสียงนุ่มนวล “นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้เห็นจิตใจที่แท้จริงของคนอื่น”
เขาหลับตาลง พูดออกมาเสียงแผ่ว “กระจกสะท้อนภาพได้นะ เวลาคุณเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่เข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำเหรอ? ผมยังยืนอยู่ตรงนี้อยู่เลย”
ฉู่ลั่วเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ก็ดึงเส้นผมยาว ๆ ออกมานอกเสื้อ
“ก็แค่กายเนื้อไม่ใช่หรือไง เห็นก็เห็นไปสิ อีกอย่างคุณไม่ใช่พวกถ้ำมองสักหน่อย”
ฮั่วเซียวหมิงหมดคำพูด “…”
เขาไม่ใช่… แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะทำตัวตามอำเภอใจโดยไม่รู้สึกอายแบบนี้!
ตอนที่คิดว่าจะสั่งสอนเธอสักสองสามประโยค ฉู่ลั่วก็เข้าไปล้างตัวในห้องน้ำเสียก่อน
สิบนาทีต่อมา เมื่อเธอเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็ไม่เห็นฮั่วเซียวหมิงแล้ว
แม้จะรู้จักกันไม่นาน แต่ฉู่ลั่วพอจะเข้าใจวิญญาณหนุ่มมากขึ้น
เขาเป็นพวกหัวโบราณ พูดจาตรงไปตรงมา เห็นได้ชัดว่าได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดี ความสุภาพและความอดทนราวกับฝังลงในจิตวิญญาณ
แม้จะอยู่ในสถานะเป็นวิญญาณ แต่ไม่เคยหลงระเริงทำอะไรตามใจ
เขาเป็นคนแบบนั้น…
ไม่สิ ต้องบอกว่าเขาเป็นวิญญาณประเภทนั้น ถึงยังรักษาสติเอาไว้ได้ทั้งที่ถูกกลิ่นอายของผีวนเวียนรอบตัว
เมื่อเธอลงไปทานอาหารเช้าข้างล่าง ก็เห็นซ่งจือหนานนั่งอยู่ที่โต๊ะทานอาหาร พออีกฝ่ายเห็นอาเจ๊ลงมา ก็รีบลุกขึ้น “อรุณสวัสดิ์ครับ เมื่อคืนเจ๊ใหญ่นอนหลับสบายดีไหมครับ วันนี้เจ๊ใหญ่สีหน้าดูดีมากเลยครับ สวยกว่าเมื่อวานเสียอีก!”
“กลับไปเรียกพี่ลั่วเหมือนเดิมเลยย่ะ”
เห็นได้ชัดว่าเขากำลังเลียแข้งเลียขา แทบจะมีป้ายเขียนคำว่าประจบติดไว้บนหน้าผาก
ฉู่ลั่วขมวดคิ้ว รู้สึกไม่ชินเอาซะเลย “นายเป็นอะไร?”
“ผมมายินดีกับพี่ลั่วครับ ที่พี่ลั่วขึ้นฮอตเสิร์ชอันดับหนึ่ง” พูดจบเขาก็ปรบมือเสียงดัง!
ทั้งห้องรับประทานอาหารมีซ่งจือหนานแสดงละครดี๊ด๊าอยู่คนเดียว
ฉู่ลั่วมองเขาเงียบ ๆ
ส่วนคนตระกูลฉู่คนอื่นน่ะหรือ?
บนโต๊ะทานอาหารบ้านตระกูลฉู่มีเพียงฉู่เหว่ยฮ่าวกับภรรยา และลูกชายคนโตฉู่เหิง
พวกเขาต่างมองซ่งจือหนานด้วยความประหลาดใจ “จือหนาน เธอพูดอะไรน่ะ!”
ซ่งจือหนานเห็นพวกเขาทำสีหน้างุนงงกันหมดก็ถาม “คุณลุงฉู่ คุณป้าซ่ง พี่เหิง เมื่อวานพวกคุณไม่ได้ดูไลฟ์สตรีมของฉู่ลั่วเหรอครับ?”
หลังพูดจบ ก็เหล่ตามองไปที่คุณนายซ่งเชียนหย่าด้วยความไม่พอใจ
เมื่อวานเขาอุตส่าห์แอบบอกซ่งเชียนหย่าเรื่องไลฟ์สตรีม คิดว่าหลังจากพูดถึงแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวจะพากันไปดูไลฟ์สตรีมของฉู่ลั่วเสียอีก
ใครจะรู้ว่าพวกเขายังไม่ได้ดู
“คุณป้าซ่ง ปกติเวลาฉู่หร่านถ่ายหนังถ่ายละคร หรือแม้แต่ตอนที่เธอเข้าไปไลฟ์ในห้องไลฟ์สตรีมเมื่อวาน คุณยังไปให้ของขวัญเธอ”
“ทำไมพอถึงคราวของฉู่ลั่ว…”
ถึงเขาจะพูดไม่จบ แต่ความหมายแฝงในประโยคนั้นก็ชัดเจนมากแล้ว
ซ่งเชียนหย่าสีหน้ากระดากอาย จนเก็บสีหน้าไม่อยู่
เธอพูดเสียงแห้งผากว่า “เมื่อวานตอนเย็นหร่านหร่านไลฟ์ขายของ ป้าก็เลยเข้าไปดูไลฟ์ของหร่านหร่าน”
ซ่งเชียนหย่าพยายามอธิบายการกระทำของตัวเองโดยไม่รู้ตัว “หร่านหร่านเธอทำงาน แต่ลั่วลั่วไม่เหมือนกัน ลั่วลั่วแค่ไลฟ์เล่นสนุกเท่านั้นเอง”
เธอไม่ชอบดูไลฟ์สตรีมเต้นรำ ร้องเพลง โยกย้ายส่ายสะโพกที่ไม่เหมาะสมอะไรทำนองนั้น