เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 181 ชอบดูละครโรแมนติกไหม
บทที่ 181 ชอบดูละครโรแมนติกไหม
ณ ห้องประชุม ฮั่วกรุ๊ป
ภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ ฮั่วจิ้นกำลังมองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา เขาระงับความโกรธแล้วถามว่า “พวกคุณเห็นด้วยกันหมดเลยใช่ไหม?”
ห้องประชุมตกอยู่ในความเงียบ
นายท่านฮั่วมองลูกชาย “อาจิ้น ฮั่วกรุ๊ปจำเป็นต้องมีผู้สืบทอด ความสามารถของเสี่ยวเป่ยหลายปีมานี้แกเองก็เห็นแล้ว ไม่กี่วันก่อนฉันให้เขาไปเปลี่ยนชื่อที่สำนักกิจการพลเรือน ตอนนี้เขาคือฮั่วเป่ย”
“ถ้าเขาสืบทอดฮั่วกรุ๊ป ฉันจะได้วางใจ แกเองก็จะได้วางใจด้วย”
ฮั่วเป่ยมองฮั่วจิ้นพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ “พี่ใหญ่ครับ นี่คือความต้องการของคุณพ่อ ตอนนี้ผมอายุยังน้อย มีหลายเรื่องที่ยังไม่เข้าใจ ต้องรบกวนให้พี่ใหญ่ช่วยสอนผมแล้ว”
“พี่ใหญ่ไม่รังเกียจที่ผมโง่เง่าก็พอแล้วครับ”
คณะกรรมการบริหารคนอื่น ๆ ต่างก็เกลี้ยกล่อมฮั่วจิ้น “ท่านประธาน ตำแหน่งผู้อำนวยการสำคัญกับฮั่วกรุ๊ปมากนะครับ โครงการหลายอย่างก่อนหน้านี้ถูกระงับไปเพราะเกิดเรื่องขึ้นกับผู้อำนวยการ พวกเราสูญเสียไปตั้งเท่าไหร่ ท่านประธานก็ทราบดี”
“ความสามารถของคุณชายฮั่วเป่ย หลายปีมานี้พวกเราต่างก็เห็น ยิ่งมีท่านประธานกับนายท่านคนเก่าอยู่ข้าง ๆ คุณชายฮั่วเป่ยต้องแบกรับภาระหน้าที่ของฮั่วกรุ๊ปได้แน่นอนครับ”
“เกิดเรื่องขึ้นกับผู้อำนวยการ พวกเราเองก็เสียใจ ถ้าหากผู้อำนวยการมีโอกาสฟื้นขึ้นมา พวกเราคงไม่ตัดสินใจแบบนี้”
ฮั่วจิ้นเงียบงัน “…”
นายท่านฮั่วมองคณะกรรมการบริหารอย่างพึงพอใจ ก่อนจะหันไปมองฮั่วจิ้นอีกครั้ง “อาจิ้น แกรักอาจิ่ว แล้วฉันไม่รักอย่างนั้นหรือ? แต่ในฐานะที่แกเป็นประธานบริษัท การตัดสินใจของแกต้องคำนึงถึงส่วนรวม”
“ส่วนรวม? คิดถึงส่วนรวมด้วยการยกฮั่วกรุ๊ปให้เขาเหรอครับ?”
นายท่านฮั่วพยักหน้า “แกอย่าลำเอียงกับเสี่ยวเป่ยนักเลย เสี่ยวเป่ยฉลาดมาก ที่อาจิ่วขึ้นมาดูแลฮั่วกรุ๊ปได้อย่างราบรื่น เพราะแกพาอาจิ่วมาสอนงานที่บริษัทตั้งแต่อายุไม่กี่ขวบ”
“ถ้าเสี่ยวเป่ยได้ติดตามเรียนรู้สักสิบกว่าปี ไม่แน่ว่าอาจิ่วอาจจะทำได้ไม่เท่า”
ฮั่วจิ้นมองบิดาของตน แล้วมองไปที่น้องชายต่างมารดาที่อายุน้อยกว่าลูกชายของตน กับเหล่าคณะกรรมการบริหารที่อยู่กันเต็มห้องประชุม
หากวันนี้เขาไม่รู้มาก่อนว่าลูกชายจะฟื้นขึ้นมา ภายใต้สถานการณ์กดดันแบบนี้ เขาคงรับปากยกตำแหน่งผู้อำนวยการให้ฮั่วเป่ยไปแล้ว
นายท่านคนเก่าเพื่อให้ลูกชายนอกสมรสของตัวเองมีที่ยืน ก็ทำทุกอย่างโดยไม่สนวิธีการ!
“ท่านประธาน ตัดสินใจเถอะครับ!”
“อาจิ้น… เพื่อฮั่วกรุ๊ป แกต้องรู้จักปล่อยวางบ้าง!”
“พี่ใหญ่ ผมจะตั้งใจเรียนรู้ครับ!”
ฮั่วจิ้นกำหมัด สีหน้าเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ
นายท่านฮั่วเห็นว่าฮั่วจิ้นไม่แสดงท่าทีอะไร จึงเสนอขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ตัดสินด้วยการยกมือ ใครเห็นด้วยที่จะให้ฮั่วเป่ยรับผิดชอบตำแหน่งผู้อำนวยการฮั่วกรุ๊ปก็ยกมือขึ้น”
นายท่านฮั่วยกมือคนแรก
ภายใต้สายตาของเขา คณะกรรมการบริหารคนอื่นค่อย ๆ พากันยกมือ ในท้ายที่สุดคณะกรรมการบริหารมากกว่าครึ่งต่างก็ยกมือกันหมดแล้ว
ฮั่วจิ้นขมวดคิ้วแน่น มองไปยังนายท่านฮั่วที่เป็นประธานการประชุม
นายท่านฮั่วเหลือบมองเขา ก่อนจะลุกขึ้นยืน
ฮั่วเป่ยรีบประคองเขา “คุณพ่อ ระวังครับ”
นายท่านฮั่วมองลูกชายคนเล็กอย่างพอใจ เด็กคนนี้เป็นลูกชายที่รู้ความและว่านอนสอนง่าย
อีกทั้งลูกชายคนเล็กนี้ยังเกิดมาจากคนรักที่อายุน้อยที่หน้าตาสะสวยและอ่อนโยน เขายิ่งต้องรักและเอ็นดู
เขาเดินไปยืนอยู่ข้างฮั่วจิ้น และประกาศออกมาว่า “ในเมื่อผลการตัดสินออกมาแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันขอประกาศตรงนี้เลยว่า ฮั่วเป่ยจะรับผิดชอบ…”
แอ๊ดด
มีเสียงดังขึ้นจากประตูหนักอึ้งของห้องประชุม ที่ถูกใครบางคนผลักจากด้านนอก
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ประตู
เมื่อได้เห็นร่างสูงสง่าและเย็นชานั้น ทุกคนต่างก็ตกตะลึง
ฮั่วเซียวหมิงกวาดสายตามองทุกคนด้วยท่าทางสงบ เขาก้าวเข้าไปนั่งลงตรงตำแหน่งที่เคยเป็นของนายท่านฮั่ว แล้วนั่งลงท่ามกลางสายตาทุกคู่ที่จับจ้องมา
เขาวางมือข้างหนึ่งลงบนโต๊ะ นิ้วเรียวยาวที่มีพลังของเขาเคาะลงบนโต๊ะเบา ๆ ทำให้เกิดเสียงที่ฟังดูน่าอึดอัด “ประชุมคณะกรรมการบริหาร แต่ไม่แจ้งให้ผู้อำนวยการอย่างผมเข้าร่วม ไม่เหมาะสมละมั้งครับ”
เสียงนี้ทำลายความเงียบภายในห้องประชุมทันที
“ผู้อำนวยการฮั่ว คุณฟื้นแล้ว!”
“ผู้อำนวยการฮั่ว ไม่ได้ยินข่าวมาก่อนเลยว่าคุณฟื้นแล้ว!”
“แบบนี้ก็ดีแล้ว ในเมื่อผู้อำนวยการฮั่วฟื้นแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวผู้อำนวยการอีก”
ฮั่วจิ้นที่มีสีหน้าอึมครึมมาตลอดเผยรอยยิ้มออกมาแล้ว เขาทำเป็นมองไปที่นายท่านฮั่วอย่างช่วยไม่ได้ “พ่อครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นด้วย แต่ตอนนี้อาจิ่วยังนั่งอยู่ในตำแหน่งผู้อำนวยการ”
เขาถามพร้อมรอยยิ้ม “หรือไม่ จะให้คณะกรรมการบริหารยกมือตัดสินอีกครั้งก็ได้ครับ”
นายท่านฮั่วเงียบงัน “…”
สีหน้าของฮั่วเป่ยก็ย่ำแย่เช่นกัน
นายท่านฮั่วมองฮั่วเซียวหมิง “เธอคืออาจิ่วจริงหรือ? ไม่ใช่เพื่อขัดขวางไม่ให้เสี่ยวเป่ยสานต่อตำแหน่งผู้อำนวยการ เลยหาคนมาแทนหรอกใช่ไหม!”
ฮั่วเซียวหมิงเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายนิ่ง ๆ ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “คุณปู่ หลังจากคุณปู่เกษียณไปแล้ว มัวแต่ยุ่งกับการดูละครโรแมนติกกับผู้หญิงเหรอครับ?”
นายท่านฮั่ว “…”
แค่พูดประโยคเดียวก็เหมือนตบหน้าเขาแรง ๆ หลายครั้ง!
ทุกคนแอบทำสีหน้าเยาะเย้ย และลอบสังเกตชายชรา
นายท่านฮั่วเกษียณไปนานแล้ว แม้ตอนนี้จะยังถือหุ้นบริษัทเอาไว้ในมือ แต่ก็สูญเสียอำนาจในการควบคุมฮั่วกรุ๊ปไปนานแล้ว
อีกทั้งฮั่วเป่ยก็เป็นลูกของผู้หญิงคนอื่นที่นายท่านฮั่วแอบเลี้ยงดูไว้ข้างนอกลับหลังคุณนายฮั่ว คุณนายฮั่วเพิ่งเสียไป นายท่านฮั่วก็พาลูกนอกสมรสของภรรยาน้อยเข้ามาในบ้าน
ตอนนั้นเกิดเป็นละครฉากใหญ่ แต่ในความโกลาหลนั้น คนที่ได้รับชัยชนะในท้ายที่สุดก็คือฮั่วจิ้น นายท่านฮั่วต้องออกจากตระกูลฮั่วไปอย่างจนตรอก
คิดไม่ถึงว่า…
ช่วงหลายปีมานี้ นายท่านจะยังไม่ยอมแพ้ พยายามหาวิธีให้ลูกนอกสมรสของตนได้รับทุกอย่างโดยชอบธรรม
หลายคนเพิ่งตระหนักได้
การเห็นแก่ส่วนรวมที่นายท่านพูดถึง ที่แท้ก็คือทำให้ลูกนอกสมรสของตัวเองได้รับทรัพย์สินและกิจการไปนี่เอง!
คนที่คิดได้แล้วต่างมีสีหน้าย่ำแย่ลง