เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 182 สารรูป
บทที่ 182 สารรูป
การประชุมคณะกรรมการบริหารจบลงแล้ว
ทุกคนต่างรุมล้อมฮั่วเซียวหมิงไว้ “ผู้อำนวยการฮั่ว ยินดีด้วยครับที่กลับมาสุขภาพแข็งแรง!”
“ขอบคุณครับ”
“ผู้อำนวยการฮั่วจะเข้ามาบริษัทเมื่อไหร่ครับ? มีหลายเรื่องที่รอให้คุณมาจัดการ”
“เร็ว ๆ นี้…”
ท่ามกลางเสียงพูดคุย ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นมา “อาจิ่ว หมอบอกว่านายสมองตายไม่ใช่เหรอ? ทำไมจู่ ๆ ถึงฟื้นขึ้นมาได้ล่ะ?”
สายตาของฮั่วเซียวหมิงมองผ่านกลุ่มคนไปตกอยู่ที่ฮั่วเป่ยที่อยู่ข้างหลัง “อาจจะเป็นเพราะตอนอยู่ในนรกได้ยินว่ามีคนจะแย่งของของผม ก็เลยฟื้นขึ้นมามั้งครับ”
ดวงตาดำขลับมีแววเย็นชา “อีกอย่าง ผมทำตามความต้องการของคุณย่าน่ะ”
ฮั่วเป่ยน้ำท่วมปาก “…”
สีหน้าของนายท่านฮั่วย้ำแย่ลงอย่างมาก
เรื่องที่เขาไม่สามารถสลัดออกไปได้ในชีวิตนี้ ก็คือแอบเลี้ยงดูหญิงสาวอายุน้อยคนหนึ่งลับหลังภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ตอนนั้นที่เรื่องนี้แดงออกมา หุ้นของฮั่วกรุ๊ปก็ตกฮวบ เป็นฮั่วจิ้นที่เข้ามาบรรเทาความเห็นแง่ลบจากสาธารณชน ในขณะนั้นเขาต้องออกจากตระกูลฮั่ว กลายเป็นผู้ถือหุ้นที่ได้รับเงินปันผลอย่างเดียวแต่ไม่มีอำนาจอะไร
เมื่อพูดถึงภรรยา สีหน้าของนายท่านฮั่วเดี๋ยวก็ซีดเดี๋ยวก็แดง
เขากระแทกไม้เท้าอย่างแรง “มีใครพูดกับผู้อาวุโสอย่างแกบ้าง? เขาเป็นอาเล็กของแกนะ!”
ฮั่วเป่ยรีบเดินเข้าไปหา แล้วประคองนายท่านฮั่วไว้ “คุณพ่อ ช่างเถอะครับ ผมรู้ว่าพี่ใหญ่กับหลานชายไม่ชอบผม”
นายท่านฮั่วส่งเสียงไม่พอใจ “หัดเรียนรู้จากอาเล็กของแกบ้าง ดูบ้างว่าเขาปฏิบัติกับผู้อาวุโสยังไง”
ฮั่วเซียวหมิงก้มหน้าจัดกระดุมแขนเสื้อที่ทำจากเพชรของตน เขาพูดเหมือนกำลังยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้ม “ทำไมผมต้องเรียนรู้จากเขา? พ่อของผมเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลฮั่ว แม่ของผมเป็นคุณหนูจากตระกูลหยาง ผมเป็นลูกชายที่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเพียงคนเดียวของพวกท่าน ทำไมผมต้องเรียนรู้จากเขา?”
ฮั่วเซียวหมิงเงยหน้าขึ้น ทำหน้าเหมือนขอคำแนะนำ “คุณปู่บอกให้ผมเรียนรู้จากเขา ไม่ทราบว่าให้ผมเรียนรู้อะไรเหรอครับ?”
ทันใดนั้นฮั่วเป่ยก็แสดงสีหน้าน่าเกลียดออกมา เขาไม่สามารถแสดงสีหน้าอ่อนโยนอย่างที่ทำเป็นปกติได้อีกต่อไป
นายท่านฮั่วก็โกรธจนแทบจะเป็นลม
ฮั่วเซียวหมิงไม่มองพวกเขา แต่หันหลังเดินกลับไปยังห้องทำงานของตน
คณะกรรมการบริหารไม่กี่คนที่ยังอยู่ร่ำลานายท่านฮั่วเสร็จ ก็รีบจากไปทันที
ตอนนี้ภายในห้องประชุมเหลือเพียงนายท่านฮั่วกับฮั่วเป่ย
นายท่านฮั่วบ่นกระปอดกระแปดอยู่ในใจ
เจ้าลูกหลานไม่รักดี… ลูกหลานไม่รักดี!
…
โรงแรม
เฉิงยวนดูรายงานข่าวในโทรทัศน์ “กรี๊ด!!! ข้ารู้มานานแล้วนะว่าฮั่วเซียวหมิงหล่อ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าพออยู่ในทีวีจะหล่อขนาดนี้! เขาใช้เจลใส่ผมหรือเปล่า? สวมชุดสูทด้วย พออยู่บนตัวเขาแล้วดูดีมากจริง ๆ”
“ไม่เคยเห็นใครสวมชุดสูทได้หล่อเท่าเขาเลย”
หัวหว่านที่อยู่ข้าง ๆ ทำสีหน้าพูดไม่ออก “ดูข่าวเศรษฐกิจ แต่เธอกลับทำเหมือนกำลังดูละครรักโรแมนติกอย่างนั้นแหละ!”
เฉิงยวนเอียงคอถามว่า “ถ้าอย่างนั้น เจ้าคิดว่าหล่อหรือเปล่าล่ะ?”
หัวหว่านมองฮั่วเซียวหมิงที่อยู่บนหน้าจอโทรทัศน์ ชุดสูทสีดำพอดีตัว เนกไทสีเดียวกัน ยิ่งรวมกับใบหน้าที่โดดเด่น กับรูปร่างสูงโปร่งนั่น
หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นมาทันที ทั้งยังเผลอกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว
“เรื่องหล่อน่ะ… แน่นอนว่าต้องหล่ออยู่แล้ว แต่ไม่ได้โอเวอร์อย่างที่เธอพูดหรอกนะ…”
ในโทรทัศน์มีเสียงทุ้มต่ำของฮั่วเซียวหมิงดังออกมา แม้จะเป็นการพูดถึงแผนการทางธุรกิจง่าย ๆ แต่เสียงนั้นมันช่าง…
หัวหว่านเม้มปาก
จู่ ๆ เธอก็กระโดดขึ้นไปนั่งบนโซฟา กอดหมอนเอาไว้ ก่อนจะซุกหน้าลงกับหมอน แล้วส่งเสียงกรีดร้องออกมา
“หล่อ ๆๆ! หล่อสุด ๆ ไปเลย ทำไมถึงหล่อขนาดนี้! หล่อยิ่งกว่าตอนเป็นผีมากเลย ผู้ชายเนี่ยต้องมีชีวิตอยู่ถึงจะดีจริง ๆ ด้วย”
เฉิงยวนได้รับคำยืนยันก็รีบพูดขึ้น “ใช่ไหมล่ะ ใช่ไหมล่ะ!? ผู้ชายที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ จุ๊ ๆๆ น่าเสียดายที่ผู้หญิงบางคนไม่รู้จักชื่นชมเขา!”
เธอเหล่ตามองฉู่ลั่วที่หลับตาบำเพ็ญพลังอยู่ตรงระเบียง พลางส่ายหน้าเบา ๆ “ส่งสายตาให้คนตาบอดไปก็เปล่าประโยชน์”
หัวหว่านก็มองตามไปที่คุณหนูแล้วส่ายหน้าตาม “เข้าไปในเขาแห่งสมบัติแต่กลับออกมามือเปล่า น่าเสียดาย น่าเสียดาย!”
ทั้งสองคนมองตากันด้วยความเศร้าใจ และแอบสัญญากันอย่างลับ ๆ ว่าจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้ แล้วหันไปกรี๊ดฮั่วเซียวหมิงบนหน้าจอโทรทัศน์ต่อ
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวกะพริบตาปริบ ๆ “…”
เธอลอยไปตรงหน้าพี่สาวฉู่ลั่ว พลางชี้ไปที่สองสาวที่กำลังวี้ดว้ายกันอยู่หน้าโทรทัศน์ “พี่ลั่วลั่วคะ พี่หยวนหยวนกับพี่หว่านหว่านพูดอะไรกันเหรอคะ?”
ฉู่ลั่วตอบเสียงเรียบ “พวกเขากำลังให้ความสำคัญกับสารรูปน่ะ”
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวเอียงคออย่างไม่เข้าใจ “สารรูป?”