เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 188 ภาพฉากประหลาด
บทที่ 188 ภาพฉากประหลาด
รองผู้กำกับกะพริบตา กระซิบถามอิ่นซานว่า “ผู้กำกับอิ่นครับ คุณรู้จักสาวน้อยคนนี้เหรอครับ?”
อิ่นซานกลอกตามองรองผู้กำกับ “สาวน้อยอะไร? เธอเป็นปรมาจารย์ ปรมาจารย์ตัวจริงเชียวนะ!”
อิ่นซานเชิญฉู่ลั่วเข้าไปข้างใน ขณะที่เดินเข้าไป เขาก็เล่าสถานการณ์ในกองถ่ายให้ฟังด้วย
บุปผายามราตรีเป็นภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องหนึ่ง เนื้อหาหลักจะเล่าถึงสนมหลายคนที่ถูกขังไว้ในตำหนักเย็น และได้พบเจอกับเรื่องราวประหลาดในตำหนักเย็นแห่งนี้
“เพิ่งเริ่มถ่ายทำได้ไม่นาน ก็เริ่มจากมีนักแสดงชายไม่ทันระวังพลัดตกลงไปในน้ำ ใบหน้าถูกขีดข่วนจนเป็นแผล ต่อมาก็เป็นเด็กฝึกงานที่อยู่ในทีมฉากถูกอุปกรณ์ประกอบฉากตกใส่ได้รับบาดเจ็บ”
“หนึ่งสัปดาห์ก่อน ตอนที่นักแสดงหญิงคนหนึ่งพักผ่อนอยู่ในห้องพัก เธอก็บอกว่าเห็นเงาของผู้หญิงในกระจก”
“ส่วนวันนี้…” อิ่นซานสีหน้าเคร่งเครียด “ตอนที่พวกเราถ่ายทำกันอยู่”
ผู้กำกับดึงฉู่ลั่วไปที่หน้ากล้อง แล้วเปิดภาพที่ถ่ายทำก่อนหน้านี้ขึ้นมาอีกครั้ง
เขาชี้ไปยังบ่อน้ำที่อยู่ในฉากด้านหลังในตอนถ่ายทำ “เห็นไหมครับ?”
ฉู่ลั่วมองกล้องก่อนจะเห็นผู้หญิงผมเผ้ายุ่งเหยิงคนหนึ่ง โผล่ศีรษะออกมาจากบ่อน้ำ กำลังหันมามองแล้วยิ้มให้กล้องอย่างน่าสะพรึงกลัว
อิ่นซานเปิดให้ดูฉากอื่น ๆ อีก แล้วชี้ไปยังชายคาที่อยู่ไกลออกไป “ตรงนี้… ตรงนี้ก็มีครับ”
เป็นผู้หญิงคนเดียวกัน และมองกล้องด้วยสีหน้าน่ากลัวเหมือนกันหมด
อิ่นซานเปิดฉากอื่น ๆ บนหน้าจอขึ้นมาอีกสองสามฉาก “ตอนแรกผมก็ไม่ได้ใส่ใจนะครับ คิดว่าเป็นทีมฉากเซ็ตเอาไว้ ต่อมาผมก็สงสัยว่าเป็นแฟนคลับบ้า ๆ สักคนหรือเปล่า”
“จนกระทั่งฉากนี้…”
พออิ่นซานพูด ฉู่ลั่วก็สังเกตเห็นว่าทีมงานที่อยู่รอบ ๆ และผู้กำกับต่างแสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมา
นักแสดงหญิงสองคนสบตากัน จากนั้นก็กอดแขนกันไว้ ยืนชิดกันด้วยความหวาดกลัว
อิ่นซานเปิดภาพในจอขึ้นมา
บนหน้าจอ นักแสดงหญิงสองคนกำลังแสดงกันอยู่ พวกเธอกำลังพูดบท และตรงกลางระหว่างพวกเธอก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังเอียงคอมองนักแสดงหญิงคนนี้ สักพักก็หันไปมองนักแสดงหญิงอีกคน
สุดท้ายก็เงยหน้าขึ้น แล้วยิ้มสยองให้กล้อง
ด้านนอกของเลนส์กล้อง มีเสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวของอิ่นซานดังขึ้น “ใครน่ะ! ใครบุกเข้ามาในกล้อง รองผู้กำกับ ให้คนมาลากออกไปที”
“ไม่มีคนนะครับ ผู้กำกับ! ไม่มีใครเข้าไปในกล้องเลยครับ”
“ทำไมจะไม่มี คุณดูให้ชัด…”
จากนั้นบนหน้าจอก็มีเสียงกรีดร้องด้วยความกลัว
อิ่นซานปิดกล้อง มองคนอื่น ๆ ที่พากันแสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมา
“วันนี้พอแค่นี้ก็แล้วกัน! พวกคุณกลับไปพักผ่อนกันเถอะ”
นักแสดงหญิงคนหนึ่งดึงนักแสดงหญิงอีกคนไว้ พร้อมทำหน้าจะร้องไห้ “ผู้กำกับคะ ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากกลับนะคะ แต่พวกเราไม่กล้ากลับต่างหาก! พวกเราไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไรกันแน่ ไม่รู้จะตามพวกเรากลับไปด้วยหรือเปล่า!”
ตอนอยู่ในกองถ่าย ทุกคนยังอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม ถึงจะกลัวแต่ก็ยังพอทนได้
หากกลับไปที่โรงแรมก็มีแค่ตัวพวกเขาเท่านั้นแล้ว
ยิ่งคนน้อย ก็ยิ่งน่ากลัวขึ้น
นักแสดงหญิงอีกคนก็พูดว่า “ใช่ค่ะ ผู้กำกับคะ ตอนนี้เชิญปรมาจารย์มาแล้วไม่ใช่เหรอคะ? ให้ท่านปรมาจารย์คนสวยช่วยดูให้พวกเราว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะกล้องมีปัญหา หรือว่า… มีคนเล่นพิเรนทร์กับพวกเรา!”
บางคนในกองถ่ายคิดว่าเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ บางคนกลับวิเคราะห์สิ่งเหล่านี้ด้วยมุมมองทางวิทยาศาสตร์
แต่ทุกคนต่างก็มีความเห็นอย่างหนึ่งที่เหมือนกัน คือถ้าไม่แก้ไข ก็ถ่ายภาพยนตร์ต่อไม่ได้
ทุกคนต่างมองไปที่ฉู่ลั่ว
บางคนพูดแนะนำเสียงเบา “ผู้กำกับครับ พวกเราเชิญปรมาจารย์สักคนมาดีไหมครับ! สาวสวยคนนี้…”
อิ่นซานพูดแทรกเขาทันที “ไม่ต้องเชิญคนอื่นมา ปรมาจารย์ฉู่ยินดีออกหน้าให้ก็ถือว่าให้เกียรติพวกเรามากแล้ว”
วงการเต๋าให้ความสำคัญกับคำพูดที่ว่า เรื่องเพียงเรื่องเดียวไม่ควรให้ปรมาจารย์ถึงสองคนมาจัดการ
หากเชิญคนอื่นมา ย่อมเป็นการสงสัยในความสามารถของปรมาจารย์
ต่างคนต่างกระซิบคุยกันว่า
“สาวน้อยคนนี้หน้าตาดีมาก แต่อายุน้อยเกินไปหรือเปล่า!”
“ทำไมผู้กำกับอิ่นถึงเชื่อเธอนัก?”
“เธอจะสวยหรือไม่สวย อายุเท่าไหร่ก็ช่าง ขอแค่สามารถแก้ปัญหาในกองของเราได้ก็คือปรมาจารย์นั่นแหละ”
“ฉันนึกออกแล้ว! มิน่าล่ะ ฉันถึงได้รู้สึกว่าเธอหน้าคุ้นมาก” เสี่ยวโหยวที่เงียบมาตลอดส่งเสียงอุทานออกมา
เธอปิดปากด้วยความตื่นเต้นและตีไหล่เพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้าง ๆ อย่างดีใจ “ไม่มีปัญหาแน่นอน! เธอเป็นปรมาจารย์ ปรมาจารย์ตัวจริงเลยละ!”