เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 196 ได้รับการตอบกลับ
บทที่ 196 ได้รับการตอบกลับ
ณ ห้องหนังสือ
ฮั่วเซียวหมิงเงยหน้าเอนหลังอยู่บนโซฟา แขนข้างหนึ่งยกมาวางพาดที่ตาเพื่อปกปิดความรู้สึกของตัวเอง
“คุณชาย คุณชายครับ”
ด้านล่างมีเสียงร้อนอกร้อนใจของหัวหน้าพ่อบ้านดังขึ้นมา
ฮั่วเซียวหมิงถอนหายใจออกมายาว ๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน เปิดประตูห้องหนังสือ แล้วเดินลงไป
หยางไต้กับฮั่วจิ้นเดินออกมาจากห้องนอน
พ่อบ้านที่สงบเสงี่ยมมาตลอด น้อยครั้งที่จะมีอาการตื่นตระหนกขนาดนี้
พ่อบ้านชี้ไปยังโคมไฟระย้าที่ทำจากคริสตัล “นั่นครับ”
ทั้งสามคนหันไปมอง ก็เห็นนกกระเรียนกระดาษที่ทำจากกระดาษสีเหลืองบินวนในห้องรับแขก
หัวใจของฮั่วเซียวหมิงเต้นแรง เขารีบสาวเท้าเดินลงมาข้างล่าง
เมื่อมาถึงห้องรับแขก นกกระเรียนกระดาษก็บินเข้ามาหาเขา
ชายหนุ่มยื่นมือออกไป นกกระเรียนกระดาษค่อย ๆ ร่อนลงบนฝ่ามือพร้อมกับจิกเบา ๆ สองครั้ง
หยางไต้กะพริบตาด้วยความประหลาดใจ “นี่ลั่วลั่วส่งมาเหรอ?”
มุมปากของฮั่วเซียวหมิงยกขึ้นอย่างไม่อาจควบคุมได้ “ครับ”
“ลั่วลั่วติดต่อมาดึกขนาดนี้ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?”
ฮั่วเซียวหมิงส่ายหน้า “ไม่ใช่ครับ”
หยางไต้ถาม “ลูกรู้ได้ยังไง?”
รอยยิ้มบนใบหน้าฮั่วเซียวหมิงยังไม่หายไป “ถ้าเรื่องร้ายแรงขนาดนั้น เธอไม่มีทางใช้ของที่บินได้ช้าแบบนี้หรอกครับ”
พูดจบ เขาก็ถือนกกระเรียนกระดาษกลับขึ้นไปข้างบน
หยางไต้มองใบหน้าของลูกชายที่ผ่อนคลายขึ้นไม่น้อย ก็อดจะกลอกตาไม่ได้ “ในอนาคตต้องถูกลั่วลั่วจัดการอยู่หมัดแน่นอน”
ฮั่วจิ้นพูดอย่างพอใจ “แบบนี้ก็ดีสิ ผมกังวลมาตลอดเลยว่าจะไม่มีใครจัดการเขาได้”
ฮั่วเซียวหมิงกลับมาที่ห้องนอน เอานกกระเรียนกระดาษวางไว้บนเตียง ก่อนจะหยิบชุดนอนเดินเข้าไปในห้องน้ำ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เขาออกมาจากห้องน้ำ ดึงผ้าห่มขึ้นแล้วนอนพิงหัวเตียง ก่อนจะหยิบนกกระเรียนกระดาษมาดู
นิ้วมือที่มองเห็นข้อต่อชัดเจนลูบปีกนกกระเรียนกระดาษ ส่วนปลายนิ้วก็ถูที่ตัวนกอย่างเบามือ
เขาค่อย ๆ คลี่นกกระเรียนกระดาษออก บนนั้นมีตัวอักษรเขียนเอาไว้
ลายมืออ่อนช้อยแต่ก็ทรงพลัง ตัวอักษรนั้นเหมือนกับเจ้าของเป็นอย่างมาก มันแสดงออกถึงความเย็นชาและสันโดษ
บนนั้นเขียนประโยคเรียบง่ายไว้หนึ่งประโยค
[ต่อไปถ้าฉันออกไปข้างนอก จะบอกคุณก่อนแล้วกัน]
ฮั่วเซียวหมิงมองตัวอักษรนี้ก็ก้มหน้าลง ขนตายาวปิดบังสายตาเอาไว้ มีเพียงไฝใต้ตาขวาที่แดงฉานราวกับเลือด
…
วันต่อมา ฉู่ลั่วได้รับวิดีโอที่อิ่นซานส่งมาทางวีแชต
ในคลิปวิดีโอ คนในกองถ่ายกำลังพูดคุยกันเรื่องบทภาพยนตร์ใหม่ โดยมีเหิงหว่านไป๋ที่สวมชุดน่าสะพรึงกลัวนั่งอยู่ที่มุมในสุดของห้อง
อิ่นซานชี้ไปที่เหิงหว่านไป๋แล้วพูดกับคนเขียนบทว่า “ตัวเอกก็คือเธอ บทก่อนหน้านี้แก้ใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เธอได้เป็นตัวเอก”
คนเขียนบทเอ่ยว่า “…ผู้กำกับอิ่น นายกำลังพูดบ้าอะไรของนาย ถ่ายทำกันมาตั้งนานแล้ว ตอนนี้นายกลับมาบอกกับฉันว่าต้องแก้บท แถมยังให้แก้ใหม่ทั้งหมด บทของฉันมีปัญหาตรงไหน?”
อิ่นซานปรบมือ เสี่ยวโหยวจากทีมอุปกรณ์ประกอบฉาก ตากล้องกับนักแสดงอีกหลายคนต่างก็ปิดประตูกับหน้าต่างทุกบาน
คนเขียนบทถาม “ทำอะไร! ไม่แก้ให้ก็จะทำร้ายกันเลยเหรอ? ไม่คิดเลยว่าตอนนี้นายจะกลายเป็นคนแบบนี้ไปแล้ว”
อิ่นซานกลอกตามองเพื่อนของเขาที่เป็นคนเขียนบท ก่อนจะบอกกับเหิงหว่านไป๋ “เริ่มกันเลย!”
คนเขียนบทงงไปหมด “เริ่ม? เริ่มอะไร?”
วินาทีต่อมา เหิงหว่านไป๋ก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น เผยดวงตาน่าสะพรึงกลัวท่ามกลางเส้นผมยาวสยาย ก่อนเลือดไหลรินออกจากดวงตาทีละหยด
คนเขียนบทกลืนน้ำลาย “นี่… ทักษะการแสดงดีเลยนี่! เล่นได้สุดยอดมาก”
เหิงหว่านไป๋มองอิ่นซาน
ไม่ต้องรอให้ผู้กำกับพูด นักแสดงสาวคนหนึ่งก็พูดขึ้นว่า “ขอแบบโหดสุด ๆ เลย เอาแบบที่คุณกลายเป็นควัน แล้วก็ลอยไปอยู่ข้างหลังคนแบบนั้นเลยค่ะ!”
เหิงหว่านไป๋ลังเล
จนกระทั่งอิ่นซานพยักหน้า
คนเขียนบทกะพริบตาปริบ ๆ มองพวกเขาอย่างไม่เข้าใจ “พวกเธอเล่นปริศนาคำทายอะไรกันเหรอ?”
วินาทีต่อมา เหิงหว่านไป๋ที่อยู่ตรงหน้าก็เปลี่ยนเป็นควัน ชั่วพริบตา มือเย็นนั้นก็มาวางลงบนไหล่คนเขียนบท “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเหิงหว่านไป๋ค่ะ”
คนเขียนบทเงียบงัน “…”
คนเขียนบทแข็งค้างไป
เขาแข็งเป็นหินไปแล้ว!
เขาตาค้างแล้ว!
เสียงร้องของคนเขียนบทดังไปทั่วห้อง
“อ้าก! ผีหลอก! ช่วยด้วย!”
“ปล่อยฉันออกไป ปล่อยฉันออกไป”
วิดีโอจบลงตรงนี้ หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยข้อความเสียงของอิ่นซาน
“ปรมาจารย์ฉู่ คนเขียนบทรับปากแล้วว่าจะเขียนบทให้ใหม่ แต่ว่าตอนนี้พวกเราอยากให้เหิงหว่านไป๋แต่งตัวออกมาเหมือนคนปกติ คุณพอจะมีวิธีไหมครับ?”
หลังเปิดฟังข้อความเสียง ฉู่ลั่วก็หัวเราะเสียงเย็นในหัว
[ผมผิดไปแล้ว ผมรู้ว่าตัวเองผิดไปแล้ว]
ฉู่ลั่วหัวเราะเย็นชาในหัวอีกที
[…นายหญิง คุณจะหัวเราะดูถูกผมแบบนี้ไม่ได้นะ! มันทำร้ายความเชื่อมั่นในตัวเองของผมมาก ถึงจะเป็นแค่ระบบ แต่ผมก็มีความรู้สึกนะ]
ฉู่ลั่วพูดเสียงเย็นชา “งั้นเหรอ?”
ระบบเสียใจมากแต่ไม่กล้าที่จะโต้เถียงต่อ ทำได้เพียงบ่นพึมพำอยู่ในหัวนายหญิง โดยไม่กล้าอวดดีเกินไปนัก
หญิงสาวสะพายกระเป๋าเตรียมออกไปข้างนอก คิดไปคิดมาก็หยิบมือถือออกมา เตรียมส่งข้อความให้พวกหัวหว่าน
ขณะที่กำลังจะกดส่ง มือของเธอก็ชะงัก ก่อนจะลากหัวหว่าน เฉิงยวน และซ่งเมี่ยวเมี่ยวเข้ามาในกลุ่มแชต
[วันนี้ฉันจะไปที่กองถ่ายของอิ่นซาน ไม่รู้ว่าจะกลับมาตอนไหน]
[ยวนยวนจะฟ้อง : รับทราบแล้ว]
[หัวหว่าน : คุณหนูต้องการให้ฉันเรียกรถให้ไหมคะ?]
ฉู่ลั่วอ่านข้อความเหล่านี้ ก็ยืนอยู่ที่เดิมสองวินาที สายตาของเธอจับจ้องที่ตัวอักษรบนหน้าจอ
นึกว่าแค่บอกพวกเขาก็จบแล้วเสียอีก
แต่คิดไม่ถึงเลยว่า จะได้รับการตอบกลับมากขนาดนี้
[ฉู่ลั่ว : ไม่ต้อง หน้าโรงแรมมีรถอยู่ ฉันไม่มีช่องทางติดต่อฮั่วเซียวหมิง ถ้าเขามาที่นี่ พวกเธอช่วยบอกเขาด้วยนะ]
[ยวนยวนอยากฟ้อง : ได้เลย!]
เมื่อฉู่ลั่วมาถึงกองถ่าย อิ่นซานก็พาเธอมายังห้องพักทันที
“นี่เป็นห้องพักของเหิงหว่านไป๋ครับ สำหรับคนที่ไม่รู้สถานการณ์ พวกเราบอกกับคนนอกว่าเธอมีนิสัยรักสันโดษ”
“เพื่อให้สะดวกขึ้น เธอจะต้องอยู่ในสภาพปัจจุบันของเธอเกือบตลอดเวลาในการถ่ายทำครับ”
“แต่ต้องมีภาพถ่ายตอนที่เธอยังมีชีวิตอยู่ด้วยครับ”