เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 199 ไม่สมควรแก้แค้นเหรอ
รองผู้กำกับก็หัวเราะเย็นชาเช่นกัน “ผมก็คิดแล้วว่าทำไมจู่ ๆ เขาถึงใจดีขนาดนี้ ก่อนหน้านี้เขาหลบหน้าหลบตาผู้กำกับอิ่น แต่ครั้งนี้กลับเอาเครื่องที่เพิ่งใช้ไปไม่เท่าไหร่มาขายให้คุณในราคาถูก”
“ที่แท้พวกเขาก็รอทำแบบนี้กับพวกเรานี่เอง!”
อิ่นซานหันไปมองเด็กสาว “ปรมาจารย์ฉู่ ตอนนี้ตัวเครื่องพังไปแล้ว จะส่งผลกระทบอะไรกับเหิงหว่านไป๋หรือเปล่าครับ?”
ฉู่ลั่วส่ายหน้า “ถึงตัวเครื่องจะพังแล้ว แต่อักขระเต๋ายังคงอยู่ มนตร์ไม่ได้เสื่อมไปหรอกค่ะ”
ภายในห้องเกิดความเงียบอย่างประหลาด
“พวกเขาทำร้ายเธอจนตาย เธอตายไปแล้วก็ยังไม่ยอมปล่อยเธอไปอีก แถมยังเอาเธอมาทำเป็นเครื่องมือไว้ทำร้ายคน” ใบหน้าของคนเขียนบทเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “เหอะ ๆ จิตใจมนุษย์นี่นะ!”
อิ่นซานเดินไปตบไหล่เด็กสาวเบา ๆ “ปรมาจารย์ฉู่ ตอนนี้ในกองถ่ายของเรานอกจากเหิงหว่านไป๋แล้ว ยังมี…อีกใช่ไหมครับ”
“อืม”
“อยู่ที่ไหนเหรอครับ?”
ฉู่ลั่วส่ายหน้า “กลิ่นอายของอีกฝ่ายอ่อนแอมาก ถูกกลบเอาไว้ด้วยกลิ่นอายของเหิงหว่านไป๋อย่างสมบูรณ์ ฉันรับรู้ถึงอีกฝ่ายไม่ได้เลยค่ะ”
เป็นเพราะพลังวิญญาณของเธอลดลงไปมาก ทำให้รับรู้ถึงวิญญาณอีกตนหนึ่งไม่ได้
“ถึงกลิ่นอายจะอ่อนแอกว่า แต่ก็อันตรายกว่าเหิงหว่านไป๋มาก”
พวกอิ่นซานพากันเงียบไปแล้ว
ของสกปรกอีกตนหนึ่งอันตรายมาก พวกเขาล้วนแล้วแต่เคยเจอกับตัวมาก่อน
“ปรมาจารย์ฉู่ ตัวเครื่องอันนี้วางไว้ที่นี่จะมีปัญหาอะไรไหมครับ? ถ้าทำลายมัน จะมีผลกระทบร้ายแรงอะไรกับเหิงหว่านไป๋หรือเปล่า? อย่างเช่นดูโกรธแค้นเหมือนมองศัตรูที่ฆ่าพ่อของเธออะไรแบบนั้น”
“ทำลายไม่ได้” อิ่นซานห้ามคนเขียนบท “ตอนนี้เหิงหว่านไป๋ใช้ของสกปรกนี่กดความอาฆาตแค้นเอาไว้ ถ้าเธอทำลาย เหิงหว่านไป๋แก้แค้นเหลยเฉิงขึ้นมาจะทำยังไง?”
คนเขียนบทหัวเราะเย็นชา “หรือจะปล่อยให้ไอ้สารเลวเหลยเฉิงนั่นหนีไปได้เหรอ? สัตว์นรกแบบนั้น ไม่รู้ว่าทำร้ายคนไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว”
“ใช่ เหลยเฉิงเคยทำร้ายคนมามาก ถ้าเธอให้เหิงหว่านไป๋ไปแก้แค้น เธอก็มีหนี้เลือดติดตัว เธอลองถามท่านปรมาจารย์เองเถอะว่าแบบนี้มันดีกับเหิงหว่านไป๋หรือเปล่า?”
คนเขียนบทขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ต้องปล่อยให้อ้สัตว์เดรัจฉานนั่นมันมีชีวิตต่อไปเหรอ? เพราะมันมีอำนาจมีอิทธิพลเหรอ?”
“เขาทำร้ายชีวิตหนึ่งชีวิต ทำร้ายชีวิตของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ขนาดตายไปแล้วยังไม่ยอมปล่อย”
“แต่จะให้มันจบแค่นี้เหรอ?” คนเขียนบทพูดไปขอบตาก็เริ่มแดง เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาด้วยมือสั่นเทา ก่อนกดไปที่หน้าค้นหา “นี่คือสิ่งที่ฉันหาเจอ นี่เป็นคลิปการแสดงของเหิงหว่านไป๋ที่เธอแสดงในโรงเรียน”
เธอกดเปิด
ในวิดีโอ เหิงหว่านไป๋สวมชุดยุคสาธารณะรัฐ ไว้ผมเปียยาว กำลังแสดงอย่างยอดเยี่ยมน่าประทับใจท่ามกลางแสงไฟ
สาวน้อยพูดบทชัดเจน การแสดงเข้าถึงบทบาท แม้แต่ตอนที่ไม่มีบทพูดก็ยังทำให้คนดูสัมผัสถึงอารมณ์ของเธอได้
แถมยังมีรูปร่างหน้าตาที่ได้เปรียบคนอื่นอีกด้วย
อิ่นซานกับรองผู้กำกับดูวิดีโอเงียบ ๆ
คนเขียนบทชี้ไปที่เหิงหว่านไป๋ที่อยู่บนหน้าจอพร้อมน้ำเสียงสะอื้น “นายเห็นหรือยัง? นี่คือเหิงหว่านไป๋ นี่คือเหิงหว่านไป๋ตอนยังมีชีวิตอยู่ ถ้าไม่ใช่เพราะเหลยเฉิง… ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขา เธอคงได้ยืนมั่นคงท่ามกลางสปอร์ตไลต์ เธอจะเปล่งประกายมากขนาดไหน”
อิ่นซาน “…”
รองผู้กำกับ “…”
ทั้งสองคนก็อดที่จะลำเอียงไม่ได้
คนเขียนบทยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาถามว่า “ไม่ควรแก้แค้นเหรอ แก้แค้นไม่ได้เหรอ?”
เธอหันไปมองฉู่ลั่วแล้วถามว่า “ท่านปรมาจารย์คะ จะปล่อยให้เหลยเฉิงใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แล้วปล่อยให้เหิงหว่านไป๋ตายไปแบบนี้เหรอคะ?”