เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 208 โชคดีแล้วกันนะ!
บทที่ 208 โชคดีแล้วกันนะ!
ฉินฮวานควบคุมสีหน้าไม่ได้แล้ว เธอเงียบไปนาน ก่อนจะพูดทั้งที่ขอบตาแดงก่ำ “บางที… หลี่เวยอาจจะเป็นรักแท้ของเขาก็ได้ค่ะ”
เธอเลิกทำหน้าเศร้า แล้วฝืนยิ้มให้กล้องไปหนึ่งที “ขอบคุณท่านปรมาจารย์นะคะ!”
และตัดการเชื่อมต่อไลฟ์สตรีมไปแล้ว
[คุณเจ้าของช่อง ทำไมล่ะ! คุณบอกว่าพวกเขาคือคู่ที่ถูกลิขิตมา แล้วทำไมเจียงหวายถึงหวั่นไหวเพราะคนอื่น? คู่แท้ไม่ใช่ว่าต้องมั่นคงกับคนคนเดียวเหรอ?]
[ใช่แล้ว ใช่แล้ว คู่แท้ไม่ใช่ว่าต้องรักอีกฝ่ายแค่คนเดียวเหรอ?]
[ท่านปรมาจารย์ ฉันไม่เข้าใจ! ทำไมถึงเป็นแบบนี้? ถ้าพวกเขารักกัน ทำไมต้องเลิกรากันด้วย? เพราะผู้หญิงตอแหลคนเดียวเหรอ?]
[คอมเมนต์บน ฉันบอกตั้งกี่ครั้งแล้ว อย่าบอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนตอแหล ช่วยเรียกว่าคนเรียกร้องความสนใจ!]
[คนเรียกร้องความสนใจเอามานิยามเธอไม่ได้แล้ว ฉันคิดว่าจิตหลอนวิตกกังวลเหมาะกับเธอมากกว่า]
ฉู่ลั่วมองความคิดเห็นบนหน้าจอที่เต็มไปด้วยความโกรธ ทุกคนต่างก็ตกใจกับการเลือกของเจียงหวาย
เธอพูดเสียงเรียบว่า “คู่แท้ หมายถึงสวรรค์ให้โอกาสพวกคุณได้พบเจอกัน มีวาสนาได้มารักกัน สามารถอยู่ดูแลกันไปได้ชั่วชีวิต แต่ถ้าคุณต้องการละทิ้งความสัมพันธ์นี้ไปเอง สวรรค์ก็ไม่สามารถบีบบังคับคุณได้”
เธอเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อไปว่า “คุณบอกว่าหลี่เวยเป็นพวกวิตกกังวล ก็ไม่ผิดหรอกค่ะ เธอเคยทำศัลยกรรม ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไป แต่ชะตาของเธอไม่ได้เปลี่ยนไปตามใบหน้า”
“ที่จริงหลี่เวยเป็นคนมีความสามารถมาก เพียงแต่เธอเอามาใช้ในทางที่ผิดเท่านั้นเอง”
“เธอเป็นคนดวงอ่อน มีนิสัยวิตกกังวล เรียกกันว่าดวงอ่อนฆ่าดวงแข็ง คือดวงชะตาราศีที่มีพลังอ่อน แต่ดาวเจ็ดพิฆาตแข็งแกร่ง ในหมู่ดวงชะตาประจำดาวเคราะห์ดีและร้ายของสิบเทพเจ้า ดาวเจ็ดพิฆาตมีความสามารถในการต่อสู้แย่งชิง นิสัยสุดโต่ง จอมบงการ ไร้หัวใจ หากดวงชะตาอยู่ในจุดที่เหมาะสม จะสามารถเอาพลังชั่วร้ายมาใช้เป็นอำนาจได้ ศักยภาพและความสามารถที่แท้จริงจะถูกดึงออกมา หากดวงชะตาอยู่ในตำแหน่งไม่เหมาะสม ดาวเจ้าเรือนจะอ่อนแอ พบเจอโชคร้ายที่ไม่อาจคาดเดา แต่หากดาวเจ้าเรือนแข็งแกร่ง จะเจอโชคดีอย่างน่าประหลาด คนดวงอ่อนฆ่าดวงแข็ง จิตใจมืดบอดมาก ทรยศหักหลัง มีแนวโน้มจะเลือกทางเดินสุดโต่ง และมีความหวาดระแวง”
“เจียงหวายเป็นคนหัวอ่อนและใจดี หากไม่ได้มาเจอคนที่มีนิสัยหวาดระแวงอย่างหลี่เวย เขาไม่มีทางกล้าทำเรื่องใหญ่อย่างการหนีงานแต่งงานแน่นอน”
เพราะความพยายามอย่างไม่ลดละของหลี่เวยในการเอาตัวเองเข้าไปในโลกของเจียงหวายครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้เขาไม่สามารถหลบหนี หรือหลีกเลี่ยงได้เลย
ทำได้เพียงเข้าไปในกรงที่หลี่เวยเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าแต่โดยดี
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวถามคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าอย่างร้อนใจว่า “พี่ลั่วลั่วคะ ถ้าอย่างนั้นหลี่เวยกับเจียงหวาย พวกเขาจะได้แต่งงานกันไหมคะ จะมีความสุขหรือเปล่า?”
ฉู่ลั่วส่ายหน้า “พวกเขาไม่ได้แต่งงานกัน และไม่มีทางมีความสุข หลี่เวยนิสัยขี้ระแวง หึงหวงอยากครอบครอง คิดจะควบคุมเจียงหวายเอาไว้จนอยู่หมัด”
“เธอไม่มีทางปล่อยให้เจียงหวายติดต่อกับคนต่างเพศ มองแวบเดียวก็ไม่ได้ พูดคุยก็ไม่ได้”
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวออกความเห็น “น่ากลัวจังค่ะ”
เฉิงยวนลูบคาง “ไม่แน่นะ เจียงหวายอาจจะชอบความรู้สึกแบบนี้ก็ได้ โดนรักจนแทบตาย”
[ให้ตายสิ น่ากลัวมาก!]
[ถ้าใช้สมองคิดก็รู้เลยว่าผู้หญิงแบบนี้น่ากลัวมาก ปกติน่าจะต้องเป็นฝ่ายหญิงที่ปฏิเสธผู้ชายไม่ใช่เหรอ? แต่ทางนั้นก็พยายามติดต่อไปหาทุกวิถีทาง พยายามก่อกวนคุณ คนแบบนี้ต้องระวังเอาไว้ให้ดี ไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิง]
[น่าเสียดายที่อีกฝ่ายตกหลุมพลางแล้วนี่สิ!]
[อวยพรให้พวกเขาเถอะ!]
[ให้พวกเขาติดอยู่ด้วยกันจนตาย RIP]
[นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันอวยพรให้สุนัขตัวผู้ตัวเมียจากใจจริง หวังว่าพวกเขาจะเติมเต็มซึ่งกันและกัน อยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต]
[โชคดีแล้วกันนะ!]
[เราทำได้แค่อวยพร!]
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวยู่ปาก พูดอย่างไม่เต็มใจมาก ๆ “หนูก็อวยพรให้พวกเขาแล้วกันค่ะ”
เฉิงยวนลูบผมวิญญาณน้อย “ต้องอวยพรแน่นอนอยู่แล้ว คนแบบนี้อยู่ด้วยกัน ถึงจะเติมเต็มกันและกัน และทุกข์ทรมานไปด้วยกันได้”
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ
หัวหว่านที่อยู่ข้าง ๆ ดึงชายเสื้อเฉิงยวน “พูดให้น้อย ๆ หน่อยเถอะ อย่าสอนเรื่องไม่ดีให้เมี่ยวเมี่ยว”
เฉิงยวนเบ้ปาก “นี่ไม่ใช่สอนเรื่องไม่ดี แต่เป็นการสอนให้รู้จักธรรมชาติของมนุษย์ต่างหาก”