เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 217 ฉันเสียใจแล้ว
ถังเจียวลอยไปหยุดข้างเธอ “เขาจะยอมจ่ายเงินซื้อบ้านให้แม่ของฉันได้ยังไง?”
“เรื่องนี้เธอไม่ต้องสนใจ แต่มาดูบ้านก่อนเถอะ” ซุนหย่าจิ้งเปิดแอปพลิเคชัน “เธอต้องการซื้อบ้านตรงบ้านเกิด หรืออยากซื้อบ้านที่นอกเมืองล่ะ บ้านเกิดของพวกเธอสภาพแวดล้อมเป็นยังไง? ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ของเธอกับคนรอบข้างเป็นยังไงบ้าง?”
ตอนแรกถังเจียวไม่อยากพูดอะไรมาก แต่ซุนหย่าจิ้งถามเยอะเกินไปแล้ว จึงทำได้แค่ยอมตอบ “พวกเราอาศัยอยู่ในชนบท ความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านก็นับว่าดี”
ซุนหย่าจิ้งส่ายหน้า “ชนบทน่ะเหรอ! ถ้าเป็นชนบท สภาพทางการแพทย์อยู่ในระดับทั่วไป เธอมีญาติที่ไว้ใจได้ไหม? มีคนที่สนิทกับครอบครัวของพวกเธอหรือเปล่า?”
“ป้าของฉัน… แม่กับป้าของฉันมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก แต่บ้านของป้าอยู่นอกพื้นที่ หลังจากพ่อของฉันตาย ป้าก็มักจะมาดูแลพวกเราบ่อย ๆ”
ซุนหย่าจิ้งนั่งขัดสมาธิบนโซฟา “อยู่เมืองไหนเหรอ?”
ถังเจียวบอกชื่อเมือง
คนฟังเปิดแอปพลิเคชันขายบ้าน แล้วเปลี่ยนที่อยู่ “อยู่เขตอะไร?”
ผีสาวบอกชื่อเขตออกมา
ซุนหย่าจิ้งนั่งไขว่ห้างกระดิกเท้าเหมือนกำลังช็อปปิง “สภาพแวดล้อมใกล้ชุมชนนี้ไม่เลวเลย มีโรงพยาบาล มีโรงเรียน ใกล้ห้างสรรพสินค้าด้วย”
“ไม่ต้องซื้อบ้านหลังใหญ่มาก สักเจ็ดสิบตารางเมตรพอไหม?”
ถังเจียวชะงักไปเล็กน้อย “พอแล้ว แม่ฉันอยู่คนเดียว”
“ชั้นล่ะ? คนสูงอายุอยู่สูงหน่อยหรืออยู่ต่ำลงมาหน่อยดีนะ! ถ้าอยู่สูงหน่อยวิวก็จะดีกว่า แต่อยู่ต่ำลงมาหน่อย ถ้าเกิดว่าไฟดับลิฟต์ไม่ทำงาน ชั้นล่างก็สะดวกกว่า”
“จะซื้อแพงมากไม่ได้ด้วย ถ้าแพงเกินไป จะทำให้ญาติบางคนอิจฉา จริงสิ แม่ของเธอขับรถเป็นไหม?”
ถังเจียวส่ายหน้า
ซุนหย่าจิ้งเบ้ปาก “สมัครเข้าโรงเรียนสอนขับรถให้ดีกว่า ให้เธอเรียนขับรถ ไม่มีลูกแล้ว แม้แต่ชีวิตตัวเองจะไม่สนใจไม่ได้! เธอจะได้ออกไปเที่ยวหรือทำอะไรก็ได้ ดังนั้นเรียนขับรถสำคัญมาก”
“แม่ของฉันเป็นคนไม่ค่อยกล้า…”
“อย่าพูดแบบนี้ อะไรคือไม่ค่อยกล้า?” ซุนหย่าจิ้งมองถังเจียวอย่างไม่เห็นด้วย “ไม่มีคนขี้ขลาดหรอกนะ หรือเธออยากให้แม่ของเธอจมอยู่กับความทุกข์ทรมานที่เสียเธอไปตลอดชีวิตเหรอ?”
“ถ้าอยากให้คุณแม่มูฟออน ก็ต้องให้คุณแม่ได้มีชีวิตของตัวเอง”
ถังเจียวเงียบงัน “…”
ร่างกายของเธอที่ตอนแรกเต็มไปด้วยพลังงานชั่วร้าย หลังถูกซุนหย่าจิ้งสอนจนเชื่อฟังแล้ว เธอนั่งห่อไหล่อยู่ข้างอีกฝ่าย
“ใช่แล้ว บ้านนี้จ่ายเต็มจำนวน ฉันจะใส่เป็นชื่อแม่ของเธอ แต่จะหาทนายมาด้วย ให้ทนายบันทึกเอาไว้ว่า บ้านนี้ไม่สามารถโอนย้ายได้ก่อนที่แม่ของเธอจะเสียชีวิต นี่เป็นเครื่องรับประกันสุดท้ายของแม่เธอ”
“ถ้ามีผู้ชายจะมาหลอกแม่ของเธอ อย่างน้อยแม่ของเธอก็จะไม่ถูกหลอกจนไม่มีที่อยู่”
ถังเจียวค้าน “…เป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง!”
“อะไรคือเป็นไปไม่ได้! ลูกสาวโง่ขนาดนี้ แม่ก็คงไม่ฉลาดกว่ากันเท่าไหร่หรอก” ซุนหย่าจิ้งเลื่อนดูบ้านต่อไปขณะพูดแบบไม่อ้อมค้อม
ถังเจียวขมวดคิ้ว “…”
เธอโกรธมาก กลิ่นอายผีร้ายก็ยิ่งหนักหน่วงขึ้น
แต่กลับไม่สามารถตอบโต้ได้เลย
พูดได้น่าโมโหจัง!
“บ้านนี้เป็นยังไง? หันหน้าไปทางทิศใต้ มีระเบียงสองจุด สองห้องนอน ห้องรับแขกก็ไม่ใหญ่ เก็บกวาดก็ง่าย เป็นบ้านใหม่ แต่ตกแต่งไม่สวยเท่าไหร่ ต้องรื้อถอนแล้วตกแต่งใหม่”
“ยังมีบ้านนี้อีก นี่ก็ไม่เลวเลยนะ อยู่ใกล้กับบ้านป้าของเธอด้วย เป็นชุมชนสีเขียว ตรงข้ามเป็นโรงเรียน ค่อนข้างครึกครื้นเลยละ”
ถังเจียวได้ฟังก็ถามออกมาว่า “ทำไมเธอต้องซื้อบ้านให้แม่ฉันด้วย?”
ซุนหย่าจิ้งไม่แม้แต่จะเงยหน้า “ก็เหมือนที่เธอบอก เฝิงข่ายทำร้ายเธอด้วยการอ้างชื่อของฉัน”
ท่านเทพธิดาบอกว่า หากความโกรธของถังเจียวไม่สงบลง อนาคตของเธอพังแน่
ไอ้สารเลวพวกนั้น มีคุณธรรมกันบ้างได้ไหม!
นี่มันเหมือนถูกบังคับให้กลายมาเป็นหัวแชร์ลูกโซ่ ถูกบังคับให้มาช่วยตามล้างตามเช็ดให้พวกเขา
สารเลว!
อย่าให้จับพวกเขาได้นะ ไม่อย่างนั้นจะเปลี่ยนพวกพวกเขาให้เป็นขันทีในยุคสมัยใหม่ไปเลย
สัตว์เดรัจฉาน!
ซุนหย่าจิ้งยังคงเดือดดาล แต่ถังเจียวกลับเงียบลงไปแล้ว
หลายวันมานี้เธอตามติดซุนหย่าจิ้งกับเฝิงข่าย ที่จริงผีสาวเองก็เข้าใจดีแล้ว
ที่เฝิงข่ายทำร้ายเธอ รังเกียจเธอนั้น ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับซุนหย่าจิ้งแม้แต่น้อย
เป็นเธอที่โง่เอง
เธอถูกหลอกล่อให้งมงาย แต่ยังไม่รู้ตัว
เป็นตัวเธอเอง!
ทันใดนั้นซุนหย่าจิ้งก็พูดขึ้นมาด้วยความดีใจ “บ้านนี้ดี! เลิศสุด ไม่ใช่แค่แปลนบ้านดี สภาพแวดล้อมในชุมชนก็ดีด้วย ใกล้ ๆ มีโรงพยาบาล สวนสาธารณะ และห้างสรรพสินค้า ที่สำคัญคือยังมีโรงเรียนสอนขับรถ ไปเรียนขับรถก็เดินทางได้เร็วด้วย”
“รถจะซื้อแพงมากไม่ได้ สักสองสามหมื่นหยวนก็พอ แม่ของเธอจะถือเงินไว้เยอะไม่ได้เหมือนกัน ให้สักห้าแสนหยวน ฉันจะเก็บเงินอีกส่วนเอาไว้ แล้วโอนให้เธอทุกเดือนในชื่อของเธอ”
พูดจบ อีกฝ่ายก็ไม่ตอบอะไรกลับมาอยู่นาน
ซุนหย่าจิ้งหันหน้าไปมองก็ต้องตกใจ
“เธอทำอะไร? ฉันจะบอกให้นะ! ฉันมียันต์อยู่ เธอทำร้ายฉันไม่ได้หรอก”
ถังเจียวที่อยู่ตรงหน้ากำลังร้องไห้น้ำตาเป็นสายเลือดแล้ว ยิ่งดูน่ากลัวกว่าเดิม ทั้งไฟในบ้านยังกะพริบอีก
ผีสาวร้องไห้ดังไปทั่วบ้านจนแสบแก้วหู
ซุนหย่าจิ้งขดตัวอยู่อีกฝั่งพลางกอดหมอนอย่างหวาดกลัว “เธอไม่ชอบก็บอกมาสิ! ทำให้ฉันตกใจทำไม! ฉันจะบอกเธอให้นะ… ท่านปรมาจารย์ให้ยันต์ฉันมาจริง ๆ ฉันแปะไว้บนตัว ถ้าเธอกล้าทำร้ายฉัน ก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ”
“ว้ากกก…”
ถังเจียวร้องไห้เจ็บปวดกว่าเดิม ไฟในบ้านกะพริบ และดับสนิทลง
ซุนหย่าจิ้งยิ่งกรีดร้องด้วยความกลัว เธอพุ่งตัวไปอยู่หลังโซฟาเดี่ยว และมองถังเจียวด้วยท่าทางระแวดระวัง
แต่ถังเจียวกลับเอาแต่ร้องไห้ ไม่ได้ขยับไปไหน
หลังจากรอแล้วรอเล่า ซุนหย่าจิ้งก็คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ ก็เข้าใจเหตุผลที่ถังเจียวร้องไห้แล้ว
เธอหมดคำจะพูด และถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะกลับไปนั่งช้า ๆ
เธอยื่นมือออกไป แล้วกอดถังเจียวที่ร้องไห้จนเส้นผมแทบจะกลายเป็นหนามเอาไว้ “ร้องไห้ทำไม เรื่องมันเกิดไปแล้ว สิ่งที่พวกเราควรทำคือ ทำยังไงไม่ให้เรื่องมันแย่กว่าเดิม”
ถังเจียวร้องไห้หนักกว่าเดิม “ฉันเสียใจ ฉันเสียใจแล้วละ ฉันไม่ควรตายเพื่อผู้ชายคนเดียว”
“ฉันเสียใจแล้ว!”
“แม่!”
“แม่ของฉันทำงานอย่างหนักเพื่อให้ฉันได้เรียนหนังสือ…”
“ฉัน… ฉันรู้สึกผิดกับแม่”
“แม่!”
“แม่!”
ซุนหย่าจิ้งถอนหายใจ แล้วตบไหล่ของเธอ
เฝิงข่าย!
ตายซะเถอะ!
บูชายันต์ตัวเองไปซะ!