เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 218 โชคดีที่สุดเลย
เช้าวันต่อมา เสียงกริ่งประตูดังขึ้น
ซุนหย่าจิ้งตรวจความเรียบร้อยหน้ากระจก เธอจงใจแต่งหน้าให้ดูซีดเซียวเป็นพิเศษ และตรวจดูสภาพตัวเองอีกครั้ง
“ซีดเซียว… แต่ยังสวยอยู่ สมบูรณ์แบบ!”
หญิงสาวเดินไปที่หน้าประตู สูดลมหายใจ ปั้นสีหน้าเจ็บปวด ก่อนจะเปิดประตู เธอเห็นเฝิงข่ายยืนอยู่ด้านนอกก็พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “มีธุระอะไรคะ?”
ไม่รู้ว่าเมื่อวานเฝิงข่ายออกจากเขตชุมชน และหาเสื้อผ้ามาใส่เพื่อให้ตัวเองยังดูดีในสายตาผู้คนได้ยังไง
แต่ตอนนี้เขาปรากฏตัวต่อหน้าซุนหย่าจิ้งพร้อมกับเสื้อผ้าภูมิฐาน เมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวของซุนหย่าจิ้ง ในใจก็รู้สึกมีความสุข แต่กลับแสดงความเจ็บปวดออกมา “จิ้งจิ้ง ทำไมหน้าเธอถึงได้โทรมขนาดนี้ล่ะ?”
เธอเหลือบมองเขา “นอนไม่หลับค่ะ”
น้ำเสียงของหญิงสาวเย็นชาและห่างเหิน “ขอโทษนะ เมื่อวานฉันโมโหก็เลยไล่คุณออกไป ที่นี่เป็นบ้านของคุณ ฉันจะรีบเก็บของออกไปเดี๋ยวนี้เลย”
“ไม่! จิ้งจิ้ง เธอไปไม่ได้นะ เมื่อวานเธอพูดถูก ถ้าฉันอยากให้เธอเปิดตัวฉันในกลุ่มเพื่อน ฉันต้องทำให้เธอได้เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ ให้คนพวกนั้นได้เห็นว่าฉันยอดเยี่ยมขนาดไหน!”
“ไป! ฉันจะพาเธอไปซื้อบ้าน ซื้อรถ เธออยากได้อะไร พวกเราไปซื้อกัน!”
ซุนหย่าจิ้งสะบัดมือเขาออก “ของพวกนี้คุณก็เคยซื้อให้แฟนเก่าของคุณนี่”
เฝิงข่ายคว้ามืออีกฝ่ายไว้ “ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ของเธอฉันจะให้สิ่งที่ดีที่สุด”
ซุนหย่าจิ้งถูกเขาดึงออกไปด้วยท่าทางไม่ยินยอม เธอหันกลับไปมองถังเจียวที่ทำหน้าตกใจอยู่ในห้อง ก่อนจะยักคิ้วให้อย่างภาคภูมิใจ
ตลอดช่วงเช้า หญิงสาวขอให้เฝิงข่ายซื้อบ้านในเมืองตี้จิงให้สองหลัง หลังหนึ่งเป็นห้องชุดขนาดใหญ่ อีกหลังเป็นบ้านเดี่ยว พร้อมกับรถมาเซราติหนึ่งคัน
ทั้งยังมีเครื่องประดับอีกมากมาย ทั้งหมดรวมกันเกือบหนึ่งร้อยล้านหยวน
เมื่อซื้อมาถึงชิ้นสุดท้าย สีหน้าของเฝิงข่ายก็เปลี่ยนไปแล้ว
ซุนหย่าจิ้งยังพาเฝิงข่ายไปหาทนายความ เพื่อเขียนสัญญาว่าเป็นการให้ด้วยความเสน่หา
เมื่อเฝิงข่ายทำสีหน้าไม่ยินยอม ซุนหย่าจิ้งก็พูดด้วยน้ำเสียงสงสัยว่า “แต่ก่อนหน้านี้พวกเขาก็ทำสัญญาว่ายกให้ฉันด้วยความเสน่หากันหมดนะคะ คุณไม่อยากเขียนเหรอ? ถ้าอย่างนั้นไม่เขียนก็ได้ ฉันเชื่อใจคุณ คุณไม่ใช่ผู้ชายประเภทที่ให้ของ แล้วคิดจะเอาคืนหรอก… ใช่ไหมคะ?”
เฝิงข่ายเงียบงัน “…”
เขาอยากเอาของพวกนี้คืนจริง ๆ
ซุนหย่าจิ้งพูดแบบนี้แต่กลับไม่ขยับไปไหน เธอเพียงแค่เอามือเท้าคาง แล้วเอ่ยต่อไป “ฉันได้ยินมาว่ามีผู้ชายตระหนี่สมบัติหลายคนเป็นพวกชอบคิดคำนวณ ตอนที่คบกันก็จำรายการบัญชีได้ชัดเจนเลยละค่ะ”
“แต่ผู้ชายที่ฉันเคยเจอมีแต่คนไม่คิดมาก พวกเขามีเงินมากกว่านี้อีกร้อนพันเท่าก็เลยใจกว้าง บอกว่าของที่ให้ไปแล้วยังไงก็ไม่คิดจะเอาคืน เพราะแบบนี้เลยพาทนายความมาร่างสัญญาให้ตลอดเลยค่ะ”
ซุนหย่าจิ้งจับมือเฝิงข่าย “แต่ฉันเชื่อใจคุณนะคะ คุณไม่ใช่คนที่ให้ของ แล้วคิดจะเอาคืนกลับไปแน่นอน ใช่ไหมคะ?”
“ของที่คุณเคยให้แฟนเก่า ก็ไม่ได้เอาคืนมาใช่ไหมล่ะคะ!”
ริมฝีปากของเฝิงข่ายสั่นระริก “ไม่เคย แน่นอนว่าไม่เคยเลย ฉันจะทำเรื่องไร้คุณธรรมแบบนั้นได้ยังไง”
“จริงไหมคะ? ฉันรู้อยู่แล้วว่าคุณไม่ใช่คนแบบนั้น ก่อนหน้านี้มีคนเคยบอกกับฉันว่า คุณเป็นคนขี้งกมาก เงินที่เคยให้แฟนเก่าก็เอาคืนไปจนหมด แต่ฉันไม่เชื่อหรอกค่ะ พวกเธอต้องพูดไร้สาระแน่นอนเลย”
เฝิงข่ายยิ้มแห้ง “แน่นอนว่าเป็นคำพูดไร้สาระ เซ็น ฉันจะเซ็นสัญญาเดี๋ยวนี้เลย”
ตวัดปากกาไม่กี่ที ก็เซ็นชื่อลงบนสัญญาครบทุกหน้าแล้ว
ซุนหย่าจิ้งใช้แขนโอบรอบคอของชายหนุ่ม แล้วพรมจูบให้เขาหลายที “ขอบคุณนะอาข่าย ฉันได้เจอกับอาข่ายนี่โชคดีที่สุดเลย”
เฝิงข่ายไม่สบายใจ กระทั่งน้ำเสียงก็เย็นชา “ตอนนี้เปิดตัวในโมเมนต์ได้หรือยัง?”
ซุนหย่าจิ้งพยักหน้า “แน่นอนสิ! เมื่อกี้ฉันถ่ายรูปของที่คุณซื้อให้ฉันไว้หมดแล้วละ ยังมีสัญญานี้ด้วย ฉันจะโพสต์ลงในโมเมนต์ บอกกับพวกเขาว่าคุณเป็นผู้ชายที่รักฉันมากที่สุด”
เธอยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วถ่ายรูปคู่หนึ่งรูป
ก่อนจะบอกกับเฝิงข่ายว่า “อาข่าย คุณเองก็ต้องโพสต์ด้วยนะ”
เฝิงข่ายเริ่มลังเล
เขาไม่ได้มีซุนหย่าจิ้งเป็นลูกไก่ในกำมือแค่ตัวเดียว แต่ยังมีลูกไก่ตัวอื่นอยู่ในวีแชตเช่นกัน