เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 219 เกิดเรื่องที่กองถ่าย
บทที่ 219 เกิดเรื่องที่กองถ่าย
“คุณไม่อยากโพสต์เหรอ?” ซุนหย่าจิ้งชะงักไปชั่วขณะ “ตอนที่คุณอยู่กับผู้หญิงพวกนั้น คุณก็โพสต์ตลอด ตอนนี้พอถึงตาฉัน คุณกลับไม่ยอมโพสต์แล้วสินะ”
“คุณรักฉันมากที่สุด หรือว่ารักพวกหล่อนกันแน่!”
“แน่นอนว่าต้องเป็นเธอ”
ซุนหย่าจิ้งลูบกองเอกสารในมือ ดวงตาเต็มไปด้วยความเสน่หา “คุณไม่อยากโพสต์ในโมเมนต์ก็ได้ค่ะ แต่ต้องโพสต์ในแพลตฟอร์มสาธารณะ เพื่อแสดงให้เห็นว่าคนที่คุณรักที่สุดคือฉัน ไม่ใช่พวกเธอ”
“แพลตฟอร์มไหนล่ะ?”
ซุนหย่าจิ้งเอ่ย “เวยปั๋วอะไรพวกนี้ก็ได้ค่ะ”
เฝิงข่ายคิดดูก็รู้สึกว่าเวยปั๋วของตัวเองไม่มีคนรู้จักอยู่สักเท่าไหร่ โพสต์ในนั้นก็ไม่เป็นอะไร
เขาจึงพยักหน้า
ซุนหย่าจิ้งยกยิ้ม แล้วถือเอกสารกองนี้กลับไปยังเขตชุมชนหลินเยวี่ยนพร้อมเฝิงข่าย
ตอนที่ชายหนุ่มไปเข้าห้องน้ำ เธอก็อาศัยเวลานี้คุยกับถังเจียว “เป็นยังไงบ้าง ของพวกนี้เพียงพอที่จะให้แม่ของเธอซื้อบ้านซื้อรถได้แล้วใช่ไหม!”
ถังเจียวถาม “…เฝิงข่ายจะยอมให้เธอเอาของพวกนี้ไปเหรอ?”
ซุนหย่าจิ้งยักไหล่ “ถึงตอนนั้น แม้แต่ตัว เขายังยากจะรักษาไว้เลย จะเอาเวลาไหนมาสนใจฉันล่ะ?”
ไม่นานหญิงสาวก็แก้ไขเพื่อนในโมเมนต์อย่างรวดเร็ว เธอนั่งอยู่ข้างเฝิงข่าย มองดูเขาแก้ไขสถานะเช่นกัน
“พิมพ์แบบนี้ไม่ได้เหรอ? พวกหล่อนบางคนทำแท้งเพื่อคุณ บางคนฆ่าตัวตายเพื่อคุณ ก็เพราะคุณเป็นคนดีมาก คุณรักพวกหล่อน ไม่อย่างนั้นผู้หญิงจะฆ่าตัวตายเพื่อคุณ ทำแท้งเพื่อคุณทำไม! ไม่ได้!”
“คุณต้องพิมพ์บรรยายความรักที่มีต่อฉันออกมาให้ชัดเจน ต้องบอกกับคนทั้งโลกว่าผู้หญิงพวกนั้นเป็นคนโง่ คนที่คุณรักที่สุดคือฉันต่างหาก…”
เฝิงข่ายครุ่นคิด ก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย
เขาเริ่มพิมพ์ว่าผู้หญิงเหล่านั้นโง่ขนาดไหน ชอบคิดไปเองขนาดไหน ทั้งยังคิดว่าตัวของพวกเธอที่แสนจะธรรมดาขนาดนั้นเหมาะสมกับเขาอีก
ชายหนุ่มยิ่งพิมพ์ก็ยิ่งสนุก จนพิมพ์ทุกเรื่องที่คิดว่าตลกสำหรับเขาออกมาจนหมด
ผู้หญิงบางคนทำอาหารให้ ผู้หญิงบางคนเพียงแค่เขาพูดประโยคเดียวก็ไปสักตามร่างกาย หรือไปตัดผมแล้ว…
เขาพิมพ์มาถึงถังเจียว
พิมพ์ว่าถังเจียวทำแท้งเพื่อเขา พิมพ์ว่าถังเจียวฆ่าตัวตายเพื่อเขา
ทุกอย่างที่ชายหนุ่มพิมพ์เป็นการเยาะเย้ยและถากถางทั้งสิ้น
ไฟในห้องกะพริบติด ๆ ดับ ๆ
เฝิงข่ายหดคอลงเล็กน้อย “จิ้งจิ้ง เธอรู้สึกหนาวขึ้นมาบ้างหรือเปล่า?”
“ไม่นี่คะ! อุณหภูมิกำลังดีเลยนะ คุณหนาวเหรอ ฉันปรับแอร์ให้อุ่นขึ้นอีกหน่อยดีไหม?”
ซุนหย่าจิ้งยืนขึ้น แล้วออกแรงดึงถังเจียวที่นอนอยู่บนผ้าห่มของเฝิงข่ายออก พร้อมกับใช้สายตาบอกให้ผีสาวสงบลงระหว่างควานหารีโมตแอร์ก็กระซิบบอกถังเจียวไปด้วย “การฆ่าเขาเป็นการแก้แค้นอย่างนั้นเหรอ? ให้ชื่อเสียงของเขาพังทลาย ซวยไปทั้งชีวิต นี่ต่างหากคือการแก้แค้น!”
ถังเจียว “…”
ผีสาวยืนอย่างโศกเศร้าอยู่มุมห้อง มองซุนหย่าจิ้งที่นั่งลงบนเก้าอี้ กำลังหัวเราะคิกคักและหยอกล้อกับเฝิงข่าย
ไม่นาน เฝิงข่ายก็พิมพ์เสร็จเรียบร้อย
ซุนหย่าจิ้งพูดอย่างพอใจ “ว้าว! ฉันรู้อยู่แล้วว่าคุณรักฉัน ผู้หญิงพวกนี้ คุณไม่เคยรักเลยสักคน ใช่ไหมคะ?”
“แน่นอนสิ!”
“ถ้าอย่างนั้นคุณเพิ่มประโยคนี้ลงไปด้วยสิ”
“ได้”
หลังจากเฝิงข่ายเพิ่มลงไปแล้วก็รีบโพสต์ลงไปทันที
ซุนหย่าจิ้งก็โพสต์ลงในโมเมนต์วีแชตเช่นกัน
เฉิงยวนที่มองดูเหตุการณ์ทั้งหมดจบแล้ว ก็แอบปรบมือในใจ ก่อนจะลอยกลับโรงแรม
เพิ่งกลับมาถึงโรงแรม ก็เห็นหัวหว่านกำลังเก็บข้าวของด้วยใบหน้ารีบร้อน
“ทำไมถึงตื่นตระหนกขนาดนี้?”
“คุณหนูเธอ.. คุณหนูเธอบอกว่าทางกองถ่ายเกิดเรื่อง เธอต้องไปดูสักหน่อย
ฉันเห็นสีหน้าของคุณหนูเคร่งเครียดมาก ฉันเลยอยากตามไปด้วย”
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวก็อยู่ข้าง ๆ “สีหน้าของพี่ลั่วลั่วน่าตกใจมากเลยค่ะ!”
เฉิงยวนถาม “เคร่งเครียดขนาดนั้นเชียว?”
“ข้าไปด้วยแล้วกัน”
ณ กองถ่าย
ฉู่ลั่วพาหัวหว่านมาด้วย แต่เมื่อถึงแล้วก็พบความผิดปกติทันที
เด็กสาวสะบัดมือ ยันต์ทั้งแปดแผ่นลอยมาจากทั้งแปดทิศทาง มากองรวมกันอยู่ในมือของเธอ
แต่บนยันต์ที่ตอนแรกเป็นสีชาดถูกย้อมจนกลายเป็นสีดำ และยังปล่อยกลิ่นอายผีเข้มข้นออกมาอีกด้วย
เฉิงยวนดึงซ่งเมี่ยวเมี่ยวให้ถอยออกมาหนึ่งก้าว “พลังหยินรุนแรงมาก ความอาฆาตแค้นเต็มไปหมด”
พลังหยินแบบนี้สำหรับพวกเธอซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในอำนาจหยิน ถือว่ามีผลกระทบอย่างมาก หากไม่ระวังก็จะถูกพลังหยินเหล่านี้กระตุ้นกลิ่นอายผีร้ายในตัวให้เพิ่มขึ้นได้
“ท่านปรมาจารย์ คุณมาแล้ว! คนของเราตามหาหลายรอบแล้วครับ แต่หาเหิงหว่านไป๋ไม่เจอเลย ก็เลยต้องรบกวนให้คุณมาที่นี่ มีเรื่องเกิดขึ้นกับเธอ หรือเพราะเหตุผลอะไรเหรอครับ ทำไมพวกเราถึงหาเธอไม่เจอ!” อิ่นซานเดินเข้ามาพร้อมกับผู้ช่วยผู้กำกับ
ตอนที่เห็นยันต์ในมือเด็กสาวก็ชะงักไปเล็กน้อย “นี่คือ…”
“ยันต์ที่ฉันให้พวกคุณติดเอาไว้รอบกองถ่ายค่ะ มีคนมายุ่งกับมัน” ฉู่ลั่วกำยันต์ไว้แน่น
“แล้วเหิงหว่านไป๋ล่ะครับ?”
“เธอไม่อยู่ในกองถ่ายค่ะ”
ได้ยินดังนั้น อิ่นซานสีหน้าเปลี่ยนไปทันที