เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 224 ทำผิดกฎแล้วยังไง
บทที่ 224 ทำผิดกฎแล้วยังไง
ชื่อหยางไม่สะทกสะท้าน ได้แต่มองพวกเขาอย่างเย็นชา “ถ้าเป็นคนธรรมดา จะรู้วิธีบำเพ็ญพลังวิญญาณได้ยังไง”
สายตาเย็นชาของเขาจับจ้องไปที่ฉู่ลั่ว “สหายน้อยฉู่ เรื่องนี้เธอจะยื่นมือเข้ามายุ่งให้ได้เลยใช่ไหม?”
ฉู่ลั่วพยักหน้า “ฉันต้องยุ่งอยู่แล้ว”
เธอมองขึ้นไปที่ชั้นบนด้วยแววตามืดมน เธอมองเห็นไอสีดำจาง ๆ กระจายออกมา
แม้เพียงครู่เดียวจะถูกแสงสีทองกำจัดให้หายไป แต่ไอสีดำก็ยังกระจายออกมาเรื่อย ๆ
เหิงหว่านไป๋เคยเจอประสบการณ์แบบไหนมากันแน่ ถึงได้กระตุ้นพลังหยินที่แข็งแกร่งท่ามกลางแรงกดทับของแสงสีทองที่ทรงพลังขนาดนี้ได้
ใบหน้าของฉู่ลั่วเต็มไปด้วยความสงสัยยามหันไปมองชื่อหยาง “ช่วยคนชั่วก่อกรรมทำเข็ญ เป็นอันตรายต่อการบำเพ็ญพลังวิญญาณ”
ชื่อหยางไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย “ฉันเป็นคนที่คอยกำจัดปีศาจร้ายเพื่อปกป้องลัทธิเต๋า เพื่อปกป้องแนวทางที่ถูกต้องของเต๋า”
ฉู่ลั่วหัวเราะเยาะ ดวงตาค่อย ๆ เย็นเยียบขึ้นเรื่อย ๆ
เธอสะบัดยันต์ส่งไปให้พวกอิ่นซาน “เหิงหว่านไป๋อยู่ข้างบน พวกคุณขึ้นไปหาเธอซะ”
คนที่รับยันต์มาแล้ว ต่างก็วิ่งขึ้นไปที่ชั้นสอง
“สหายน้อยฉู่!” ชื่อหยางอยากขวางพวกเขาเอาไว้ แต่ฉู่ลั่วกลับมาขวางหน้าเขาเสียก่อน
“นักพรตชื่อหยาง ครั้งก่อนยังไม่ได้ตัดสินแพ้ชนะ ครั้งนี้… ช่วยชี้แนะด้วย”
นักพรตเผยสีหน้าเย็นชา “สหายน้อยฉู่ อยากตัดสินแพ้ชนะกับฉันเหรอ? เหอะ! ยันต์ของเธอมีมากแค่ไหนกันล่ะ?”
ฉู่ลั่วยกยิ้ม “ลองดูเดี๋ยวก็รู้”
ทันใดนั้นเองเสียงร้องด้วยความโกรธเกรี้ยวของคนเขียนบทก็ดังขึ้นมาจากชั้นสอง “กรี๊ด! ไอ้เดรัจฉาน ฉันจะฆ่าแก!”
เกิดความวุ่นวายข้างบน
ฉู่ลั่วไม่ได้มองขึ้นไปเลย สายตายังจับจ้องไปที่ศัตรูตรงหน้าเท่านั้น “คนธรรมดายังแยกแยะดีชั่วได้ แต่ผู้บำเพ็ญคนหนึ่ง กลับพูดอะไรที่ตรงข้ามกัน”
“นักพรตชื่อหยาง เส้นทางบำเพ็ญพลังวิญญาณของคุณเดินมามันแคบเกินไป ฉันจะช่วยขยายให้กว้างขึ้นเอง”
เธอโบกมือเบา ๆ ยันต์สิบกว่าแผ่นก็ลอยไปหาชื่อหยางพร้อมกัน ก่อนจะล้อมชื่อหยางไว้ด้านใน
เขาวาดมือในอากาศ “อาจารย์ของเธอเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงได้ให้ยันต์ล้ำค่ากับเธอมากมายขนาดนี้?”
ฉู่ลั่วประสานนิ้วชิดกัน “ชื่ออาจารย์ของฉัน คุณไม่คู่ควรที่จะรู้!”
ริมฝีปากสีแดงเรื่อท่องคาถา ก่อนยันต์จะหมุนโคจรอย่างรวดเร็ว
[นายหญิง คุณบ้าไปแล้วจริง ๆ ใช่ไหม? คุณบ้าไปแล้วใช่ไหม! ถ้าตอนนี้คุณผลาญพลังวิญญาณไปเยอะขนาดนี้ หลังจากนี้จะทำยังไง?]
ฉู่ลั่วไม่ตอบ “…”
[นายหญิง หรือคุณวางแผนที่จะตายเพราะฉู่หร่านอีกครั้งอย่างนั้นเหรอ? คุณเต็มใจใช่ไหม!?]
มือของเด็กสาวยังคงเคลื่อนไหวไม่หยุด “แล้วนายจะให้ฉันทนกับคำถากถางแบบนี้เหรอ… ฉันทนไม่ได้หรอก”
[…]
ข้างบนก็มีเสียงทะเลาะวิวาทไม่หยุด ทั้งยังมีเสียงคนเขียนบทปลอบเหิงหว่านไป๋ดังคลอมาด้วย
ฉู่ลั่วถามเสียงเรียบ “ได้ยินแบบนี้แล้ว นายยังจะให้ฉันทนอีกเหรอ?”
[…]
ชื่อหยางวาดมือในอากาศอย่างรวดเร็ว “สหายน้อยฉู่ แค่เธอเลี้ยงวิญญาณร้ายไว้กับตัวก็มากพอแล้ว ตอนนี้ยังคิดจะทำร้ายคนธรรมดาเพื่อวิญญาณร้ายนั่นอีก เธอฝ่าฝืนกฎของลัทธิเต๋าอย่างร้ายแรง”
“อ๋อ งั้นเหรอ” ฉู่ลั่วเลิกคิ้ว “ฝ่าฝืนแล้วยังไงล่ะ?”
“เธอ…” ชื่อหยางคิดไม่ถึงว่าเด็กสาวจะหัวแข็งขนาดนี้ “ถ้าอย่างนั้นฉันจะสั่งสอนเธอแทนเต๋าเอง!”
กรี๊ดดดด
ทันใดนั้นก็มีเสียงหวีดร้องดังมาจากชั้นสอง
“พวกแกกล้าทุบตีฉันเหรอ! ฉันจำพวกแกไว้แล้ว ฉันจำพวกแกได้ทุกคนเลย” น้ำเสียงโกรธแค้นของเหลยเฉิงดังก้องไปทั่วทั้งบ้าน
เหิงหว่านไป๋ที่ขดตัวอยู่ในอ้อมกอดของคนเขียนบทจ้องมองเหลยเฉิงด้วยสายตาน่ากลัว ไอผีรุนแรงที่เธอปล่อยออกมาเมื่อครู่ ถูกแสงสีทองกดข่มอย่างรวดเร็ว
เธอกรีดร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด
คนเขียนบทกอดผีสาวไว้ด้วยความสงสาร “ไม่เป็นอะไรนะ ไม่เป็นอะไร พวกเราจะไปกันเดี๋ยวนี้ จะออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลย”
“ผู้กำกับอิ่น พวกเราออกไปกันก่อนเถอะ เสี่ยวไป๋ทรมานมากแล้ว”
อิ่นซานพยักหน้า “ได้! หยุดตีได้แล้ว พวกเราไปกันก่อนเถอะ ไปก่อน”
เหลยเฉิงถูกทุบตีจนลงไปนอนกองบนพื้น มือสั่นระริกของเขา ชี้ไปทางพวกเขา “ฉันจำพวกแกได้แล้ว ฉันไม่ใช่แค่จะทำให้พวกแกไม่มีที่ยืนในวงการบันเทิง แต่ฉันจะทำให้พวกแกรู้ด้วยว่าคนที่กล้าล่วงเกินเหลยเฉิงคนนี้จะมีจุดจบยังไง!”
“ถุย! ไอ้เดรัจฉาน! เดรัจฉานอย่างแก ไม่ตายดีแน่!” นักแสดงหญิงคนหนึ่งด่าออกมาหนึ่งประโยค ก่อนจะเตะเขาอีกครั้งด้วยความหงุดหงิด
“ไปเถอะ ไปเถอะ!”
พวกเขาพาเหิงหว่านไป๋หนีออกมา เมื่อลงมาข้างล่าง เหลยเฉิงที่นอนคว่ำอยู่ชั้นสอง ก็ตะโกนเสียงดัง “ขวางพวกมันไว้ วันนี้ใครก็อย่าคิดจะออกไปจากที่นี่”
เหลยเฉิงงอตัว ใช้มือจับราวบันไดแล้วค่อย ๆ เดินลงมาทีละก้าว ๆ พลางพูดผู้หญิงที่อยู่ข้างล่างว่า “ยืนบื้ออะไรอยู่ เรียกคนมาสิ!”
สาวสวยรีบตอบทันที “ฉันเรียกมาแล้วค่ะ พวกเขากำลังมา”
ทันทีที่เธอพูดจบ บอดี้การ์ดยี่สิบกว่าคนก็กรูกันเข้ามาจากด้านนอก แต่ละคนรูปร่างกำยำ หน้าตาดุดัน
ฉู่ลั่วเห็นคนพวกนี้เพียงแวบเดียวก็รู้ได้เลยว่าเป็นพวกที่มือเปื้อนเลือด
บอดี้การ์ดหลายสิบคนพุ่งเข้าไปหาพวกอิ่นซาน
ด้วยพลังวิญญาณที่ถูกกระตุ้นอยู่ใต้ฝ่ามือ ทำให้ยันต์ทั้งหมดลอยไปขวางพวกการ์ดเอาไว้
ชื่อหยางที่หลุดพ้นจากการควบคุมของยันต์ วาดมือในอากาศ แล้วโจมตีใส่ฉู่ลั่วทันที
โครม!
หญิงสาวกระแทกเข้ากับโต๊ะกาแฟกระจกที่อยู่ด้านข้างอย่างแรง
เธอส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดออกมาเบา ๆ
“ท่านปรมาจารย์”
“คุณหนู!”
ฉู่ลั่วสูดเอาอากาศเย็นเข้าปอดแล้วกลับมายืนหยัดอีกครั้ง เพียงขยับมือเบา ๆ ยันต์หลายสิบแผ่นก็ดันร่างบอดี้การ์ดถอยออกไป
“สหายน้อยฉู่ เธอสำนึกผิดตอนนี้ยังทันนะ” ชื่อหยางย่างเท้าเข้าไปหาคู่ต่อสู้ด้วยสีหน้าเย่อหยิ่ง “ถ้าเธอสำนึกผิดตอนนี้ แล้วเอาวิญญาณร้ายนั่นออกมาให้ฉัน เรื่องนี้ฉันจะทำเหมือนว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น”