เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 225 สิ้นเปลืองพลังวิญญาณ
บทที่ 225 สิ้นเปลืองพลังวิญญาณ
เหลยเฉิงลงมาจากชั้นบนแล้วพูดอย่างโกรธเคือง “อะไรคือทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น? ผมถูกทำร้ายถึงขนาดนี้ พวกมันต้องชดใช้!”
สายตาชั่วช้าของเหลยเฉิงค่อย ๆ เลื่อนจากพวกอิ่นซานมาหาฉู่ลั่ว
ตอนที่เห็นใบหน้าของหญิงสาว เขาก็หรี่ตาลง แล้วมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า …ริมฝีปากยกขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยยิ้มน่าสะอิดสะเอียน
“สาวสวยคนนี้คือ…”
“คนในลัทธิเต๋า” ชื่อหยางตอบสั้น ๆ หลังนิ่งไปครู่หนึ่งก็เตือนว่า “ลูกสาวของตระกูลฉู่แห่งเมืองเจียง ฉู่ลั่ว”
“ตระกูลฉู่แห่งเมืองเจียง!” เหลยเฉิงลังเล “ตระกูลฉู่มีลูกสาวชื่อฉู่ลั่วตั้งแต่เมื่อไหร่กัน! ไม่ใช่มีแค่ฉู่หร่านคนนั้นหรอกเหรอ?”
เขาหรี่ตาแล้วเดินเข้ามาใกล้ฉู่ลั่ว “เมืองเจียงยังมีตระกูลฉู่ไหนอีกหรือเปล่า?”
“ฉู่ลั่ว” ชื่อนี้ถูกเรียกออกมาจากปากของเหลยเฉิง “ชื่อเพราะมาก เจ้าของชื่อก็สวยมากด้วย”
เขาก้าวเข้าไปหาฉู่ลั่วทีละก้าว ๆ “หึหึ สวรรค์ประทานหน้าตาสวยขนาดนี้ให้เธอ ไม่ใช่เพื่อบำเพ็ญพลังวิญญาณ และตัดขาดจากทางโลกหรอกนะรู้ไหม”
ดวงตาเย็นชาของฉู่ลั่วมองคนที่เดินมาหาตนเองด้วยสีหน้าเรียบเฉย
เหลยเฉิงชอบหน้าตาของฉู่ลั่วมาก “ให้เธอได้ลองรสชาติของผู้ชายก่อน รู้ถึงความสำคัญของเงิน ได้สวมเสื้อผ้าสวย ๆ เธอก็ไม่อยากปลีกตัวไปบำเพ็ญเซียนแล้วละ!”
เขามองบ้านเดี่ยวที่หรูหราของตนอย่างอวดดี “ชอบที่นี่ไหม? ฉันยังมีบ้านที่ดูดีกว่านี้อีกนะ ถ้าเธอต้องการ ฉันสามารถมอบมันให้เธอได้”
เขาเข้าใกล้ฉู่ลั่วอีกก้าว มืออวบอ้วนเข้าใกล้ใบหน้าเย็นชาของฉู่ลั่วขึ้นเรื่อย ๆ “ทำหน้านิ่งทำไม? ยิ้มหน่อยสิ! พูดอะไรหน่อย ให้ฉันได้ยินเสียงเพราะ ๆ ของเธอได้ไหม?”
“เหลยเฉิง แกทำอะไร!?”
พวกอิ่นซานทำท่าจะวิ่งเข้ามา แต่ก็มีบอดี้การ์ดอีกชุดหนึ่งจากข้างนอก เข้ามาขวางหน้าพวกเขาไว้จนห้องรับแขกกว้างขวางของบ้านแน่นขนัด
เหลยเฉิงไม่มองพวกอิ่นซานแม้แต่น้อย มองแต่ฉู่ลั่ว “สาวงามย่อมต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เธอวางใจได้ เธอต้องการอะไร ฉันให้เธอได้ทั้งนั้น!”
ชื่อหยางที่ยืนอยู่ไม่ไกลมองฉู่ลั่ว “สหายน้อยฉู่ ในมือเธอมียันต์อยู่กี่ใบที่สามารถหยุดพวกเขาได้? ยอมรับผิดจะดีกว่าไหม”
ฉู่ลั่วมองเขาด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะย้ายสายตาไปหาเหลยเฉิง
หัวใจของเหลยเฉิงบีบรัด หัวใจเต้นแรงอย่างไม่ทราบสาเหตุ
หลายปีมานี้เขาพบเจอสาวสวยมากมายไม่ว่าจะในประเทศหรือนอกประเทศ ทั้งผู้หญิงที่เฉลียวฉลาด หรือสาวพราวเสน่ห์ เขาเคยเชยชมมาแล้วทั้งนั้น
พวกหล่อนมักจะทำตัวหยิ่งในช่วงแรก แต่พอเจอเงิน… เงินที่มากพอ ก็จะได้เห็นโฉมหน้าอีกด้านหนึ่งของพวกเธอแล้ว
แต่ฉู่ลั่วที่อยู่ตรงหน้าต่างออกไป
ความเย็นชาของเธอไม่ใช่มารยา แม้แต่สายตาที่มองเขาในตอนนี้ก็เต็มไปด้วยความดูถูก
สายตาแบบนี้…
มีเสน่ห์ดึงดูดเกินไปแล้ว
ราวกับเทพธิดาผู้สูงส่ง กำลังก้มมองมนุษย์ธรรมดาที่แสนสกปรกด้านล่างอย่างเย็นชาและเหยียดหยาม
ไม่มีผู้ชายหน้าไหน ไม่อยากไขว่คว้าเทพธิดาจากสวรรค์ให้ตกลงมาสู่แดนมนุษย์
มือของเขาเข้าใกล้ใบหน้าฉู่ลั่วอย่างไม่อาจควบคุม จนนิ้วมืออวบอ้วนนั้นใกล้จะแตะถูกใบหน้าของหญิงสาว ก็มีพลังที่แข็งแกร่งกระแทกใส่หน้าอกของเขาอย่างแรง
โครม!
ทุกคนยังไม่ทันรู้ตัว เหลยเฉิงก็ลอยไปกระแทกผนังก่อนร่วงลงไปกองบนพื้น
ฉู่ลั่วเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะมองตาชื่อหยาง
หัวใจของอีกฝ่ายเต้นแรง เขาเครียดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
ฉู่ลั่วในตอนนี้ ทำให้นักพรตเกิดความรู้สึกว่าตัวเองต้องเตรียมรับมืออย่างสุดกำลัง
ก่อนหน้านี้ เขาคิดมาตลอดว่าสหายน้อยฉู่ผู้นี้เก่งกาจเพราะยันต์ที่อาจารย์ของเธอทิ้งไว้ให้
แต่ตอนนี้…
เขาต้องพิจารณาผู้บำเพ็ญรุ่นเยาว์คนนี้ใหม่อีกครั้งแล้ว
ระบบกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งอยู่ในหัวของฉู่ลั่ว
[นายหญิง คุณใจเย็นนะ! คุณใจเย็น ๆ นะ! คิดจะผลาญพลังวิญญาณให้หมดตัวเลยหรือไง?]
[นายหญิง ขอแค่มีภูเขาอยู่ก็ไม่ต้องกลัวจะไม่มีฟืนใช้*[1] นะ!]
[คุณอย่าลืมสิ ศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของคุณคือฉู่หร่าน!]
[1] มีภูเขาอยู่ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีฟืนใช้ (留得青山在不怕没柴烧) เป็นสำนวน หมายถึง ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ย่อมมีความหวังเสมอ