เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 227 ทางเลือกอื่น
บทที่ 227 ทางเลือกอื่น
พวกเขาเพิ่งเดินออกมาจากตัวบ้าน ก็เห็นรถสี่ห้าคันขับเข้ามาแต่ไกล
ประตูรถเปิดออก ก่อนมีบอดี้การ์ดสิบกว่าคนลงมาจากรถ ทำให้เส้นทางหลบหนีของฉู่ลั่วถูกขวางเอาไว้ทันที
ริมฝีปากของเหลยเฉิงยกขึ้น “ฉู่ลั่ว เธอหนีไม่รอดหรอก ยอมขอโทษซะดี ๆ เถอะ ฉันจะให้อภัยเธอ คนที่อยู่ที่นี่ ถ้าไม่ใช่หุ้นส่วนทางธุรกิจก็เป็นเพื่อนของฉัน”
“เธอคิดว่า ตัวเองจะหนีพ้นเหรอ?”
ฉู่ลั่วไม่ปริปาก “…”
แต่ระบบโอดครวญไม่หยุด
[นายหญิง คุณล่วงเกินคนคนนี้ ต่อไปจะอยู่ในเมืองตี้จิงยังไงล่ะ?]
[อยู่ใต้หลังคายังไงก็ต้องก้มหัว แค่ขอโทษไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก]
ฉู่ลั่วมองเหลยเฉิงก็เห็นดวงตาอีกฝ่ายมีแต่ความชั่วร้าย…
เมื่อดูหน้าตาแล้ว เขาไม่ได้รับผลกระทบจากดวงชะตาเลย
เห็นได้ชัดว่าเบื้องหลังมียอดฝีมือช่วยเหลืออยู่
คนแบบนี้…
ถ้าปล่อยไป…
แววตาที่ฉู่ลั่วมองเหลยเฉิงเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ เย็นชาเสียจนอีกฝ่ายมองความหมายในสายตาของเธอออก
เหลยเฉิงตกใจจนตัวสั่น เขารีบพูดว่า “เมื่อกี้ฉันพูดไปเพราะความโกรธ ฉันไม่ทำแบบนั้นกับเธอหรอก ฉะ…ฉันไม่มีทางแก้แค้นพวกเธอเด็ดขาด”
“โกหก” เธอเอ่ยค้าน
เหลยเฉิงกระวนกระวายใจมาก ชื่อหยางก็มองเจตนาฆ่าในดวงตาของฉู่ลั่วออกจนได้แต่นิ่งอึ้งไป
“เธอ… เธอกล้าทำได้ยังไง?”
ฆ่าคนธรรมดาคนหนึ่ง นี่เป็นสิ่งที่ผู้บำเพ็ญควรทำอย่างนั้นเหรอ?
แม้แต่จะคิดก็ยังไม่ควรคิด!
แววตาของฉู่ลั่วมืดมนลงเรื่อย ๆ
ทันใดนั้นเหลยเฉิงก็ตะโกนเสียงดัง “ฮั่วจิ่ว ช่วยฉันด้วย!”
เธอเงียบงัน “…”
มีรถยนต์สีดำคันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตูทางเข้าบ้าน
ซึ่งคนที่เดินเข้ามาท่ามกลางสายตาของทุกคนจะเป็นใครได้อีก… หากไม่ใช่ฮั่วเซียวหมิง!
บอดี้การ์ดที่อยู่รอบ ๆ ถอยออกไปจนหมด จนชายหนุ่มร่างสูงเดินมาหยุดตรงหน้าฉู่ลั่วอย่างง่ายดาย
เหลยเฉิงพูดอย่างดีใจว่า “อาจิ่ว รีบให้คนของนายมาพายัยผู้หญิงบ้านี่ออกไปที ยัยนี่จะฆ่าฉัน!”
ฮั่วเซียวหมิงเงยหน้า กวาดตามองเหลยเฉิงแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับมาหาฉู่ลั่ว “คุณจะฆ่าเขาเหรอ?”
ฉู่ลั่วตอบ “เวลาที่ไม่มีทางเลือก ฉันก็จะลงมือ”
ในดวงตาของเขามีรอยยิ้มปรากฏขึ้นชั่วขณะ “แล้วตอนนี้ล่ะ? คุณมีทางเลือกอื่นไหม?”
ฉู่ลั่วเงียบอยู่ครู่หนึ่ง “…”
เธอค่อย ๆ เก็บมือกลับมา
ชั่วขณะนั้นเอง เหลยเฉิงก็หนีออกมาหลบอยู่ข้างหลังนักพรตชื่อหยาง “ท่านปรมาจารย์! จับเธอไว้! วันนี้ฉันต้องฆ่าเธอให้ได้ ถ้าฉันไม่จัดการเธอให้รู้สำนึก ฉันก็ไม่ใช่คนแซ่เหลยแล้ว”
ชื่อหยางไม่เคลื่อนไหว สายตาจับต้องไปที่ใบหน้าของฮั่วเซียวหมิงด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
เหลยเฉิงสงสัย “ท่านปรมาจารย์? ท่านปรมาจารย์…”
เมื่อเห็นนักพรตไม่ขยับ ชายมากอิทธิพลจึงหันไปรบเร้าฮั่วเซียวหมิง “อาจิ่ว ให้คนของนายจับผู้หญิงคนนี้มาหน่อยสิ เธอไม่ใช่แค่บุกรุกเข้ามาในบ้านของฉัน พาคนอื่นเข้ามาพังบ้านฉัน ฉันไม่ว่า แต่ยังมาทำร้ายฉันอีก!”
พูดไปพูดมา น้ำเสียงของเหลยเฉิงก็ค่อย ๆ เบาลง
เขาขมวดคิ้วมองดูสีหน้าของชายหนุ่มด้วยหัวใจเต้นรัว “อาจิ่ว พวกนาย… รู้จักกันเหรอ?”
“เพื่อนฉันเอง” ฮั่วเซียวหมิงพยักหน้าพลางยกมุมปาก แต่กลับพูดด้วยแววตาปราศจากความอบอุ่น
“เพื่อนของฉัน ผู้มีพระคุณ…” เขาหยุดไปชั่ววินาที “เป็นคนที่ในโลกนี้ไม่มีใครมาแทนที่ได้”
ใบหน้าของเหลยเฉิงเปลี่ยนไปมหันต์ เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
ฮั่วเซียวหมิงก้มหน้ามองฉู่ลั่ว “เดินไหวไหม?”
เธอพยักหน้า “อืม”
ทั้งสองคนขึ้นไปนั่งบนรถ แล้วจากไปราวกับไม่เห็นหัวชายมากอิทธิพลอย่างเหลยเฉิง
เหลยเฉิงเห็นรถคันนั้นจากไปแล้วก็สบถออกมาแรง ๆ หนึ่งประโยค ก่อนจะหันไปด่าชื่อหยาง “คุณเป็นอะไรไป? ฉันเสียเงินตั้งมากมายเพื่อเชิญคุณมา แต่คุณกลับสู้เด็กผู้หญิงคนเดียวไม่ได้ด้วยซ้ำ!”
ชื่อหยางเหลือบมองเหลยเฉิง พลางถอนหายใจออกมาแรง ๆ เขาถอยหลังไปหนึ่งก้าว “คุณเหลย คุณระวังตัวเองให้ดีเถอะ!”
เหลยเฉิงงุนงง “คุณหมายความว่ายังไง?”
ชื่อหยางไม่พูดอะไรอีก แต่หันหลังเดินจากไปแล้ว
นักพรตแอบตกใจ
ฮั่วเซียวหมิงร้ายกาจเหลือเกิน!
แค่ปรากฏตัวออกมาโดยไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่าง แต่ทำให้บารมีบนตัวเหลยเฉิงหายไปได้ไม่น้อย
มนต์คาถาที่เขาเพิ่มเข้าไปในตัวเหลยเฉิง ไม่รู้ว่าจะปกป้องไปได้ถึงเมื่อไหร่
หากมนต์คาถาหมดฤทธิ์…
อย่างเบาก็ทำลายชื่อเสียงโชคลาภ อย่างหนักก็คือมีภัยถึงชีวิต!
ชื่อหยางมองฮั่วเซียวหมิงผู้จากไปด้วยสายตาละโมบ ความคิดนั้นที่เคยถูกศิษย์พี่ห้ามปรามไว้ เริ่มกลับมาอีกครั้ง
…
[นายหญิง คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม! คุณสูญเสียพลังวิญญาณในร่างกายมากเกินไป ร่างกายคุณได้รับผลกระทบอะไรไหม?]
[นายหญิง คุณไม่เป็นอะไรจริง ๆ ใช่ไหม? ผมบอกคุณแล้วว่าอย่าฝืน ยอมรับผิดก็จบแล้ว ทำไมต้องทำขนาดนี้ด้วย!]
[ถ้าไม่ใช่เพราะฮั่วเซียวหมิงมาทันเวลา คุณคงฆ่าคนตายไปแล้วจริง ๆ ใช่ไหม? คุณเป็นผู้บำเพ็ญนะ! ถ้าคุณฆ่าคน คุณรู้หรือเปล่าว่าจะเกิดอะไรขึ้น?]
ฉู่ลั่วตอบมาคำเดียว “หุบปาก”
[…]
ผ้าขนหนูสีขาวที่อ่อนนุ่มถูกส่งมาตรงหน้าเธอ ฉู่ลั่วเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นฮั่วเซียวหมิงขมวดคิ้วเล็กน้อย
“หน้าคุณเหงื่อออกเยอะเลย? ผมจะพาคุณไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้”
ฉู่ลั่วรับผ้าขนหนูมาคลุมหน้าตัวเองไว้
ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็ดึงผ้าขนหนูออกมาส่งให้เขา “ขอบคุณ”
ฮั่วเซียวหมิงเอ่ย “…คุณอดทนอีกนิดนะ พวกเราใกล้จะถึงโรงพยาบาลแล้ว”
ฉู่ลั่วพยักหน้า “ฉันไม่เป็นอะไร”
แต่เพิ่งพูดจบเธอก็รู้สึกหวานในลำคอ ก่อนจะกระอักเลือดสีดำออกมาจากปาก
“ผมไม่อยู่แค่ไม่กี่วัน คุณก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้วเหรอ!”
ภาพตรงหน้าหญิงสาวมืดไปหมด เธอรู้สึกเพียงว่าตัวเองตกอยู่ในอ้อมกอดที่ทั้งอบอุ่นและแข็งแรง โดยมีเสียงร้อนรนทำอะไรไม่ถูกดังขึ้นข้างหู
ก่อนที่ฉู่ลั่วจะหมดสติไป ในหัวก็มีประโยคโต้แย้งหนึ่งแวบเข้ามา
ต่อให้เขาอยู่… ก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี