เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 23 เป็นเธอนั่นเอง
บทที่ 23 เป็นเธอนั่นเอง
ซ่งอวิ๋นชิงทำเสียงอ่อยมาด้วยความน้อยใจ “ที่รักจ๋า!”
ฉิงจื่อฉิงร้องฮึตอบอย่างเย็นชา
ก่อนซ่งอวิ๋นชิงจะรีบส่งรูปภาพปึกนั้นกับข้อมูลในมือให้ฉู่ลั่ว ส่วนตนเองก็วิ่งไปอยู่ตรงหน้าภรรยาเพื่อตามง้องอน
โดยมีซ่งจือหนานชำเลืองมองพ่อแม่ตัวเองด้วยสีหน้าหมั่นไส้ “ไม่สนใจด้วยหรอก ผมกินอาหารหมาจนอิ่มแล้ว”
ฉู่ลั่วนั่งลงบนโซฟา พลางตรวจดูรูปภาพทีละรูป ครึ่งชั่วโมงต่อมา เธอก็ดูรูปหลายสิบรูปครบหมดทุกใบแล้ว
ซ่งอวิ๋นชิงง้อฉิงจื่อฉิงสำเร็จแล้ว ก็รีบถามเด็กสาวว่า “หาเจอไหมว่าเป็นใคร?”
ฉู่ลั่วส่ายหน้า “หาไม่เจอค่ะ”
“หาไม่เจอ? เป็นไปไม่ได้! คนเหล่านี้คือเพศตรงข้ามที่เคยพัวพันอยู่รอบตัวฉันในช่วงหลายปีมานี้ นอกจากพวกเธอ ฉันก็ไม่ได้ยุ่งกับใครอีกแล้วนะ!”
ซ่งอวิ๋นชิงรีบพูดว่า “ลั่วลั่ว เธอดูดีแล้วใช่ไหม? ไม่มีจริงเหรอ?”
“พี่ลั่วบอกว่าไม่มีก็ไม่มีสิ!” ซ่งจือหนานสนับสนุนฉู่ลั่ว “พ่อ แน่ใจนะว่าเอารูปของผู้หญิงที่พ่อเคยยุ่งเกี่ยวด้วยมาให้หมดแล้ว?”
เขาสงสัยว่าพ่อเขาคิดจะปกป้องผู้หญิงคนนั้น จึงจงใจปกปิด
ซ่งอวิ๋นชิงเข้าใจความหมายในคำพูดนั้น ก็ยกเท้าถีบซ่งจือหนานสักที แต่ลูกชายตัวดีหลบทัน
ซ่งจือหนานไปหลบหลังมารดา “แม่ครับ ดูพ่อสิ โกรธกลบเกลื่อนความผิดขึ้นมาแล้วล่ะสิ”
“เมียจ๋า!” ซ่งอวิ๋นชิงมองภรรยาด้วยความน้อยใจ
ฉิงจื่อฉิงจ้องสามีอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามฉู่ลั่วว่า “ลั่วลั่ว หนูแน่ใจใช่ไหมว่าในนี้ไม่มี?”
ฉู่ลั่วพยักหน้าอย่างหนักแน่น “หนูดูอย่างละเอียดแล้ว ในบรรดาคนพวกนี้ไม่มีใครรู้สึกขัดแย้งกับคุณลุงซ่งเลยค่ะ”
ฉิงจื่อฉิงหันไปหาสามี “เป็นไปได้ไหมว่าตามสืบมาไม่ครบ?”
ซ่งอวิ๋นชิงอยากบอกว่าตัวเองตรวจสอบมาหมดแล้ว ไม่มีทางพลาดใครไปแน่นอน
แต่เขาไม่กล้ายืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ “ฉันจะให้คนไปตรวจสอบอีกครั้งแล้วกัน”
พูดจบก็โทรหาเลขา ให้เธอหาคนไปสืบให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง
สองชั่วโมงต่อมา เลขาที่สวมชุดทำงานสีดำก็มาถึงบ้านตระกูลซ่ง
ฉู่ลั่วกำลังคุยกับฉิงจื่อฉิง พอเงยหน้าขึ้นมาเห็นเลขา ดวงตาเรียวงามก็เป็นประกาย แต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
“ประธานซ่ง นี่คือของที่คุณให้ตรวจสอบค่ะ ฉันหาคนอีกชุดหนึ่งไปตรวจสอบอีกครั้ง ขอบเขตเป้าหมายยังกว้างขึ้นด้วยค่ะ”
ซ่งอวิ๋นชิงรับภาพถ่ายกับข้อมูลมา “ลำบากคุณแล้ว”
เลขาเหยายิ้มพลางส่ายหน้า เธอเป็นสาวอายุห้าสิบกว่าปีแล้ว แต่ดูแลตัวเองอย่างดี ดูแล้วเหมือนคนอายุสามสิบต้น ๆ
เธอแต่งหน้าเรียบง่ายทั้งยังสวมชุดทำงานเหมาะสมกับรูปร่าง ดูฉลาดหลักแหลมมาก
“ลั่วลั่ว ลองดูอีกทีสิ”
ฉู่ลั่วรับภาพถ่ายมา มองผ่านเร็ว ๆ รอบหนึ่ง ก็ส่ายหน้า “ไม่มีค่ะ”
ตอนที่พูด หางตาก็มองไปทางเลขาเหยา
เลขาเหยาได้ยินเด็กสาวพูดก็โล่งใจอย่างเห็นได้ชัด ในแววตาลึก ๆ แสดงความลำพองใจออกมา
แม้มันจะหายไปในชั่วพริบตา แต่ก็ถูกฉู่ลั่วจับสังเกตได้
“แต่ว่า หนูหาคนคนนั้นเจอแล้วค่ะ”
คนตระกูลซ่งดวงตาเป็นประกาย มองไปที่เด็กสาวอย่างคาดหวัง
เลขาเหยาสูดลมหายใจพลางมองเด็กสาวด้วยท่าทางประหม่า ฉู่ลั่วเองก็จับจ้องกลับมาเช่นกัน
คนตระกูลซ่งมองตามสายตาของเธอ ก็เห็นเลขาเหยาที่ยืนอยู่ด้านข้าง
ซ่งจือหนานกระโดดลงมาจากโซฟาทันที “เป็นเธอนี่เอง! ผมบอกตั้งแต่แรกแล้ว ว่าเหยาซุ่ยคนนี้คิดไม่ซื่อ”
“คุณชายซ่ง ดิฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดอะไร” เหยาซุ่ยเผยสีหน้าบริสุทธิ์ใจ
ซ่งอวิ๋นชิงขมวดคิ้ว เอ่ยถามฉู่ลั่วอย่างไม่แน่ใจ “ลั่วลั่ว เธอแน่ใจหรือเปล่า? รูปของเลขาเหยาอยู่ใบแรกสุดในกองที่แล้ว…”
หลายปีมานี้เลขาเหยาอยู่ข้างกายเขามาตลอด และคนแรกที่ถูกตรวจสอบก็คือเธอ
รูปภาพของเลขาเหยาก็ถูกนำมาวางเป็นรูปแรกของรูปทั้งหมด
ก่อนหน้าฉู่ลั่วดูรูปภาพก็บอกว่าไม่มีปัญหา ทำไมตอนนี้ถึงมั่นใจว่าเป็นเลขาเหยา?