เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 231 ลั่วลั่วเป็นเด็กดี
บทที่ 231 ลั่วลั่วเป็นเด็กดี
ฉู่ลั่วถามเสียงไร้อารมณ์ “ถ้าหนูตัดสัมพันธ์กับตระกูลฉู่ เหลยเฉิงก็จะไม่แก้แค้นตระกูลฉู่แล้วใช่ไหม”
ซ่งเชียนหย่ารู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก เธออยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับได้ยินฉู่หร่านกล่าวด้วยน้ำเสียงโกรธเคืองเสียก่อน “ลั่วลั่ว ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาอารมณ์เสียนะ! ตัดความสัมพันธ์กับตระกูลฉู่อะไรกัน ทำไมเธอถึงพูดแบบนี้ออกมา”
ฉู่หร่านสีหน้าไม่พอใจ “เธอตัดความสัมพันธ์กับตระกูลฉู่ เธอจะให้คนอื่นมองคุณพ่อคุณแม่ยังไง?”
“เธอรู้อยู่แก่ใจว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่มีทางให้เธอออกไปจากตระกูลฉู่ ยังจะพูดจาทำร้ายจิตใจคุณพ่อคุณแม่แบบนี้อีกเหรอ”
“ลั่วลั่ว เธออย่าไม่รู้ความขนาดนี้จะได้ไหม! ถ้าหาก…” ฉู่หร่านถอนหายใจออกมาอย่างหมดหนทาง “ถ้าเธอไม่อยากไปขอโทษเหลยเฉิงจริง ฉันจะไปเอง”
“ฉันไปแทนก็คงได้สินะ!”
ซ่งเชียนหย่าที่ไม่สบายใจเพราะคำพูดของฉู่ลั่ว ก็กลับมาสงบลงอีกครั้ง
เธอมองฉู่ลั่วด้วยสีหน้าโกรธเคืองและไม่เห็นด้วย “ลั่วลั่ว ลูกดูพี่สาวของลูกสิ เรื่องเหลยเฉิง ลูกต้องไปขอโทษด้วยตัวเอง ถ้าลูกไม่ไป…”
เธอเงียบลงไปชั่วขณะ “แม่ก็จะให้ลูกตัดความสัมพันธ์กับตระกูลฉู่จริง ๆ”
ฉู่ลั่ว “…”
สายตาของเธอจับจ้องที่ใบหน้าของฉู่หร่าน ประทับภาพฉู่หร่านที่คลี่ยิ้มบางอยู่ข้างหลังซ่งเชียนหย่าไว้ในตาคู่นี้
ลูกรักสวรรค์ ก็คือลูกรักสวรรค์
ได้รับความรักโดยไม่มีเหตุผล
ฉู่ลั่วตอบอย่างไม่ลังเล “หนูไม่ไปขอโทษค่ะ ตัดความสัมพันธ์ไปเถอะ!”
ซ่งเชียนหย่า “…”
ฉู่หร่าน “…”
“แม่ลูกเขาจะคุยกัน ลูกมายืนหน้าตายอยู่ตรงนี้ทำไม” หยางไต้เอื้อมมือมาสะกิดแขนลูกชายของตัวเอง “ทำไม? กลัวแม่เขาจะโทษเราที่ดูแลลูกสาวเขาไม่ดีหรือยังไง?”
“วางใจเถอะ! แม่ยายกับลูกเขย เห็นไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็ถูกใจเอง”
หยางได้ปลอบฮั่วเซียวหมิง “อีกอย่าง ลูกก็ไม่มีอะไรด้อยเลย แต่ขาดด้านความฉลาดทางอารมณ์ไปหน่อยเอง”
ฮั่วเซียวหมิงยังจับจ้องประตูที่ปิดสนิทโดยไม่พูดอะไร
“กังวลจริงเหรอเนี่ย?”
ฮั่วเซียวหมิง “คนตระกูลฉู่ไม่ชอบฉู่ลั่ว”
รอยยิ้มบนใบหน้าของหยางไต้แข็งค้างไปทันที “ลูกพูดอะไรนะ?”
ฮั่วเซียวหมิงเอ่ย “ความสัมพันธ์ระหว่างฉู่ลั่วกับตระกูลฉู่ แม่น่าจะรู้นะครับ”
ผู้เป็นแม่พยักหน้า “เรื่องลูกสาวตัวจริงตัวปลอมของตระกูลฉู่ดังมาก แม่เคยสอบถามเรื่องนี้มาโดยเฉพาะ ต้องรู้อยู่แล้ว!”
สายตาของฮั่วเซียวหมิงยังจ้องอยู่ที่ประตูห้องพักผู้ป่วย “ตระกูลฉู่ไม่ดีกับฉู่ลั่ว”
หยางไต้ไม่เข้าใจ “ลูกสาวแท้ ๆ ที่ตามหาตัวกลับมาไม่ง่าย ยังไงก็ต้องชดใช้หนี้ที่คั่งค้างมานานหลายปี ทำไมถึงได้ทำไม่ดีกับลูกสาวแทนล่ะ”
ฮั่วเซียวหมิงตอบ “ชดใช้ให้จริงครับ แต่ไม่มีความรู้สึกให้ ดันมีความผูกพันให้อีกคนแทน”
เมื่อได้ฟังประโยคนี้ หยางไต้ก็เข้าใจความหมายในคำพูดของลูกชายทันที
คิ้วเรียวสวยของเธอขมวดเป็นปม “ตระกูลฉู่ทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง!”
ถ้าแค่ชดใช้ให้ลูกสาวแท้ ๆ แต่ไม่มีความรู้สึกให้เลย อย่างนั้นก็ปฏิเสธลูกสาวคนนี้ไป แล้วชดเชยด้วยการให้เงินก้อนใหญ่ก็ได้
แต่ถ้ามีความรู้สึกรักให้ลูกสาวแท้ ๆ ก็ควรปฏิบัติกับลูกสาวทั้งสองคนอย่างเท่าเทียมกัน แล้วพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชดเชยให้ลูกสาวตัวจริง
ทำไมถึงได้มีพ่อแม่ที่รับลูกสาวตัวจริงกลับมาบ้าน แต่กลับปฏิบัติต่อเธอด้วยความลำเอียงได้ล่ะ?
ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่ในใจ ประตูห้องพักผู้ป่วยก็เปิดออกอีกครั้ง
ซ่งเชียนหย่าเดินออกมาด้วยใบหน้าโกรธเกรี้ยว ด้านข้างมีฉู่หร่านที่ทำหน้าตาไร้พิษภัยตามมา
“ฉู่ลั่ว ลูกคิดให้ดีแล้วกัน!”
ก่อนที่ซ่งเชียนหย่าจะปิดประตูห้องพักผู้ป่วย ยังเอ่ยเตือนฉู่ลั่วท่าทางจริงจัง
เมื่อปิดประตูแล้ว เธอก็หันมาเห็นพวกหยางไต้จึงรีบยิ้มอ่อนโยนทันที “ต้องขอโทษคุณนายฮั่วด้วยนะคะ ลั่วลั่วของพวกเราทำให้คุณหนักใจแล้ว”
เธอพูดไปก็ส่ายหน้าและถอนหายใจไปด้วย “พวกเราไม่ได้เลี้ยงฉู่ลั่วมาตั้งแต่เด็ก มีกฎหลายอย่างที่เธอไม่รู้ ถ้ามีตรงไหนที่เธอทำไม่ดีไป ได้โปรดอภัยให้ด้วยนะคะ ฉันในฐานะแม่ ต้องขอโทษแทนเธอด้วยค่ะ”
“หนูในฐานะพี่สาวก็ต้องขอโทษแทนลั่วลั่วด้วยนะคะ ลั่วลั่วไม่รู้เรื่องอะไร พวกเราจะอบรมให้ดีค่ะ” ฉู่หร่านยกมุมปากน้อย ๆ พยายามแสดงมารยาท ความอ่อนโยน และความรู้ประสีประสาที่ลูกสาวตระกูลร่ำรวยพึงมีออกมาเต็มที่
แม้แววตาจะตรงข้ามกันก็ตาม
แต่หยางไต้กลับยิ้มจาง “ลั่วลั่วเป็นเด็กดีมากค่ะ ไม่ต้องอบรมอะไรแล้ว เธอรู้ความและมีมารยาทมาก ฉันไม่มีตรงไหนที่ต้องให้อภัยเลยค่ะ”
ซ่งเชียนหย่าน้ำท่วมปากขึ้นมา
ฉู่หร่านยิ้มค้าง