เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 234 ผมชอบคุณ
บทที่ 234 ผมชอบคุณ
ฉู่ลั่วที่เดิมทีผิดหวัง เมื่อเห็นแววตาของฮั่วเซียวหมิง เธอก็เงียบไปสักพักใหญ่
หญิงสาวตรวจสอบพลังของตนเองอีกครั้ง
…มันไม่เพิ่มขึ้นเลยสักนิด
แต่แววตาของฮั่วเซียวหมิงไม่ได้โกหก
ฉู่ลั่วพูดในใจ ‘ระบบ ทำไมความเชื่อของฮั่วเซียวหมิงถึงไม่ทำให้พลังวิญญาณของฉันเพิ่มขึ้น?’
[เป็นไปไม่ได้! ถ้าเขาเชื่อในตัวคุณจริง ๆ ถ้าอย่างนั้นพลังวิญญาณของคุณต้องเพิ่มขึ้นแน่นอน]
เธอเลิกคิ้ว ‘ถ้าอย่างนั้น… ปัญหาอยู่ที่นายอีกแล้วหรือเปล่า?’
ระบบรีบแย้ง
[แน่นอนว่าไม่มีทาง! ผมไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ว่า ยังมีอีกสถานการณ์หนึ่ง…]
ฉู่ลั่วออกคำสั่ง ‘บอกมา’
ระบบลังเลก่อนจะอธิบายให้ฟัง
[คือแบบนี้ครับ ความศรัทธาจะทำให้พลังวิญญาณของคุณฟื้นฟู กลไกลนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ก็มีสถานการณ์ที่นอกเหนือไปจากนี้อยู่อีกหนึ่งสถานการณ์]
ฉู่ลั่ว “…”
ราวกับรับรู้ได้ถึงความจริงจังของเธอ ระบบจึงไม่เล่นลิ้นอีกแล้ว และพูดออกมาตามตรงว่า
[แรงศรัทธาจากครอบครัวและคนรัก จะไม่ทำให้พลังวิญญาณของคุณฟื้นฟู]
ฉู่ลั่วเอ่ยในใจ ‘ฮั่วเซียวหมิงไม่ใช่ครอบครัวของฉัน’
[ถ้ามีอีกสถานการณ์หนึ่งล่ะ?]
เธอเงียบงัน “…”
[ความรู้สึกที่เขามีต่อคุณ ความรู้สึกที่มากกว่าความเชื่อมั่นในความสามารถของคุณ]
ฉู่ลั่วถาม ‘ความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง?’
[…]
หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาค่อย ๆ จับจ้องไปที่ใบหน้าของฮั่วเซียวหมิง จากคิ้วและตาของเขาไล่ลงมาจนถึงริมฝีปาก
ดวงตาของเธอเลื่อนมองไปทีละน้อย
จนกระทั่งตอนที่สายตาตกอยู่ที่ริมฝีปากของฮั่วเซียวหมิง เธอเห็นเขากลืนน้ำลาย ริมฝีปากบางก็เม้มเป็นเส้นตรง
หัวใจของฉู่ลั่วหยุดชะงักไปชั่วขณะ เธอเงยหน้าขึ้น มองดวงตาสีดำของฮั่วเซียวหมิง
ก่อนจะมองใบหูขาวซีดของเขาที่กำลังแดงขึ้น
ฮั่วเซียวหมิงผิวขาวมาก เมื่อเขาหูแดงขนาดนี้จึงเห็นได้ชัดเจน
เธอเผลอเอนตัวพิงไปข้างหลัง พยายามออกห่างอีกสักหน่อย
แต่ฮั่วเซียวหมิงกลับขยับเข้ามาใกล้โดยไม่รู้ตัว เขาถามอย่างประหม่า “เป็นอะไรไป? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”
เขายื่นมือออกไปจะแตะลงบนใบหน้าของฉู่ลั่ว
เพียะ!
มือของฉู่ลั่วตบหลังมือฮั่วเซียวหมิงอย่างแรงจนมันกลายเป็นสีแดงทันที
มือของชายหนุ่มค้างอยู่กลางอากาศ
สายตาของเขาเลื่อนลงมาช้า ๆ ก็เห็นความขัดแย้งและความไม่อยากเชื่อในแววตาของฉู่ลั่ว
“…” ฮั่วเซียวหมิงเงียบงัน ความร้อนที่หูของเขาหายไปในทันที เหลือไว้เพียงอาการทำตัวไม่ถูก “น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่น่าเชื่อขนาดนั้นเลยสินะ”
ฉู่ลั่วขมวดคิ้ว เอามือปิดหน้ารูปไข่ไว้ นิ้วมือชิดติดกันจนไม่มีช่องว่าง “ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดอะไร!”
ฮั่วเซียวหมิงที่ตอนแรกรู้สึกปวดใจ แต่เมื่อเห็นท่าทางของเธอ ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกว่าอยากขำอยู่นิดหน่อย
เขาหัวเราะเสียงทุ้ม ความอึดอัดในอกหายวับไปแล้ว
มือทั้งสองข้างวางลงบนเอวของฉู่ลั่ว ไม่ได้เข้าใกล้เธอไปมากกว่านี้ มีเพียงรอยยิ้มในดวงตาและมุมปากยกขึ้น
น้ำเสียงนั้นยังคงน่าฟังเหมือนเคย แต่ในหูของฉู่ลั่วกลับเหมือนเสียงฟ้าร้องที่น่าตกใจ
“ฉู่ลั่ว คุณดูไม่ผิดหรอก”
“ผมชอบคุณ”
“ชอบแบบที่ผู้ชายคนหนึ่งชอบผู้หญิงสักคน”
“ไม่ใช่ความเทิดทูนบูชาหรือหลงใหลเหมือนสาวกผู้ศรัทธาในตัวคุณ”
ห้องพักผู้ป่วยตกอยู่ในความเงียบอย่างประหลาด
ดวงตาสีดำของฮั่วเซียวหมิงจ้องฉู่ลั่วตาไม่กะพริบ มองจนใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยอาการต่อต้าน
มุมปากของเขาสยายยิ้มมากขึ้นจนเห็นได้ชัดเจน เพียงแค่ยืดตัวตรงขณะนั่งอยู่บนเก้าอี้ “คุณมีอะไรอยากพูดหรือเปล่า?”
ฉู่ลั่วขมวดคิ้วมองชายหนุ่มอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยออกมา “ฉันไม่ได้ชอบคุณ… และไม่มีทางชอบด้วย”
รอยยิ้มบนใบหน้าของฮั่วเซียวหมิงไม่ได้จางลงเลย “คุณไม่ชอบแค่ผมคนเดียว หรือว่าไม่ชอบใครเลย?”
“ตอนนี้ฉันไม่คิดเรื่องพวกนี้!”
ฮั่วเซียวหมิงกดคางลง ทำหน้าเหมือนรู้อะไร “โอเค ผมเข้าใจแล้ว ตอนนี้เรามาคุยเรื่องร่วมมือทางธุรกิจกับตระกูลฉู่กันดีกว่า”
ชายหนุ่มดูเป็นการเป็นงาน ราวกับว่าคนที่สารภาพรักและถูกปฏิเสธไปเมื่อสักครู่นี้ไม่ใช่เขา
ฉู่ลั่วเก็บสีหน้าต่อต้าน และแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“เรื่องความร่วมมือทางธุรกิจกับตระกูลฉู่ ฉันไม่เข้าใจหรอก คุณควรติดต่อไปหาทางตระกูลฉู่”
“ได้”
ฮั่วเซียวหมิงยืนขึ้น แผ่นหลังตั้งตรง มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า เขาพูดกับเธอด้วยแววตาเย็นชา “ถ้าอย่างนั้นคุณก็พักผ่อนให้มาก ๆ ผมไปก่อนนะ”
“อืม”
ระหว่างปิดประตู ชายหนุ่มลอบมองจนลับสายตา ชวนให้เธอรู้สึกแปลก ๆ ในใจ