เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 238 ฉันทำแบบนี้ไม่ได้
เฉิงยวนรออยู่นาน แต่กลับไม่ได้รับคำชมเชยจากฉู่ลั่ว
ฉู่ลั่วเอ่ย “ฉันทำแบบนี้ไม่ได้”
เฉิงยวนถาม “ทำไม?”
“ฉันเป็นแค่ผู้บำเพ็ญ ไม่ใช่เทพเจ้าที่ควบคุมชะตาชีวิตของคนอื่นได้ ไม่สิ ต่อให้เป็นเทพเจ้า ก็ไม่ควรควบคุมความรู้สึกของใครเช่นกัน”
เธอยัดขวดแก้วกลับเข้าไปในมือของเฉิงยวน “ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ไม่ควรจัดการความรู้สึกของคนอื่นตามใจชอบ”
วิญญาณสาวถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย “ยังไงเจ้าก็ไม่ได้ชอบเขานี่?”
“ฉันไม่ชอบ แต่จะจัดการหัวใจเขาตามใจชอบไม่ได้ ความรักเป็นสมบัติของเจ้าตัว ไม่เกี่ยวกับคนอื่น”
“หากมีวันหนึ่ง ฮั่วเซียวหมิงยินยอมละทิ้งความรู้สึกนี้ด้วยตัวเอง พวกเราก็ลงมือได้ แต่ในสถานการณ์ที่เขาไม่ยินยอม ฉันทำแบบนี้ไม่ได้”
เฉิงยวนกลอกตามองบน “ฉู่ลั่ว เจ้า…”
“อีกอย่าง…” สายตาของฉู่ลั่วจับจ้องไปที่ขวดแก้ว “ขวดแก้วผนึกรักใบนี้มีบางอย่างผิดปกติ มีอักขระเต๋าหลายตัวที่ฉันไม่รู้จัก ยังมีกระดิ่งที่ปากขวดนั่นอีก นี่ไม่ใช่ของวิเศษของลัทธิเต๋า”
เฉิงยวนยังคงแกว่งไปมาสองครั้งอย่างไม่เข้าใจ ก็ได้ยินเสียงกังวานของกระดิ่ง “ก็แค่ขวดผนึกรักใบหนึ่ง มีอะไรผิดปกติกันล่ะ”
เธอเลิกคิ้วขึ้นพลางซุบซิบ “หรือว่าเจ้าไม่อยากให้ฮั่วเซียวหมิงลืมเจ้า?”
ฉู่ลั่วส่ายหน้า “ฉันไม่รู้สึกอะไรกับเขา”
เห็นทำหน้าเคร่งเครียด เฉิงยวนก็แอบคร่ำครวญเพื่อความรักของฮั่วเซียวหมิงอยู่ในใจหลายวินาที จากนั้นจึงโยนขวดแก้วผนึกรักในมือสองที “เจ้าวางใจได้ หากไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้า ข้าไม่มีทางใช้ขวดใบนี้ตามอำเภอใจ โอเคไหม!”
ฉู่ลั่วกำชับเธอ “ไม่ใช่แค่กับฮั่วเซียวหมิง กับคนอื่นก็ไม่ได้ อักขระเต๋าที่อยู่บนขวดใบนี้ มีปัญหาจริง ๆ นะ”
“รู้แล้วล่ะ” เฉิงยวนไม่กลั้นความหงุดหงิดในน้ำเสียง “ห้องข้าอยู่ตรงไหน?”
ฉู่ลั่วชี้ไปที่ห้องของเฉิงยวน อีกฝ่ายก็ลอยตรงไปทันที
เช้าวันต่อมา เสียงกริ่งประตูแสบแก้วหูก็ดังขึ้นมา
หัวหว่านกำลังทำอาหารเช้า เมื่อได้ยินเสียงกริ่งก็เดินไปเปิดประตู เธอมองซ่งเชียนหย่ากับฉู่หร่านที่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยความตกใจ
“ขอถามพวกคุณ…”
“ไม่รู้เหรอว่าพวกเราเป็นใคร?” ซ่งเชียนหย่าทำหน้ารังเกียจ “ยังไม่เชิญพวกเราเข้าไปอีก?”
หัวหว่านลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ถึงหลีกทางให้
ทันทีที่ซ่งเชียนหย่ากับฉู่หร่านเข้ามาก็เห็นแปลนห้องรับแขกที่กว้างขวางของเพนต์เฮาส์
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีเพนต์เฮาส์ขนาดใหญ่แบบนี้ใจกลางตี้จิง ที่น่าแปลกคือฉู่ลั่วสามารถซื้อเพนต์เฮาส์ใจกลางตี้จิงแบบนี้ได้ต่างหาก
ที่สำคัญคือ ฮั่วเซียวหมิงเป็นคนให้เพนต์เฮาส์นี้กับเธอ!
“ลั่วลั่วล่ะ?” ฉู่หร่านถามพร้อมรอยยิ้ม “ฉันกับคุณแม่มาครั้งนี้ เพราะมีเรื่องดี ๆ จะบอกลั่วลั่ว ถ้าลั่วลั่วรู้ต้องดีใจแน่นอน!”
ว่าแล้วก็มองซ้ายมองขวา “ลั่วลั่วยังไม่ตื่นเหรอ? ฉันกับคุณแม่อุตส่าห์มาตั้งแต่เช้าแบบนี้ ทำไมเธอยังไม่ตื่นอีก!”
“ไปรินน้ำมาให้คุณแม่ของฉันสักแก้ว คุณแม่เดินทางมาเหนื่อย ๆ”
ตอนแรกซ่งเชียนหย่าไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อฉู่หร่านพูดแบบนี้ ความหงุดหงิดก็พลุ่งพล่านขึ้นมาในอก เธอพูดด้วยความโกรธว่า “นี่มันกี่โมงแล้ว ยังไม่ตื่นอีกเหรอ! ฉันกับพี่สาวของเธอมาถึงนี่แล้ว ก็ไม่รู้จักมาต้อนรับ”
“มารยาทพื้นฐานแค่นี้ก็ยังไม่รู้หรือไง?”
หัวหว่านยกน้ำมาสองแก้ววางไว้ตรงหน้าซ่งเชียนหย่ากับฉู่หร่าน พลางยิ้มทักทายอย่างสุภาพ “คุณหนูไม่ทราบค่ะ ว่าทั้งสองท่านจะมา”
“เธอหมายความว่ายังไง? พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน จะมาบ้านลั่วลั่วยังต้องนัดล่วงหน้าด้วยเหรอ?” ฉู่หร่านมองแม่บ้านอย่างไม่เห็นด้วย ก่อนจะถามหยั่งเชิง “ลั่วลั่วเป็นคนบอกไว้อย่างนั้นเหรอ?”
“แน่นอนว่าเปล่าค่ะ” หัวหว่านเก็บรอยยิ้มบนใบหน้าขณะมองสองแม่ลูกที่นั่งอยู่บนโซฟา “คุณหนูเพิ่งย้ายเข้ามา ไม่ทราบว่าทั้งสองท่านจะมา ก็เลยไม่ได้ออกมาต้อนรับ”
“อีกอย่าง คุณหนูตื่นนานแล้วค่ะ เธอกำลังฝึกฝนช่วงเช้าอยู่ รอให้คุณหนูฝึกเสร็จแล้ว เธอก็ออกมาเองค่ะ”
พูดจบ หัวหว่านก็ไม่มองพวกเขาอีก เธอหันหลังกลับไปเตรียมอาหารเช้าในห้องครัวแล้ว
สีหน้าของซ่งเชียนหย่าย่ำแย่ลงทันที
ฉู่หร่านทำหน้าเสียใจ แต่กลับปลอบซ่งเชียนหย่าด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “แม่คะ อย่าโกรธเลยค่ะ ลั่วลั่วไม่ได้ตั้งใจหรอกนะคะถ้าอย่างนั้นหนูให้พวกเธอไปเรียกฉู่ลั่วออกมาดีไหมคะ!”
“ไม่ต้องเรียก แม่จะคอยดูสิว่า แม่แท้ ๆ กับพี่สาวมาถึงแล้ว เธอจะออกมาตอนไหน”
แต่ฉู่หร่านกลับลุกขึ้น เลื่อนสายตามองเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งในห้องรับแขก
ทุกชิ้นเป็นของแบรนด์ดังทั้งนั้น แม้กระทั่งไฟเพดานก็ล้วนเป็นของที่ผลิตเป็นรุ่นแรก!
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ฮั่วเซียวหมิงเตรียมไว้ให้ฉู่ลั่ว
ความคิดที่ซ่อนอยู่ในใจของเธอ ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นมาอีกแล้ว
ถ้าฮั่วเซียวหมิงมีใจให้ฉู่ลั่วจริง แบบนั้นฉู่ลั่วก็จะขึ้นมาอยู่เหนือหัวเธอในพริบตาเดียวใช่ไหม?
ยิ่งคิด ก็ยิ่งรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งสรรพางค์
ไม่ใช่แค่ร่างกายสั่นสะท้าน แต่เป็นเย็นยะเยือกไปถึงกระดูก!
เธอลูบแขนของตัวเอง ก่อนจะเดินไปข้างซ่งเชียนหย่า แล้วบอกกับหัวหว่านว่า “เพิ่มอุณหภูมิแอร์ให้สูงกว่านี้หน่อย”
ซ่งเชียนหย่ามองมาด้วยความสงสัย “หนาวเหรอ?”
“นิดหน่อยค่ะ”
หัวหว่านที่อยู่ในห้องครัวไม่ได้ออกมา “อุณหภูมิภายในห้องถูกควบคุมให้คงที่ค่ะ ถ้าคุณหนูฉู่รู้สึกหนาว น่าจะเพราะเหตุผลอื่นแล้วล่ะค่ะ”