เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 241 เคราะห์ร้ายถึงตายมาแล้วเหรอ
บทที่ 241 เคราะห์ร้ายถึงตายมาแล้วเหรอ
หลังฉู่ลั่วทานข้าวเสร็จ เธอก็เดินมานั่งลงบนโซฟาเดี่ยวพร้อมกับถามว่า “มีเรื่องอะไรคะ?”
ซ่งเชียนหย่าอยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกผ่อนคลายลง จึงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ก่อนหน้านี้ลูกไปล่วงเกินเหลยเฉิงไว้ใช่ไหม? พ่อของลูกกลัวว่าจะกระทบกับการขยายธุรกิจในตี้จิงของฉู่กรุ๊ป เลยอยากให้ลูกไปขอโทษ”
“แต่ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว” ซ่งเชียนหย่าพูดพร้อมรอยยิ้ม “ตระกูลฮั่วออกหน้าให้ ตระกูลฮั่วกับตระกูลฉู่ร่วมมือทางธุรกิจกันหลายโครงการ มีตระกูลฮั่วร่วมงานด้วย ฉู่กรุ๊ปต้องตั้งหลักในเมืองตี้จิงได้แน่นอน”
ฉู่ลั่วตกใจเล็กน้อย
นี่เพิ่งผ่านไปไม่กี่วัน ฮั่วเซียวหมิงก็คิดโครงการเสร็จแล้ว
ถึงเธอจะไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับธุรกิจ แต่ก็รู้ว่าการร่วมกันระหว่างสองบริษัทตั้งแต่การติดต่อพูดคุยไปจนกระทั่งทำสัญญาร่วมมือกัน ไม่มีทางทำได้เร็วภายในไม่กี่วันแบบนี้แน่นอน
ตระกูลฮั่ว… ยอมอ่อนข้อให้มากจริง ๆ
ฉู่ลั่วแอบคิดในใจว่าควรจะตอบแทนสิ่งเหล่านี้อย่างไรดี?
ก็ได้ยินซ่งเชียนหย่าหัวเราะแล้วพูดต่อไปว่า “พ่อของลูกบอกว่านี่เป็นเรื่องใหญ่ของฉู่กรุ๊ป พอดีกับเป็นวันเกิดของลูกกับหร่านหร่านด้วย ก็เลยตัดสินใจว่าจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้พวกลูกอย่างยิ่งใหญ่!”
“และเพื่อเป็นการเปิดตัวลูกอย่างเป็นทางการด้วย!”
ครั้งก่อนในงานเลี้ยงแนะนำฉู่ลั่ว สถานการณ์ออกมาวุ่นวายจนดูไม่ได้
งานเลี้ยงอย่างเป็นทางการครั้งนี้ นับเป็นการชดเชยให้ลูกสาวแท้ ๆ
“…” ฉู่ลั่วเงียบลงไปพลางมองฉู่หร่านที่นั่งอยู่ตรงข้าม เห็นอีกฝ่ายยิ้มหวานมาให้
เฉิงยวนลอยเข้ามากระซิบข้างหูฉู่ลั่วว่า “ใช่เคราะห์ถึงตายหรือเปล่า? นี่เป็นเคราะห์กรรมที่ทำให้เจ้าถึงตายได้เลยใช่ไหม”
ฉู่ลั่วมองรอยยิ้มลูกรักสวรรค์
เคราะห์กรรมถึงตาย… มาแล้วใช่ไหม?
ลูกสาวสองคนของตระกูลฉู่จะจัดงานเลี้ยงวันเกิดพร้อมกัน เรื่องนี่สร้างความฮือฮาไปทั่วทั้งวงการธุรกิจ!
ข่าวเพิ่งถูกปล่อยออกมาไม่นาน ฉู่ลั่วก็ได้รับการติดต่อเข้ามามากมาย
คนแรกที่โทรมาหาคือหยางไต้ หลังจากได้รับข่าวแล้ว อีกฝ่ายก็ดีใจเป็นอย่างมาก “ถึงตอนนั้นป้าต้องไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของลั่วลั่วแน่นอน!”
ต่อมาก็เป็นซ่งจือหนาน เขาบอกว่าถึงตอนนั้นจะคอยสนับสนุนฉู่ลั่ว “ไม่ว่ายังไงพี่ลั่วก็ต้องถือไพ่เหนือกว่าฉู่หร่านให้ได้!”
สุดท้ายแม้แต่ฉู่เหิงที่รีบร้อนไปตามคนรักถึงต่างประเทศก็โทรมาเช่นกัน ทางนั้นเสียงดังวุ่นวายมาก สัญญาณก็ไม่ดี
“ลั่วลั่ว! ถึงวันเกิดของเธอพี่ต้องกลับไปแน่นอน เธอวางใจได้ พี่โทรหาพ่อกับแม่แล้ว ครั้งนี้จะต้องปฏิบัติต่อเธอกับลั่วลั่วอย่างเท่าเทียมแน่ ถ้ามีตรงไหนที่พวกเขาทำไม่ถูก เธอโทรหาพี่ได้เลยนะ!”
หลังฉู่ลั่วกดวางสายโทรศัพท์ นิ้วมือลูบไล้บนหน้าจอแผ่วเบา
เฉิงยวนรอจนโทรศัพท์ของเด็กสาวเงียบลงถึงลอยเข้ามา พร้อมถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ฉู่ลั่ว เคราะห์ถึงตายจะเกิดในงานเลี้ยงวันเกิดใช่ไหม?”
ฉู่ลั่วตอบ “ถ้าอิงตามเวลาปัจจุบัน ก็ใช่”
เฉิงยวนกอดอก “งานเลี้ยงวันเกิด เจ้าไม่ไปได้หรือเปล่า?”
อีกฝ่ายถามกลับ “เธอคิดว่ายังไงล่ะ?”
“ก็คงไม่ได้” เฉิงยวนลอยวนอยู่ในห้องหลายรอบ “แต่งานเลี้ยงวันเกิด จะทำให้ประสบเคราะห์ถึงตายได้ยังไง?”
“ฉู่หร่านคงไม่ได้หาคนมาฆ่าเจ้าในงานเลี้ยงวันเกิดหรอกใช่ไหม!”
เฉิงยวนพูดเจื้อยแจ้วอยู่นาน ก็ไม่เห็นฉู่ลั่วจะตอบอะไรกลับมาจึงหันหน้าไปดู ก็เห็นว่าเด็กสาวนั่งหลับตาทำสมาธิบำเพ็ญพลังวิญญาณไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
วิญญาณในชุดฮั่นฝูพูดอะไรไม่ออกอยู่สักพัก ก่อนจะลอยเข้าไป “ตอนนี้มันหน้าสิ่วหน้าขวาน! เจ้ายังบำเพ็ญพลังวิญญาณอย่างใจเย็นได้อีกหรือ?”
“รีบร้อนไปก็ไม่มีประโยชน์ ตอนนี้มีแค่ต้องเพิ่มพลังวิญญาณให้ตัวเอง ถึงจะสู้กับฉู่หร่านได้”
เฉิงยวนก้มตัว พลางพูดด้วยน้ำเสียงยั่วยุอยู่ข้างหูฉู่ลั่ว “จะใช้ขวดผนึกรักกับฮั่วเซียวหมิงดูหน่อยไหม รอให้เคราะห์ตายผ่านไปก่อน ค่อยคืนความรู้สึกให้เขา!”
ครั้นฉู่ลั่วไม่ตอบอะไร วิญญาณสาวก็พูดล่อลวงต่อไป “ต่อให้เดินไปถามฮั่วเซียวหมิง เขาก็ต้องยินยอมแน่!”
ฉู่ลั่วที่หลับตามาตลอดลืมตาขึ้นมามองสีหน้าแปลกใจของเฉิงยวน “ห้ามบอกฮั่วเซียวหมิง และอย่าคิดจะใช้ขวดผนึกรักกับเขาด้วย ขวดใบนี้มีปัญหา”
เฉิงยวนยักไหล่ ก่อนจะผายมือออก “ไม่มีปัญหาจริง ๆ นะ หลายพันปีก่อนขวดใบนี้เคยถูกใช้มาแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรเลยสักนิด!”
ฉู่ลั่วเอ่ย “อักขระไม่ถูกต้อง”
เฉิงยวนแก้ตัว “อาจจะเป็นเพราะอักขระนี้มันนานแล้ว เจ้าก็เลยไม่เคยเรียน!”
อีกฝ่ายย้ำ “อักขระไม่ถูกต้อง”
“…” วิญญาณสาวลูบผมด้วยความหงุดหงิด “กรี๊ด ๆๆ ก็ได้ ๆๆ อักขระไม่ถูกต้อง โอเคไหม! ไม่ใช่เพราะข้าหวังดีต่อเจ้าหรือ! ข้าไม่อยากเห็นเจ้าถูกคนอย่างฉู่หร่านทำร้ายนี่!”
ระบบเองก็ร้องขึ้นมาในศีรษะของฉู่ลั่วเช่นกัน
[นายหญิง ที่จริงแล้ว… แผนการที่เฉิงยวนบอกมาก็ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้นะ!]
“…”
[อีกอย่างก็ทำไปก็เพื่อปกป้องชีวิตคุณนะครับ!]
ฉู่ลั่วเอ่ย “เฉิงยวน ฉันเป็นผู้บำเพ็ญคนหนึ่ง มีวิถีทางเป็นของตัวเอง และฉันจะเดินผิดทางไม่ได้”
คำพูดนี้ไม่เพียงแต่บอกกับวิญญาณสาว แต่ยังพูดกับระบบในสมองที่ส่งเสียงรบกวนไม่หยุดมาตลอดหลายวันนี้
เฉิงยวนกลอกตา “เข้าใจแล้ว”
ชีวิตจะไม่เหลือแล้ว ยังยืนกรานในเส้นทางของตัวเองจะไปมีประโยชน์อะไร!