เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 242 ลูกสาวอกตัญญู
บทที่ 242 ลูกสาวอกตัญญู
เฉิงยวนส่ายหน้า “ช่างเถอะ ข้าไม่สนใจเจ้าแล้ว ไปดูเรื่องสนุกดีกว่า!”
จากมาหลายวัน ไม่รู้ว่าสถานการณ์ทางฝั่งของซุนหย่าจิ้งเป็นอย่างไรบ้าง?
หล่อนคว้าซ่งเมี่ยวเมี่ยวไว้ และพาไปหาสตรีมเมอร์สาวอีกคน
…
เมื่อทั้งสองมาถึงใต้คอนโดของเฝิงข่าย ก็เห็นว่าด้านล่างกำลังมีเรื่องวุ่นวาย คนมุงดูอยู่ไม่น้อย แถมแต่ละคนมีสีหน้าโกรธแค้นมาก
“เฝิงข่ายคนนี้หน้าไม่อายจริง ๆ!”
“ถ้าไม่ถูกคนเปิดโปงตัวตนที่แท้จริงออกมา ฉันคงไม่รู้ว่าเขาเป็นลูกหลานคนร่ำคนรวย!”
“เหอะ ๆ! ไม่น่าถึงทำเรื่องหลอกลวงผู้หญิงได้แบบนี้ สัตว์เดรัจฉาน!”
เฉิงยวนได้ยินเสียงพูดคุยของคนที่อยู่รอบ ๆ ดวงตาก็เบิกกว้าง “เกิดอะไรขึ้น? ข้าจากไปไม่กี่วันเองนะทำไมเรื่องราวดำเนินมาถึงตอนที่เฝิงข่ายถูกคนรุมประนามแล้วล่ะ!”
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวไม่สนใจเรื่องผู้ชายนิสัยไม่ดี เพียงมองไปรอบ ๆ ด้วยใบหน้าเบื่อหน่าย
ทันใดนั้นเธอก็มองเห็นซุนหย่าจิ้งที่ถือร่มสีดำ พร้อมกับถังเจียวที่ยืนอยู่ใต้ร่มคันเดียวกัน
ด้านข้างของพวกเธอมีหญิงชราผมหงอกขาวคนหนึ่ง อีกฝ่ายสวมหมวกและผ้าปิดปาก เผยให้เห็นเพียงดวงตาที่จ้องเขม่งไปที่ประตูบานใหญ่
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวดึงแขนเสื้อของวิญญาณสาว ครั้นเฉิงยวนมองไปตามทิศทางนั้นก็เห็นคนใต้ร่มสีดำ
เธอรีบลากซ่งเมี่ยวเมี่ยวผ่านกลุ่มคนไป และมาหยุดอยู่ข้างซุนหย่าจิ้ง
แม่ถังถามเสียงสะอื้น “ไอ้เดรัจฉานนั่นจะติดคุกใช่ไหม?”
“ค่ะ”
ซุนหย่าจิ้งตอบออกมาเบา ๆ ขณะที่สายตามองไปที่ชุมชนขนาดเล็ก “สิ่งที่เขาโพสต์ลงไปในเวยปั๋ว รวมถึงบันทึกการสนทนาและรูปภาพทั้งหมด เป็นหลักฐานว่าเขายุยงจนทำให้คนถึงแก่ความตายค่ะ”
“ฉันถามทนายแล้วค่ะ ในกรณีแบบนี้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสังคม โทษไม่เบาแน่นอนค่ะ”
แม่ถังเจียวน้ำตาไหลออกมา
ถังเจียวที่มองดูแม่ของตนร้องไห้จนตาบวมแดงอยู่ข้าง ๆ ก็ยิ่งเสียใจมากกว่าเดิม
ทำไมตอนนั้นเธอถึงได้ฆ่าตัวตายเพื่อไอ้สัตว์เดรัจฉานนั่น!
ทำไมไม่คิดถึงแม่ผู้หาเงินส่งเสียให้เธอเรียนมหาวิทยาลัยอย่างยากลำบากบ้าง!
ตอนนั้นสมองของเธอเป็นอะไรไป?
ทันใดนั้นข้างหน้าก็เกิดความวุ่นวายขึ้น
“ออกมาแล้ว ออกมาแล้ว!”
ทุกคนต่างก็กรูเข้าไปรวมตัวกันข้างหน้า
แม่ถังก็ยื่นคอออกไปมอง คนหน้าตาเคร่งขรึมที่สวมชุดเจ้าหน้าที่หลายคนพาตัวเฝิงข่ายออกมา
กล้องทั้งหมดจับภาพไปที่เขา แสงแฟลชทำให้เฝิงข่ายต้องยกมือขึ้นมาบังสายตาเอาไว้
“ไอ้เดรัจฉาน!”
“ชาติชั่ว!”
“สารเลว!”
“เฝิงข่าย ฉันไม่คิดเลยว่านายจะเป็นคนแบบนี้!”
พวกเธอเป็นแฟนเก่าของเฝิงข่ายที่ล้วนเคยถูกเขาใช้วาจาหลอกล่อไม่มากก็น้อย
ก่อนหน้านี้ สาว ๆ ไม่คิดเลยว่านี่เป็นการทำร้ายอย่างหนึ่ง ได้แต่ขัดแย้งอยู่ในใจของตัวเองเงียบ ๆ คนเดียว
แต่หลังจากเรื่องของถังเจียวแดงออกมา พวกเธอถึงรู้ตัวว่าถูกล่อลวง และรู้ความจริงในใจเฝิงข่ายว่ามองพวกเธอเป็นยังไง!
พวกเธอต่างก็คิดว่าเฝิงข่ายรักตนเองจริง แต่พวกเธอต่างหากที่ไม่ดีพอ ถึงได้รั้งเขาไว้ไม่ได้
คิดไม่ถึงเลยว่า เฝิงข่ายดูถูกพวกเธอมาตั้งแต่ต้นจนจบ และคิดจะเล่นสนุกเท่านั้น เขามีความสุขที่ได้เห็นสาว ๆ เชื่อฟังอย่างถ่อมตัวและน่าสมเพช
สายตาของเฝิงข่ายไม่ได้มองที่กลุ่มผู้หญิงเหล่านี้ แต่มองผ่านกลุ่มคนไปหาใบหน้าของซุนหย่าจิ้งที่ยืนอยู่ข้างหลังสุด
แววตาของเขาเปลี่ยนไปเฉียบคมขึ้นทันที “ซุนหย่าจิ้ง! นังสารเลว! ฉันไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่ รอให้ฉันออกมาก่อน ฉันไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่!”
สีหน้าของซุนหย่าจิ้งยังคงอ่อนโยน ไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย เธอโบกมือเบา ๆ ภายใต้สายตาเคียดแค้นของเฝิงข่าย
เขาพูดไม่ออก โกรธจนอยากจะพุ่งตัวไปหา แต่กลับถูกกดศีรษะ พยายามยัดตัวเข้าไปในรถ
แม่ถังเห็นเฝิงข่ายที่ถูกพาตัวไปก็วิ่งตามอยู่หลายก้าว ก่อนจะหยุดลง เธอสะอื้นและนั่งยอง ๆ ลงบนพื้น ร้องไห้อย่างใจสลาย
เพื่อไม่ให้นักข่าวสังเกตเห็น พวกเธอจึงมาอยู่ด้านหลังฝูงคน
ซุนหย่าจิ้งเดินไปข้างหน้า แล้วใช้ร่มบังแม่ถังเอาไว้ เพื่อกันไม่ให้นักข่าวมองมาทางนี้
ถังเจียวก็นั่งยอง ๆ ข้างแม่ของเธอ ร้องไห้พลางเอ่ยว่า “แม่ หนูขอโทษ! หนูผิดไปแล้ว! หนูผิดไปแล้วจริง ๆ”
“แม่ อย่าร้องไห้เลยนะ”
“แม่ แม่อย่าร้องไห้อีกเลย ต่อไปแม่… ต้องใช้ชีวิตให้ดีนะ”
“หนูอกตัญญูแล้ว!”
ซ่งเมี่ยวเมี่ยวมองอยู่พักหนึ่ง ก็หันไปมองเฉิงยวนที่อยู่ข้างกัน
เธอเขย่าแขนเฉิงยวนด้วยความสงสัย “พี่ยวนยวน พี่เป็นอะไรไปคะ?”
เฉิงยวนลูบหน้าอกที่รู้สึกอัดอั้นของเธอ แม้ว่าหัวใจจะไม่เต้นแล้ว แม้ว่าเธอจะไม่ใช่คนที่มีชีวิตอยู่แล้ว แต่ความเจ็บปวดกลับชัดเจนเหลือเกิน
“ตอนที่ท่านแม่ของข้าให้ข้าแต่งงานออกไป นางก็ร้องไห้เจ็บปวดเช่นนี้”
ผ่านมาหลายพันปีแล้ว เธอคิดว่าตัวเองลืมเรื่องในอดีตไปนานแล้ว คิดไม่ถึงว่า…