เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 25 ขาดลูกสิ้นหลาน
บทที่ 25 ขาดลูกสิ้นหลาน
ซ่งจือหนานตกใจ รีบให้คนรับใช้กับบอดี้การ์ดเข้ามาปกป้องพวกเขา!
เหยาซุ่ยถูกบอดี้การ์ดจับตัวไว้ มือทั้งสองข้างไพล่ไปด้านหลัง เผยให้เห็นจมูกที่บิดเบี้ยว
ซ่งอวิ๋นชิงปกป้องภรรยาไว้ข้างหลัง ก่อนถามอย่างตกใจ “เธอตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”
เหยาซุ่ยเห็นจมูกน่าเกลียดของตัวเองถูกเปิดเผยออกมา ก็กรีดร้องอย่างหมดอาลัยตายอยาก “พวกแกอยากให้ฉันตายใช่ไหม? ถ้าฉันตาย คุณก็จะอยู่ครองรักไปจนแก่เฒ่ากับนังสารเลวฉิงจื่อฉิงใช่ไหม!?”
“ฉันจะบอกให้นะ ฝันไปเถอะ คนที่คุณต้องแต่งงานด้วยตั้งแต่แรกคือฉัน พวกเราต่างหากที่เป็นคู่กัน พวกเราต่างหากที่สมควรเป็นสามีภรรยากัน!”
“ไม่” ฉู่ลั่วขัดจังหวะเธอด้วยความใจเย็น “คุณกับคุณลุงซ่งไม่มีวาสนาต่อกัน พวกคุณเป็นสามีภรรยากันไม่ได้”
“แกพูดพล่ามอะไร!” เหยาซุ่ยตะโกน “คนที่หมั้นหมายกับเขาคือฉัน ฉันกับเขาต่างหากที่ควรได้เป็นสามีภรรยากัน”
ฉู่ลั่วยังคงใจเย็น เธอยกมือขึ้นมาคำนวณดวงชะตาต่อหน้าเหยาซุ่ย “ไม่ว่าจะคำนวณยังไง ระหว่างคุณกับคุณลุงซ่งก็ไม่มีวาสนาต่อกัน ต่อให้ดื้อรั้นแค่ไหน ก็ไม่มีทางผูกดวงเข้าด้วยกันได้ เป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบ”
ซ่งจือหนานตึงเครียด “…”
พี่ลั่วทำได้ยังไงกันนะ พูดจาร้ายกาจด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแบบนั้นได้ยังไง?
ดูจากสีหน้าของเหยาซุ่ย เธอถูกฉู่ลั่วยั่วโมโหจนเหมือนจะเป็นลมในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา
ซ่งอวิ๋นชิงได้ยินที่เด็กสาวพูด ก็รีบสารภาพความในใจกับฉิงจื่อฉิง “ที่รัก คุณได้ยินไหม? ผมกับฉิงจื่อเหยาไม่เกี่ยวข้องอะไรกันสักนิด คนที่ผมรักที่สุดคือคุณ”
ฉิงจื่อฉิงหยิกเขาเบา ๆ อย่างรับไม่ได้ “ตอนนี้ใช่เวลามาพูดแบบนี้หรือไง คนบ้า!”
ซ่งจือหนานยิ่งเครียดหนักกว่าเดิม “…”
อี๋อ๋อกันแบบไม่ดูสถานการณ์เลย!
รักกันไปพลาง ง้องแง้งกันไปพลาง เด็กหนุ่มโตมาในโลกที่เต็มไปด้วยอาหารหมาแบบนี้ แต่ที่ยังไม่อ้วกแตกตายไปก่อน ล้วนอาศัยจิตใจที่มุ่งมั่นเข้มแข็งของเขา
เหยาซุ่ยถูกคำพูดของฉู่ลั่วทำให้โกรธแล้ว เธอจึงขัดขืนอย่างรุนแรง แขนขาของเธอบิดจนน่าเกลียด ก่อนจะพุ่งเข้าไปหาซ่งอวิ๋นชิง!
“พวกเราต่างหากคือสามีภรรยา พวกเราคือสามีภรรยากัน!” เธอหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ถ้าตอนมีชีวิตอยู่พวกเราเป็นสามีภรรยากันไม่ได้ ตอนตายก็ต้องได้เป็น ใครกล้าแต่งงานกับคุณ มันต้องตาย!”
“ในโลกนี้นอกจากฉัน คนอื่นไม่มีสิทธิ์มีลูกกับคุณ!”
“พี่อวิ๋นชิง พี่อวิ๋นชิง คนที่รักพี่ที่สุดในโลกก็คือฉัน ถ้าไม่มีฉัน พี่ก็เตรียมตัวขาดลูกสิ้นหลานได้เลย!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”
ซ่งอวิ๋นชิงตกใจ “เธอพูดอะไร?”
เหยาซุ่ยนั่งนิ่งอยู่บนพื้น ใบหน้าบิดเบี้ยวราวกับภูตผีปิศาจ เธอมองเจ้านายด้วยแววตาโกรธแค้น “พี่อวิ๋นชิง ถ้าพี่ไม่เลิกกับฉิงจื่อฉิง ไม่อยู่ให้ห่างจากเธอ เธอจะตายในไม่ช้า”
“แล้วก็ลูกของพวกคุณ ซ่งจือหนานก็จะตายด้วย”
ซ่งอวิ๋นชิงพุ่งตัวเข้าไปคว้าคอเสื้อของเธอไว้ “เธอลองพูดอีกครั้งสิ!”
“พี่อวิ๋นชิง ภรรยาของพี่ต้องเป็นฉันคนเดียวเท่านั้น ใครเข้าใกล้พี่ มันต้องตาย โดยเฉพาะหล่อน!” ยกมือชี้ไปทางฉิงจื่อฉิง “หล่อนแย่งพี่ไป ฉันจะทำให้เธอมีแต่โรคภัยรุมเร้า เป็นอัมพาตนอนติดเตียง มีชีวิตอยู่อย่างทรมาน ตายเสียยังดีกว่า”
เพียะ!
ซ่งอวิ๋นชิงตบหน้าเหยาซุ่ย ก่อนจะออกแรงบีบหน้าของเธอ “เธอกล้าทำร้ายภรรยาฉัน! ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม? ฉันจะสงเคราะห์ให้!”
วินาทีต่อมา เขาก็ยื่นมือไปบีบคอหญิงคลุ้มคลั่ง
ในตอนนั้นเองใบหน้าของเหยาซุ่ยก็กลายเป็นสีแดง
“ซ่งอวิ๋นชิง!”
“พ่อ!”
ฉิงจื่อฉิงกับลูกชายวิ่งเข้าไปช่วยกันดึงซ่งอวิ๋นชิงออกมา
ซ่งอวิ๋นชิงมองภรรยาด้วยความเจ็บปวดและรู้สึกผิด “ที่รัก เป็นผมเองที่ทำร้ายคุณ เป็นความผิดของผมเอง”
ชายที่วินาทีก่อนดูร้ายแทบจะฆ่าคนได้ ในตอนนี้กลับเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่ง ขอบตาของเขาแดงก่ำตรงหน้าภรรยา
ฉิงจื่อฉิงเช็ดหางตาของเขา “ร้องไห้ทำไม! ลั่วลั่วยังไม่ได้พูดอะไรเลยไม่ใช่เหรอ? ไม่ใช่ว่าไม่มีทางช่วยสักหน่อย”
ซ่งอวิ๋นชิงได้สติกลับมา เขากอดภรรยาไว้แล้วหันไปหาฉู่ลั่ว