เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 252 ผมก็โกรธเหมือนกัน
รอจนฉู่ลั่วอาบน้ำเสร็จและกลับห้องไปเตรียมตัวพักผ่อน ก็ได้รับสายจากฮั่วเซียวหมิง
เธอรับสายด้วยความสงสัย “มีอะไรเหรอ?”
เมื่อมองดูเวลา ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว
ไม่บ่อยนักที่เขาจะรบกวนเธอในเวลานี้
นิ้วของฮั่วเซียวหมิงเกี่ยวเนกไทสีดำพร้อมปลดกระดุมออกสองเม็ด “วันเกิดพรุ่งนี้ ต้องการคู่ควงไหม?”
ฉู่ลั่วครุ่นคิด “คู่ควง?”
ฮั่วเซียวหมิงถาม “งานเลี้ยงวันเกิดใหญ่ขนาดนี้ คู่หมั้นของฉู่หร่านต้องไปที่งานแน่นอน คุณต้องการคู่ควงไปช่วยสนับสนุนคุณหรือเปล่า?”
คู่หมั้นของฉู่หร่าน?
เธอเคยได้ยินมาก่อน แต่ไม่ว่าจะเป็นชาติก่อนหรือชาตินี้ ก็ไม่เคยเจอคู่หมั้นของฉู่หร่านเลย
รู้แค่ว่าคู่หมั้นของฉู่หร่านเกิดมาในครอบครัวที่ดี หน้าตาดี และดีกับหล่อนมาก
เพียงแต่ธุรกิจครอบครัวของพวกเขาอยู่ต่างประเทศ อีกฝ่ายจึงต้องดูแลธุรกิจอยู่ที่นั่นตลอด
คู่หมั้นของฉู่หร่าน?
ฉู่ลั่วหรี่ตาลง
ในใจเกิดความรู้สึกแปลกขึ้นมา
คนรักของลูกรักสวรรค์ คงไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน!
“ฉู่ลั่ว ฉู่ลั่ว…”
“หืม?”
“เมื่อกี้กำลังคิดอะไรอยู่เหรอ? ผมเรียกคุณตั้งหลายครั้ง แต่คุณไม่ได้ยินเลย”
ฉู่ลั่วเอ่ย “คิดเรื่องคู่หมั้นของฉู่หร่าน…”
ฮั่วเซียวหมิงที่กำลังถอดเสื้อตัวนอกชะงักไป ไม่นานก็ถอนหายใจออกมา แล้วหัวเราะเบา ๆ “ฉู่ลั่ว ผมโกรธขึ้นมานิดหน่อยแล้วละ”
เธอสงสัย “ทำไมเหรอ?”
ชายหนุ่มโยนเสื้อสูทตัวนอกเอาไว้ข้าง ๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียง เขายกแขนขึ้นมาปิดดวงตามืดครึ้มของตัวเอง “ผมคุยกับคุณอยู่ แต่คุณกลับคิดถึงผู้ชายคนอื่น นี่ทำให้ผมโกรธนิดหน่อยแล้ว”
ฮั่วจิ่วพูดออกมาตรง ๆ ทำให้ฉู่ลั่วชะงักไปหลายวินาที
เด็กสาวกำโทรศัพท์มือถือแน่นอย่างไม่รู้ตัว พลางเอ่ยเตือนเขา “พวกเราไม่ได้เป็นอะไรกัน คุณไม่มีสิทธิ์โกรธนะ”
ฮั่วเซียวหมิงตอบรับเสียงเบา “ไม่มีสิทธิ์ ผมก็โกรธ”
“…” ฉู่ลั่วเงียบไปครู่หนึ่งก่อนมุ่นคิ้ว “แล้วทำยังไง คุณถึงจะไม่โกรธล่ะ?”
ฮั่วเซียวหมิงที่อยู่ปลายสายตาโต เขาลุกขึ้นนั่งทันที ดวงตาจ้องมองไปข้างหน้าราวกับสัตว์ร้ายที่จ้องมองเหยื่อ ตั้งใจจะเอาชนะให้ได้
แต่น้ำเสียงกลับอ่อนโยนมาก “พรุ่งนี้ให้ผมเป็นคู่ควงของคุณ”
“ถ้างานเลี้ยงคืนพรุ่งนี้ต้องการคู่ควงนะ” ฉู่ลั่วตอบตกลงแล้ว
เธอรู้จักฮั่วเซียวหมิง หากต้องให้ผู้ชายแปลกหน้ามาเป็นคู่ควง ให้เขามาจะดีกว่า
เธอได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ของคุณชายฮั่วจิ่วดังออกมา เป็นเสียงหัวเราะที่เบามาก แต่ดังผ่านลำโพง ทะลุเข้าไปในแก้วหูของเธอ ชัดเจนอยู่ในใจพักหนึ่ง
“ฉู่ลั่ว ราตรีสวัสดิ์”
“พรุ่งนี้ รอผมนะ”
ก่อนที่ฉู่ลั่วจะกลับมารู้สึกตัว อีกฝ่ายก็ตัดสายไปแล้ว
ฉู่ลั่วจ้องโทรศัพท์มือถืออยู่สักพัก เธอสงสัยความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ และสงสัยว่าฮั่วเซียวหมิงหัวเราะอะไร
เขากำโทรศัพท์มือถือ แล้วกดดูรูปภาพที่หยางไต้ส่งมาให้
พวกเขาต่างก็เป็นคนในวงการธุรกิจ รูปหลายรูปที่ซ่งเชียนหย่าลง ไม่นานก็ถูกแชร์มาจนถึงหยางไต้
หยางไต้ก็ส่งต่อรูปทั้งหมดเก้ารูปไปให้ลูกชาย
ฮั่วเซียวหมิงเห็นรูปของฉู่ลั่ว บางรูปที่เธอจับกระโปรงแล้วมองกล้อง บางรูปเธอสวมรองเท้าส้นสูงนั่งบนเก้าอี้ และบางรูปเธอหันข้างใช้มือเกี่ยวผมทัดหูท่าทีไม่แยแส…
เธอในทุก ๆ รูปดูดีมากจนทำให้เขาแทบจะ…
ลูกกระเดือกของฮั่วเซียวหมิงขยับหลายครั้ง นิ้วมือแตะลงบนรูปฉู่ลั่วที่อยู่หน้าจอเบามือ
ดวงตาของเธอเย็นชา แม้จะมองผ่านกล้อง แต่แววตาคู่นั้นก็ยังดูห่างเหิน
ฉู่ลั่วที่เป็นแบบนี้…
เขาดับหน้าจอโทรศัพท์มือถือแล้วโยนไว้ที่หัวเตียง ก่อนจะออกแรงกระชากเสื้อเชิ้ตอย่างแรง ก้าวยาว ๆ ไปที่ห้องน้ำ
ไม่นานนัก ก็มีเสียงน้ำดังออกมา
ฮั่วเซียวหมิงเดินออกมาหลังอาบน้ำเสร็จ บนศีรษะของเขามีผ้าขนหนูคลุมไว้ สวมชุดนอนตัวหลวม เขาเช็ดผม พลางเดินไปข้างเตียง เตรียมจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ปึง ปึง ปึง!
ประตูห้องนอนถูกเคาะเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
คนที่กล้าเคาะประตูห้องเขาแบบนี้ บนโลกนี้มีอยู่คนเดียว
ฮั่วเซียวหมิงเดินไปเปิดประตูก็เห็นหยางไต้ยืนอยู่ด้านหน้า “แม่ครับ ยังไม่นอนอีกเหรอ?”
“ตอนแรกก็จะนอนแล้วละ แต่พอเห็นโมเมนต์อันนี้ในวีแชต ก็เลยนอนไม่หลับ”
“ก่อนหน้านี้เห็นซ่งเชียนหย่าลงรูปลั่วลั่วในโมเมนต์ แม่อยากเห็นลั่วลั่วก็เลยกดเพิ่มเพื่อนซ่งเชียนหย่าไป แล้วเมื่อกี้เธอก็โพสต์รูปมาอีกหนึ่งโพสต์”
หยางไต้ยกโทรศัพท์ขึ้นมา “โพสต์นี้”
เป็นรูปภาพเก้ารูปในโมเมนต์เหมือนกัน แต่ครั้งนี้เธอลงรูปของฉู่หร่าน
ฮั่วเซียวหมิงมองแค่แวบเดียวก็เบือนหน้าหนี “เพื่อจะให้ยุติธรรมกับลูกสาวทั้งสองคน ตระกูลฉู่เลยลงรูปในโมเมนต์อีกครั้ง มีอะไรแปลกเหรอครับ?”
หยางไต้ดึงลูกชายที่จะเดินไปไว้ “ลูกดูนี่สิ!”
ฮั่วเซียวหมิงเหลือบมอง ก็เห็นหยางไต้ชี้ไปที่เอวของฉู่หร่าน
เขามองอยู่หลายครั้ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองหน้าคุณแม่… เห็นได้ชัดว่าไม่เข้าใจ
หยางไต้ถอนหายใจ “กระโปรงตัวนี้เป็นผลงานใหม่ของรีเบคก้า เจ้าหญิงผู้ไม่มีใครเทียบ บนโลกมีเพียงชุดเดียว และรีเบคก้าเป็นคนออกแบบเองทั้งหมด”
ฮั่วเซียวหมิงเงียบงัน “…”
หยางไต้พูดเสียงเรียบ “ราคาสามสิบล้าน”
เขาได้ยินมาถึงตรงนี้ ก็ขมวดคิ้ว
คุณนายฮั่วพูดต่อไปว่า “ลูกรู้ไหมว่าชุดเดรสพวกนั้นของลั่วลั่วราคาเท่าไหร่?”
ฮั่วเซียวหมิงมองชุดเดรสของฉู่หร่าน ในหัวของเขาก็นึกภาพชุดเดรสพวกนั้นออกทันที ไม่ว่าจะในแง่ของสไตล์หรือความหรูหรา ชุดเดรสของฉู่หร่านก็เอาชนะฉู่ลั่วได้ไม่รู้กี่เท่า
ถ้าให้พวกเธอออกงานพร้อมกันทั้งแบบนี้ ต้องถูกตัดสินสูงต่ำจากการแต่งกายแน่นอน
“ห้าล้าน! เดรสแต่ละตัวของลั่วลั่ว แพงสุดไม่เกินห้าล้าน”
แน่นอนว่าชุดเดรสราคาห้าล้านนั้นไม่แย่ แต่เทียบกับชุดนี้ของฉู่หร่านก็ต่างกันราวฟ้ากับเหว
ฮั่วเซียวหมิงดึงผ้าเช็ดตัวบนศีรษะออก “ผมเข้าใจแล้วครับ จะจัดการให้เอง”
หยางไต้พยักหน้า ปากก็พร่ำบ่นว่า “คนตระกูลฉู่ยังมีความเป็นคนหรือเปล่า! มีใครปฏิบัติกับลูกสาวสองคนต่างกันขนาดนี้บ้าง”
“ถ้าให้ลูกสาวสองคนปรากฏตัวแบบนี้จริง คนอื่นคงคิดว่าลั่วลั่วเป็นสาวใช้ของฉู่หร่าน”
เธอมองฮั่วเซียวหมิงที่กำลังโทรศัพท์ ก็พูดกำชับเสียงเบาว่า “จะให้ลั่วลั่วถูกเปรียบเทียบว่าด้อยกว่าไม่ได้!”