เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 254 ตัดสินให้หนู
บทที่ 254 ตัดสินให้หนู
ฉู่ลั่วเลิกคิ้ว “…อะไรคะ?”
“ถ้าลูกไม่พอใจชุดราตรีที่แม่เตรียมเอาไว้ให้ก็บอกแม่มาตรง ๆ สิ ทำไมต้องให้คนอื่นมาตบหน้าแม่แบบนี้”
“ลูกทำแบบนี้ จะให้คนอื่นมองแม่ยังไง!?”
ฉู่ลั่วมองซ่งเชียนหย่าที่กำลังโกรธ ก่อนจะหันไปหาฉู่หร่าน “อะไรคือมองยังไงนะ?”
ซ่งเชียนหย่าชี้ไปที่ชุดราตรีชุดนั้น “ลูกให้ตระกูลฮั่วส่งชุดมาให้หมายความว่ายังไง ไม่ใช่ว่าไม่พอใจชุดที่แม่เตรียมให้หรอกเหรอ?”
“ลูกรู้ไหมว่าชุดราตรีของลูกราคาเท่าไหร่? แต่ละตัวราคาห้าล้านกว่าหยวน! แม่เตรียมไว้ให้ลูกห้าชุด ห้าชุดเชียวนะ! แต่ลูกยังไม่พอใจอีก”
“แม่บอกแล้วว่าจะหาบริษัททำผมมาให้ และยังเป็นบริษัทที่เคยทำผมให้คุณยายของลูกด้วย ทำไมลูกต้องหาทีมช่างทำผมจากที่อื่นมาอีก?”
ฉู่หร่านที่อยู่ด้านข้างประคองซ่งเชียนหย่า พลางมองชุดราตรีชุดนั้นด้วยความอิจฉา “ลั่วลั่ว ชุดราตรีชุดนี้เธออย่าใส่เลยนะ ถึงชุดที่คุณแม่เตรียมไว้ให้จะไม่แพงเท่าชุดนี้ แต่ก็มาจากความตั้งใจของคุณแม่นะ!”
“ชุดนี้เอาไว้มีโอกาสครั้งหน้าค่อยเอามาใส่”
พูดจบแววตาของฉู่หร่านก็ดุร้ายขึ้นมาครู่หนึ่ง แปลได้ว่า…
ไม่มีโอกาสต่อไปอีกแล้ว ชุดนี้ควรเป็นของฉัน!
แต่ไหนแต่ไรก็เป็นแบบนี้ สิ่งที่ดีที่สุด จะต้องเป็นของเธอเสมอ
ของพวกนี้ ฉู่ลั่วมีสิทธิ์อะไรได้มันไป
ขณะที่กำลังพูด พ่อบ้านหยางก็เข้ามาอีกครั้งด้วยสีหน้าอธิบายไม่ถูก “คุณผู้หญิง คุณชายซ่งกับคุณนายซ่งมาครับ”
ซ่งเชียนหย่าข่มความโกรธ “มาเช้าขนาดนี้เชียวหรือ งานเลี้ยงวันเกิดจัดตอนเย็นนะ!”
ว่าแล้วก็ดึงฉู่หร่านไป “ไป ไปรับแขกกัน”
พ่อบ้านหยางหัวเราะแห้ง ๆ สองครั้ง “คุณชายซ่งกับคุณนายซ่งมาหาคุณหนูลั่วครับ”
ฉู่ลั่วเดินลงมาพร้อมกัน
หลังจากที่ซ่งจือหนานทักทายซ่งเชียนหย่ากับฉู่หร่านด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร ก็เข้าไปหยุดตรงหน้าฉู่ลั่วด้วยท่าทางกระดี๊กระด๊า “พี่ลั่ว ดูสิว่าพวกเราเอาอะไรมาให้?”
“แม่ของผมตั้งใจหาดิไซเนอร์มาออกแบบชุดให้คุณโดยเฉพาะเลยนะ แล้วก็มีเครื่องประดับเข้าคู่กันด้วย!” ซ่งจือหนานจงใจเลิกคิ้ว “โอ้ ใช่แล้ว ยังมีทีมช่างทำผมมืออาชีพด้วย”
ทางด้านนั้นซ่งเชียนหย่ากำลังคุยกับฉิงจื่อฉิง เมื่อรู้จุดประสงค์ที่พวกเขามา สีหน้าของซ่งเชียนหย่าก็ย่ำแย่ลงทันที
เธอขมวดคิ้ว “จื่อฉิง เราก็สนิทกันดี ฉันเองก็พูดอยู่ตลอด แล้วนี่เธอกำลังคิดจะทำให้แม่ลูกขัดแย้งกันใช่ไหม!”
ฉิงจื่อฉิงชะงักไป “เชียนหย่า เธอกำลังพูดอะไร!?”
“ฉันเป็นแม่ของฉู่ลั่ว จะปฏิบัติกับฉู่ลั่วแย่ ๆ ได้ยังไง? ฉันเตรียมชุดราตรีไว้ให้แล้ว เธอไม่เห็นที่ฉันโพสต์ลงในโมเมนต์วีแชตเหรอ? ฉันเตรียมทีมช่างทำผมให้ฉู่ลั่วแล้วด้วย!”
ยิ่งพูด ซ่งเชียนหย่าก็ยิ่งเจ็บปวด
เธอดีกับฉู่ลั่วขนาดนี้แล้ว ทำไมในสายตาของฉู่ลั่ว… ในสายตาของคนเหล่านี้ เธอดูเหมือนคนที่ปฏิบัติต่อลูกสาวไม่ดีเอาเสียเลย
“หร่านหร่านมีชุดราตรีแค่ชุดเดียว ฉู่ลั่วกลับได้ตั้งห้าชุด เพราะฉันไม่รู้ใจฉู่ลั่วมากพอ เลยเตรียมเอาไว้ให้หลายชุด จะได้ดูว่าลั่วลั่วเหมาะกับชุดราตรีสไตล์ไหน”
“ฉันเชิญทีมช่างทำผมมาให้ลั่วลั่ว และยังเป็นช่างที่แม่ของฉันเคยใช้ด้วย”
ซ่งเชียนหย่าพูดไป ก็เช็ดหางตาไปด้วย “ฉันยังดีกับลั่วลั่วไม่มากพออีกเหรอ?”
ได้ยินอีกฝ่ายร้องไห้คร่ำครวญ สีหน้าของฉิงจื่อฉิงก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไป
เธอดึงมือกลับมา “ฉันเห็นในโมเมนต์แล้วละ ฉันไม่ได้เห็นแค่โพสต์นั้นโพสต์เดียว แต่ฉันยังเห็นที่เธอโพสต์รูปฉู่หร่านด้วย”
ซ่งเชียนหย่ายังคงสะอื้น “ถ้าอย่างนั้นเธอคงเห็นแล้ว ลั่วลั่วมีห้าชุด แต่หร่านหร่านมีแค่ชุดเดียว หร่านหร่านอุตส่าห์ยอมให้ลั่วลั่วขนาดนี้แล้ว!”
เธอรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมจริง ๆ
ทำไมในสายตาของพวกเขา เธอดูเหมือนคนไม่ดีที่ไม่รักลูกสาวแท้ ๆ ของตัวเองไปได้
เธอยังดีกับฉู่ลั่วไม่มากพอเหรอ?
ฉิงจื่อฉิงมองฉู่ลั่วที่มีสีหน้าเย็นชาซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ปวดใจเป็นอย่างมาก
เธอเดินเข้าไปจับมือฉู่ลั่ว แล้วลูบเบา ๆ เป็นการปลอบใจ “ป้าฉิงจะตัดสินให้หนูเอง”