เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 256 ปฏิบัติกับฉู่ลั่วไม่ดี
บทที่ 256 ปฏิบัติกับฉู่ลั่วไม่ดี
“เชียนหย่า ฉันก็คาดเดาได้ ช่วงนี้เธออาจจะยุ่งเกินไป ก็เลยลืมไปแล้ว” ฉิงจื่อฉิงก้มหน้าระงับความทุกข์ใจ ก่อนจะเผยรอยยิ้ม “ฉันก็เลยเอาชุดราตรีมาให้ตั้งแต่เช้า”
ฉิงจื่อฉิงส่งสัญญาณให้คนที่อยู่ด้านหลังยกชุดราตรีออกมา “นี่เป็นชุดที่ฉันเชิญให้ปรมาจารย์ด้านการออกแบบชุดสไตล์จีนประยุกต์มาดิไซน์ให้ ต้องเหมาะกับหนูแน่นอน”
“เธอน่าจะไม่สนใจชุดนี้หรอกค่ะ” ฉู่หร่านกระซิบเสียงเบา
“อะไรนะ?”
ฉู่หร่านยิ้มหวาน “ป้าฉิงคะ ป้าไม่รู้ใช่ไหมคะ เช้าวันนี้ตระกูลฮั่วจากตี้จิงให้คนเอาของมาให้ฉู่ลั่ว มีทั้งชุดราตรีทั้งเครื่องประดับ”
“ที่ทางนั้นส่งมาให้เป็นชุดราตรีที่เป็นผลงานที่น่าภูมิใจของรีเบคก้า”
“เป็นของจากตระกูลฮั่วแห่งตี้จิงเลยนะคะ!”
เธอลอบมองฉิงจื่อฉิง หวังจะเห็นสีหน้าย่ำแย่ของอีกฝ่าย
ใครจะคิดว่าฉิงจื่อฉิงจะดวงตาเป็นประกาย “จริงเหรอ? แบบนั้นก็ดี สองพี่น้องออกงานพร้อมกัน สวมชุดที่รีเบคก้าออกแบบทั้งคู่ ดีเลย!”
“ตระกูลฮั่วแห่งตี้จิง? ใช่ตระกูลฮั่วที่ป้าคิดหรือเปล่า”
“ทำไมตระกูลฮั่วถึงส่งชุดราตรีมาให้ลั่วลั่วล่ะ?”
“เพราะลั่วลั่วช่วยใครในตระกูลเขาเอาไว้หรือเปล่า”
“ลั่วลั่วเก่งมากจริง ๆ!”
นอกจากฉิงจื่อฉิงจะไม่โกรธแล้ว เธอยังชมฉู่ลั่วอีกด้วย
ชมจนสีหน้าของฉู่หร่านดำมืดมนลงแล้ว
“ในเมื่อมีชุดราตรีของรีเบคก้าแล้ว ถ้าอย่างนั้นชุดราตรีนี้ก็ไม่ต้องแล้วละ ลั่วลั่วเก็บไว้ใส่ครั้งหน้านะจ๊ะ”
เธอให้คนนำเสื้อผ้าและเครื่องประดับไปไว้ในห้องแต่งตัวของฉู่ลั่ว
ใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมา “ลั่วลั่ว ถ้าอย่างนั้นป้าฉิงจะมางานวันเกิดของหนูกับหร่านหร่านในตอนเย็นนะ!”
ฉู่ลั่วพยักหน้าเล็กน้อย “ค่ะ”
ฉิงจื่อฉิงล่ำลาซ่งเชียนหย่ากับคนอื่น ก่อนจะพาซ่งจือหนานกลับไป
ก่อนเด็กหนุ่มจะไป เขากวักมือเรียกฉู่ลั่ว “พี่ลั่ว รอได้เลย ผมเตรียมเซอร์ไพรส์เอาไว้ให้คุณด้วย!”
จนกระทั่งคนตระกูลซ่งกลับไปแล้ว
ฉู่เหว่ยฮ่าวจึงถอนหายใจออกมา “ผมไปบริษัทสักพักนะ จะกลับมาตอนบ่าย เรื่องงานเลี้ยงกลางคืนก็ให้เป็นหน้าที่ของคุณไปก่อน”
เขาจับมือซ่งเชียนหย่า ทั้งเหนื่อยใจและกำชับว่า “ลั่วลั่วกับหร่านหร่านเป็นลูกสาวของพวกเราทั้งคู่ รู้ใช่ไหม?”
ซ่งเชียนหย่าเงียบงัน “…”
แม้แต่สามีก็คิดว่าเธอปฏิบัติต่อฉู่ลั่วไม่ดีอย่างนั้นเหรอ?
ซ่งเชียนหย่าไม่สบายใจยิ่งกว่าเดิม
กลับมาที่ห้อง ฉู่หร่านมองดูชุดราตรีของตนเอง เมื่อวานเธอยังภูมิใจว่างานเลี้ยงกลางคืน ตัวเองจะข่มฉู่ลั่วเอาไว้ได้
แต่ตอนนี้เมื่อนึกถึงงานเลี้ยงตอนเย็นที่ฉู่ลั่วได้สวมชุดไนต์เดวิล แต่เธอสวมแค่ชุดเจ้าหญิงที่ไม่มีใครเทียบ ถึงแม้จะเป็นฝีมือของดิไซเนอร์คนเดียวกัน
แต่เธอรู้ดี ชุดราตรีสองชุดนี้ราคาแตกต่างกัน
แบบนี้เท่ากับว่าเธอแพ้ให้ฉู่ลั่วอย่างราบคาบแล้วใช่ไหม?
ฉู่หร่านมองตัวเองในกระจก ใบหน้าสวยหวานเผยให้เห็นถึงสีหน้าบิดเบี้ยวน่ากลัว
ผ่านไปพักหนึ่ง เธอถึงถอนหายใจออกมาแรง ๆ
พลางพูดต่อหน้ากระจกอย่างโหดเหี้ยมว่า “ฉู่ลั่ว ทำไมเธอยังมีชีวิตอยู่อีก? ทำไมเธอไม่ตายไปซะ!?”
ชั้นสาม…
ฉู่ลั่วที่กำลังหลับตาบำเพ็ญพลังวิญญาณ ก็ลืมตาขึ้นมากะทันหัน
เธอมองตรงไปข้างหน้าด้วยสีหน้าเย็นชา
เฉิงยวนรับรู้ได้ถึงความผิดปกติของเธอ จึงถามว่า “ทำไมสีหน้าดูแย่ขนาดนั้นล่ะ?”
ฉู่ลั่วส่ายหน้า เธอยกมือขึ้นมาคำนวณ ก่อนหลับตาลงเล็กน้อย
เคราะห์กรรมถึงชีวิต!
เป็นเคราะห์กรรมถึงชีวิตจริงด้วย!
วันนี้เป็นวาระเคราะห์กรรมถึงชีวิตของเธอ
ไม่นาน เธอก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองดูท้องฟ้าอันสดใสด้านนอก
ท้องฟ้าสีฟ้าคราม มีเพียงดวงอาทิตย์สุกสกาวแสบตาอยู่ดวงเดียว
สวรรค์จะนำเคราะห์ถึงชีวิตแบบไหนมาให้เธอกันนะ?
ตกเย็น…
ด้านนอกของคฤหาสน์ตระกูลฉู่เริ่มมีรถขับเข้ามาไม่ขาดสาย แขกต่างก็ทยอยเข้ามากันแล้ว
ฉู่ลั่วเปลี่ยนมาใส่ชุดราตรีเรียบร้อย ทีมช่างทำผมกำลังทำผมและแต่งหน้าให้เธอ
“พี่ลั่วลั่วสวยมากเลยค่ะ” ซ่งเมี่ยวเมี่ยววนรอบตัวฉู่ลั่ว
เฉิงยวนก็ส่งเสียงพอใจออกมาสองครั้ง ทั้งยังเอ่ยชมไม่ขาดปาก “ตอนที่เจ้าไม่แต่งตัวก็ดูดีอยู่แล้ว พอแต่งตัวแบบนี้ยิ่งดูดีขึ้นไปอีก”
เสียดายที่สภาพตอนนี้เธอไม่สามารถใช้โทรศัพท์มือถือได้ ไม่อย่างนั้นเธอคงถ่ายส่งให้ฮั่วเซียวหมิงแล้ว
ขณะที่กำลังคิด โทรศัพท์ของฉู่ลั่วก็ดังขึ้นมา บนหน้าจอปรากฏชื่อ ฮั่วเซียวหมิง สามคำนี้
ฉู่ลั่วเหลือบมองก่อนจะรับสาย เสียงทุ้มของฮั่วเซียวหมิงที่อยู่ปลายสายดังขึ้น “เครื่องบินดีเลย์นะ ผมอาจจะไปถึงช้าหน่อย”
เธอตอบรับไปหนึ่งคำ
“ชอบชุดราตรีไหม?”
“มันดูดีมาก”
“แล้วคุณชอบไหม?”
ฉู่ลั่วมองตัวเองในกระจก ชุดราตรีหรูหรากับเครื่องประดับเข้าคู่กัน ทั้งการแต่งหน้าที่ยอดเยี่ยม
เธอคนนี้ไม่ว่าจะในชาติก่อนหรือในแดนเซียน ก็ไม่เคยเห็นตัวเองแบบนี้มาก่อน
ทั้งรู้สึกไม่คุ้นแคยและแปลกประหลาด
“ไม่ชอบเหรอ?” เสียงฮั่วเซียวหมิงที่อยู่ปลายสายดังขึ้นมา
ฉู่ลั่วส่ายหน้า เมื่อนึกได้ว่าเขามองไม่เห็นจึงพูดว่า “ไม่ใช่ไม่ชอบ แค่ไม่ชินน่ะ”
“ไม่นานผมก็ไปถึงแล้ว” เสียงของเขาทุ้มแต่ก็มีแววขบขัน “อย่าลืมเรื่องที่คุณสัญญากับผมไว้ล่ะ”
มือของฉู่ลั่วที่กำโทรศัพท์ไว้ บีบแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว “อืม! ฉันจำได้”
“รอผมนะ!”
“อืม”