เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 259 ฉู่ลั่วอับอาย
บทที่ 259 ฉู่ลั่วอับอาย
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดัง โดรนลำหนึ่งที่อยู่กลางอากาศร่วงลงมา ก่อนจะมีอีกหลายลำร่วงลงมาเรื่อย ๆ!
“กรี๊ด!”
“รีบเข้าไป รีบเข้าไป!”
“ระวังหล่นใส่คน”
“ทำอะไรเนี่ย!”
บรรดาแขกต่างก็กรูกันเข้าไปในคฤหาสน์
มีเพียงซ่งจือหนานที่ยืนอยู่ด้านนอกด้วยสีหน้าย่ำแย่ เขามองดูโดรนที่ตกลงมาตรงหน้าก็หยิบวิทยุสื่อสารออกมา พร้อมตะโกนอย่างร้อนใจ “เกิดอะไรขึ้น?”
คนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ซึ่งอยู่อีกด้านทำอะไรไม่ถูก “ไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ โดรนก็เสียการควบคุมครับ บางทีแถวนี้อาจจะมีสัญญาณรบกวน!”
“คุณชายซ่ง พวกเราก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน!”
คนที่รับผิดชอบแทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว
ซ่งจือหนานด่าอยู่ในใจ
เขาหันไปมองฉู่ลั่วด้วยใบหน้ารู้สึกผิด “พี่ลั่ว ผมขอโทษครับ! ผม… ผมไม่รู้เลย!”
น้องชายคนนี้เตรียมการมาอย่างดีก็เพื่อจะเชิดหน้าชูตาให้ฉู่ลั่ว คิดไม่ถึงว่า…
เขาอยากจะต่อยตัวเองจริง ๆ
ฉู่ลั่วมองโดรนที่แตกกระจายอยู่บนพื้น ก่อนส่ายหน้าเบา ๆ “ไม่ใช่ความผิดของนาย”
เธอเงยหน้าขึ้นช้า ๆ มองไปยังท้องฟ้าที่มืดมิด
แต่เป็นสวรรค์ต่างหาก…
เป็นมันนั่นเอง!
ฉู่ลั่วกับซ่งจือหนานกลับเข้าไปในคฤหาสน์ โดยคนรอบข้างต่างก็วิจารณ์กันเสียงเบา
“เล่นอะไรก็ไม่รู้!”
“ถ้าโดนคนเข้าล่ะแย่แน่!”
“ฉันตกใจแทบตาย!”
ซ่งจือหนานสีหน้าย่ำแย่มาก แต่ฉู่ลั่วกลับมีสีหน้าเรียบเฉย
ฉู่หร่านจับกระโปรงเดินเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วง “ลั่วลั่ว ไม่เป็นอะไรใช่ไหม!”
“ไม่เป็นอะไร”
ฉู่หร่านคว้ามือเธอไว้ด้วยสีหน้าอ่อนโยน “ดีแล้ว อย่าเสียใจไปเลยนะ! เดี๋ยวพี่สาวแบ่งของขวัญให้เธอแล้วกัน พี่สาวมีของขวัญเยอะมาก”
เธอคว้ามือของฉู่ลั่ว แล้วพาไปยังที่ของตนเองที่อยู่ด้านข้าง
ลูกหลานคนรวยในเมืองเจียงรวมถึงเพื่อนในวงการบันเทิง ต่างก็ให้ของขวัญกับฉู่หร่าน
รับมาชิ้นแล้วชิ้นเล่า จนกลายเป็นกองของขวัญขนาดใหญ่ด้านหลังฉู่หร่าน
“หร่านหร่าน นี่เป็นของขวัญที่พวกเราให้เธอ เธอจะยกให้คนอื่นตามใจไม่ได้สิ! ไม่อย่างนั้นพวกเราจะโกรธนะ”
“ก็ใช่!”
“นี่เป็นของขวัญที่ให้เธอ ต่อให้เป็นพี่น้องของเธอก็เอาไปไม่ได้!”
“มีใครที่ไหนอยากได้ของขวัญวันเกิดของคนอื่นบ้าง!”
ฉู่หร่านมองพวกเขาด้วยสีหน้าลำบากใจ ก่อนจะมองไปที่ฉู่ลั่วอีกครั้ง “ลั่วลั่ว ขอโทษนะ! ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากให้ของขวัญพวกนี้กับเธอ แต่เพราะพวกเขาไม่ยอม”
“คนแบบไหนกันเนี่ย อยากได้ของขวัญวันเกิดของพี่สาวตัวเอง!”
“ใช่แล้ว!”
“ได้ยินมาว่าเธอถูกเลี้ยงดูข้างนอกมาตลอด คงไม่เคยได้รับการอบรมสั่งสอน จะมีนิสัยโลภมากก็คงไม่แปลกอะไร!”
ฉู่ลั่วมองคนที่อยู่ตรงหน้าเงียบ ๆ เงี่ยหูฟังที่พวกเขาพูด
พลางเลื่อนสายตาช้า ๆ ก็เห็นสีหน้าโกรธเคืองของพี่ชายจากตระกูลฉู่ทั้งสองคน เห็นฉู่เหว่ยฮ่าวกับภรรยาที่กำลังไม่พอใจ …เห็นความอวดดีในแววตาของฉู่หร่าน
เธอดึงสายตาตัวเองกลับมา “ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันไม่เคยพูดว่าอยากได้ของขวัญของเธอ เธอเองไม่ใช่เหรอที่บอกว่าจะให้ฉัน?”
ฉู่หร่านชะงักไป “ฉันแค่เห็นว่าเธอ… ไม่มีของขวัญ ก็เลยอยากให้เธอน่ะ”
“เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันเต็มใจรับไว้หรือเปล่า ก็สัญญาแล้วว่าจะให้ของขวัญกับฉันแล้ว” ฉู่ลั่วถามกลับ
ฉู่หร่านชะงักไปอีกครั้ง
นักแสดงหญิงคนหนึ่งหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “เธอหมายความว่ายังไง! หร่านหร่านหวังดีกลัวว่าเธอจะเสียหน้า ตอนนี้กลับมาโทษที่หร่านหร่านไม่ยอมให้ของขวัญเธอ? มีใครเป็นแบบเธอบ้าง?”
“ฉันก็แค่พูดความจริง” ฉู่ลั่วเอ่ย
“ความจริงอะไร? ความจริงคือเธอปฏิเสธความหวังดีของหร่านหร่านอย่างโหดร้าย”
“เธออยู่ในบ้านตระกูลฉู่คงไม่ได้รังแกหร่านหร่านหรอกใช่ไหม!”
“ฉันจะบอกเธอให้นะ หร่านหร่านเป็นเพื่อนสนิทของพวกเรา!”
ฉู่เหว่ยฮ่าวก้าวออกมา แล้วดึงฉู่ลั่วไปข้าง ๆ เขากดเสียงต่ำพูดเตือนว่า “อย่าก่อเรื่อง! ของขวัญพวกนั้นเป็นของที่เพื่อนของหร่านหร่านให้ เป็นของขวัญของหร่านหร่าน! ถ้าลูกอยากได้ รอให้งานเลี้ยงจบก่อน แล้วจะซื้อให้!”
ซ่งเชียนหย่าเองก็เดินออกมา “ลั่วลั่ว วันนี้เป็นวันสำคัญมาก อย่าก่อเรื่องวุ่นวายเลยนะ”
ฉู่ลั่วเลิกคิ้วมองคนรอบกาย “…”
ซ่งจือหนานเลือดขึ้นหน้าด้วยความร้อนใจ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉู่หร่านชัด ๆ ทำไมถึงได้โทษฉู่ลั่วกันล่ะ!
คนตระกูลฉู่เป็นอะไรกันแน่?
คนพวกนี้เป็นอะไรกันไปหมด?
หรือพวกเขามองไม่เห็นเหรอว่าฉู่หร่านแกล้งทำตัวน่าสงสาร?
หรือพวกเขามองไม่ออกว่าฉู่หร่านกำลังทำให้ฉู่ลั่วอับอาย?