เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 26 วิสัยทัศน์แคบเกินไป
บทที่ 26 วิสัยทัศน์แคบเกินไป
เหยาซุ่ยกลับพูดอย่างอวดดีว่า “ฮ่า ฮ่า ฮ่า! นังเด็กนี่น่ะเหรอจะแก้คำสาปดอกท้อพิฆาตได้ ประเมินหล่อนสูงเกินไปหน่อยมั้ง!”
ซ่งจือหนานโกรธและเจ็บแค้นจนอยากจะเตะหญิงคลุ้มคลั่งสักครั้ง “พี่ลั่ว คุณมีวิธีไหม?”
ถ้าไม่มีวิธี ก็ฆ่าผู้หญิงชั่วคนนี้ไปเลย!
ฉู่ลั่วเดินหน้าตาถมึงทึงไปตรงหน้าเหยาซุ่ย แต่อีกฝ่ายไม่กลัวแม้แต่น้อย
คนที่สอนคำสาปดอกท้อพิฆาตให้เธอเป็นปรมาจารย์ลัทธิเต๋าที่เก่งกาจมาก
เธอไม่เชื่อว่าเด็กสาวอายุน้อยแบบฉู่ลั่วจะเก่งกว่า
ฉู่ลั่วจ้องเหยาซุ่ยครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมา “คุณคิดว่าฉันแก้คำสาปดอกท้อพิฆาตไม่ได้ใช่ไหม?”
เหยาซุ่ยไม่ตอบ “…”
“คนที่ให้คำสาปดอกท้อพิฆาตกับคุณได้บอกหรือเปล่า ว่าผลสะท้อนกลับของคำสาปดอกท้อพิฆาตรุนแรงมาก” เด็กสาวเยื้องย่างรอบตัวอีกฝ่าย
เมื่อเดินไปถึงด้านหลังของเหยาซุ่ย ก็ใช้นิ้วชี้จิ้มลงไปเบา ๆ ตรงศีรษะ “คุณฝ่าฝืนโชคชะตา เปลี่ยนแปลงลิขิตสวรรค์อย่างไม่ยั้งคิด ราคาที่ต้องจ่ายมันมหาศาลมากนะ”
เหยาซุ่ยรู้สึกว่านิ้วที่กดลงบนศีรษะของตนเองนั้น เหมือนหนักพันชั่ง
“เป็นไปไม่ได้! แกไม่มีทางแก้คำสาปดอกท้อพิฆาตได้” เธอคิดจะขัดขืน แต่พบว่านอกจากปาก ก็ไม่มีส่วนไหนของร่างกายที่ขยับได้อีก
ฉู่ลั่วเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “เธอคิดจะตายไปพร้อมคุณลุงซ่ง แล้วไปครองรักกันในนรกเหรอ?”
เหยาซุ่ยคิดไม่ถึงว่าฉู่ลั่วจะล่วงรู้ถึงความคิดนี้ หญิงคลุ้มคลั่งตกใจจนดวงตาเบิกโพล่ง “แก… แกรู้ได้ยังไง?”
ฉู่ลั่วไม่ได้ตอบคำถาม แต่พูดกับซ่งอวิ๋นชิงว่า “คุณลุงซ่ง หนูอยากได้เลือดของคุณสักหนึ่งหยดค่ะ”
“ได้ ๆๆ รอเดี๋ยวนะ”
เขาพุ่งตัวไปยังโต๊ะที่อยู่ด้านข้าง หยิบมีดปอกผลไม้ขึ้นมา กำลังจะกรีดไปที่ปลายนิ้วของตัวเอง
ดูแล้วไม่เหมือนจะเอาเลือดแค่หนึ่งหยด แต่เหมือนจะตัดนิ้วออกมาเสียมากกว่า!
“หยดเดียวก็พอค่ะ…”
รู้แล้วว่าซ่งจือหนานได้นิสัยชอบเล่นใหญ่มาจากใคร
ฉิงจื่อฉิงคว้ามีดปอกผลไม้จากมือซ่งอวิ๋นชิง สะกิดที่ปลายนิ้วของเขาเบา ๆ ให้เลือดไหลออกมาหนึ่งหยด
ยันต์แผ่นหนึ่งลอยออกมาจากมือฉู่ลั่ว มันเกาะกับหยดเลือดนั้นราวกับมีสติรับรู้ ก่อนจะกลับไปอยู่ในมือเธออย่างรวดเร็ว
ฉู่ลั่วใช้เลือดหยดนั้นวาดลงไปบนกระดาษยันต์สีเหลือง
เมื่อวาดเสร็จ กระดาษยันต์ก็มีแสงสีทองส่องประกายออกมา
“พ่อครับ แม่ครับ เห็นหรือเปล่า? มันคืออันนี้แหละ แสงอันนี้เลย! มันเหมือนเอฟเฟกต์พิเศษมาก น่าทึ่งมากใช่ไหม เท่มากเลยใช่ไหม!” ได้เห็นปรากฏการณ์แปลกประหลาดนี้อีกครั้ง ซ่งจือหนานตื่นเต้นจนแทบจะกระโดดโลดเต้น
เขาถูกซ่งอวิ๋นชิงทุบไปหนึ่งที “หุบปาก!”
ตอนนี้ใช่เวลามาพูดถึงเอฟเฟกต์พิเศษเหรอ?
เหยาซุ่ยถูกฉู่ลั่วควบคุมไว้ ทำได้เพียงกรอกตาไปมา และพูดด้วยความกลัวปนตื่นตระหนก “แกแก้คำสาปดอกท้อพิฆาตไม่ได้หรอก! ท่านปรมาจารย์เคยบอกแล้ว คำสาปดอกท้อพิฆาตนี้ ทั้งโลกมีเขาคนเดียวที่แก้ได้”
“ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า… ปรมาจารย์คนนั้นวิสัยทัศน์แคบเกินไป” เมื่อฉู่ลั่วพูดจบ ยันต์บนมือเธอก็แปะเข้าที่ศีรษะของหญิงคลุ้มคลั่ง
ทันใดนั้น ร่างกายของเหยาซุ่ยก็ปรากฏด้ายแดงสายหนึ่ง
ตามมาด้วยเส้นสีแดงอีกหลายร้อยหรืออาจจะหลายพันเส้นปรากฏขึ้นกลางอากาศ
ปลายของด้ายแดงพันรอบศีรษะของเหยาซุ่ย
ส่วนปลายด้ายอีกด้านหนึ่งพันอยู่รอบตัวซ่งอวิ๋นชิง
คอของเขา แขนของเขา ขาของเขา…
ราวกับว่าเขาถูกด้ายแดงพันเอาไว้ตั้งแต่หัวจรดเท้า!
“อ้าก!” พวกซ่งจือหนานเองก็เห็นภาพประหลาดนี้เช่นกัน พวกเขากระโดดโหยงด้วยความตกใจ
ซ่งอวิ๋นชิงยื่นมือออกไปดึงด้ายแดงพวกนั้น
ใครจะรู้ว่าพอดึงด้ายแดง เขาจะรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา
เหยาซุ่ยเองก็เจ็บ แต่นอกจากความเจ็บปวดในดวงตาของเธอ ยังมีความบ้าคลั่งเพราะแผนการประสบผลสำเร็จอีกด้วย “พี่อวิ๋นชิง ไม่มีประโยชน์หรอก ด้ายแดงพวกนี้ตัดไม่ขาด ก็เหมือนกับโชคชะตาของพวกเราที่ไม่มีวันตัดขาดไงล่ะ…”
ฉึบ!
พูดไปได้ครึ่งหนึ่ง ด้ายแดงนับพันเส้นก็ถูกแสงสีทองตัดจนขาด ก่อนจะร่วงลงบนพื้นเพราะสิ้นฤทธิ์
เหยาซุ่ยที่กำลังบ้าคลั่งเพราะได้ใจตกตะลึงอยู่กับที่ราวกับถูกจี้จุด