เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 260 คนตระกูลฉู่ตาบอดหรือเปล่า?
บทที่ 260 คนตระกูลฉู่ตาบอดหรือเปล่า?
ซ่งจือหนานจะพุ่งตัวเข้าไป แต่ถูกฉิงจื่อฉิงดึงเอาไว้ “ลูกเข้าไปตอนนี้ มีแต่จะทำให้ลั่วลั่วอับอายมากกว่าเดิม!”
“ถ้าอย่างนั้นต้องมองดูพวกเขารังแกพี่ลั่วเหรอครับ?”
ซ่งอวิ๋นชิงถอนหายใจ “คนที่อยู่ในนี้มีแต่คนฉลาด คนตระกูลฉู่ยืนข้างฉู่หร่านกันหมด คนอื่นจะออกหน้าได้เหรอ? แกอย่าทำให้เรื่องมันวุ่นวายเลย จะยิ่งทำให้ลั่วลั่วแย่ไปอีก”
ซ่งจือหนานกัดฟัน
หลังจากเพื่อนให้ของขวัญเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาที่คนในครอบครัวจะให้ของขวัญ
ฉู่เหว่ยฮ่าวกับภรรยาหยิบเครื่องประดับเหมือนกันออกมา
ซ่งเชียนหย่าเปิดกล่องเครื่องประดับออก แล้วจงใจบอกกับฉู่ลั่วว่า “เห็นชัดแล้วใช่ไหม! ของที่ให้พวกลูกสองคนเหมือนกัน ไม่ได้ลำเอียง”
ก่อนจะชะงักไปเล็กน้อย ครุ่นคิดอยู่สักครู่แล้วจึงพูดว่า “ลูกเลือกก่อนสิ”
พูดจบ เธอก็หันไปยิ้มตาหยีให้ฉู่หร่าน “ให้ลั่วลั่วเลือกก่อนได้ไหมจ๊ะ?”
ฉู่หร่านทำหน้าไม่ใส่ใจ “ให้ลั่วลั่วเลือกก่อนเถอะค่ะ! ขอแค่เป็นของขวัญที่คุณพ่อคุณแม่ให้ หนูก็ชอบหมดเลย”
ภาพนี้ ทำให้เหล่าแขกในงานสีหน้าเปลี่ยนไปแล้ว
“ฉู่ลั่วคนนี้ร้ายเหมือนกันนะ!”
“เธอไม่เคยได้ยินเหรอ? ฉู่ลั่วคนนี้ชอบเอาไปพูดข้างนอกว่าตระกูลฉู่ลำเอียง แต่คุณนายฉู่ก็ไม่ได้ลำเอียงอะไรนี่”
“ก็ถูกเลี้ยงมาข้างถนน จะมีมารยาทอะไรล่ะ!”
“จะว่าไปนะ การอบรมสั่งสอนนี่สำคัญมาก ฉู่หร่านถูกพวกเขาเลี้ยงมาจนโต เป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนตัวจริงของตระกูลฉู่ จะสนใจของเล็กน้อยได้ยังไงกัน”
“เธอดูชุดราตรีที่ฉู่ลั่วใส่สิ ไม่รู้ว่าแพงกว่าฉู่หร่านตั้งกี่เท่า แค่นี้ก็รู้แล้วว่าฉู่หร่านมีชีวิตแบบไหนในบ้านตระกูลฉู่!”
“เฮ้อ! ถูกสลับตัว ก็ไม่ใช่ความผิดของฉู่หร่านนะ!”
“โหดร้ายเกินไปแล้ว!”
ต่อมาเป็นของขวัญจากพี่ชายทั้งสองของตระกูลฉู่
ฉู่จิงหยิบกล่องไม้จันทร์หอมกล่องหนึ่งส่งให้น้องสาวตัวจริง กระแทกเสียงว่า “กำไลหยกราคายี่สิบล้าน สุขสันต์วันเกิด!”
ฉู่ลั่วรับมาอย่างเฉยเมย
จากนั้นฉู่จิงก็หยิบกระบอกกลม ๆ ออกมาท่าทางตื่นเต้น พลางพูดกับฉู่หร่านด้วยสีหน้ามีลับลมคมใน “ลองเดาดูสิว่าคืออะไร?”
ฉู่หร่านนิ่งไปในตอนแรก ก่อนจะปิดปากตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อ “พี่รอง เป็น… เป็นรูปวาดของอาจารย์อู๋ใช่ไหมคะ?”
ฉู่จิงพยักหน้า
“พี่รอง! พี่ดีจังเลย!”
ฉู่จิงคลี่ภาพวาดออกรูปภาพของสาวงามสไตล์โบราณปรากฏต่อหน้าทุกคน
“ภาพวาดเหมือนฉู่หร่านมาก!”
“ก็ฉู่หร่านยังไงล่ะ!”
“สวยมากเลย!”
ฉู่จิงมอบภาพวาดนั้นให้ฉู่หร่าน เธอกอดเขาด้วยความดีใจพร้อมกับพูดว่า “พี่รอง หนูรักพี่มากเลยค่ะ หนูรักพี่ที่สุดเลย!”
ฉู่จิงลูบศีรษะของเธอ ใบหน้าอ่อนโยนมาก “เธอวางใจได้ เธอเป็นน้องสาวของพี่รองเสมอ ในใจพี่ เธอเป็นเจ้าหญิงของตระกูลฉู่เพียงคนเดียว ไม่ต้องกลัว ไม่ว่าใครที่มารังแกเธอ พี่รองจะยืนอยู่ข้างเธอ”
“พี่รอง ขอบคุณค่ะ!”
ฉู่หร่านยิ้ม …จากนั้นก็พูดอีกว่า “พี่รอง พี่อย่าพูดแบบนี้ ลั่วลั่วไม่ได้รังแกหนู”
ซ่งจือหนานกัดฟัน “ฉู่หร่าน นังงูพิษ เธอจงใจทำแบบนี้! จงใจให้คนมองพี่ลั่วไม่ดี”
ตอนแรกฉู่จิงไม่ได้เอ่ยว่าเป็นใคร แต่เมื่อฉู่หร่านพูดออกมาแบบนี้ ทุกคนจะคิดทันทีว่าฉู่ลั่วมักจะรังแกฉู่หร่านอยู่เสมอ
ตอนนี้ซ่งจือหนานถึงได้โกรธแทนฉู่ลั่ว
อ้าก ๆๆ
นังงูพิษนี่!
ทำไมก่อนหน้านี้เขาถึงไม่รู้เลยว่าฉู่หร่านเจ้าเล่ห์ขนาดนี้!
ฉู่จิงฉลาดมากไม่ใช่เหรอ?
ในวงการบันเทิง เขาได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้ชายที่มองคนได้ขาดไม่ใช่เหรอ?
ผู้หญิงร้ายกาจที่สุด เสแสร้งที่สุดอยู่ตรงหน้าเขา ทำไมถึงมองไม่ออกล่ะ!
ซ่งจือหนานโกรธจนหน้าบิดเบี้ยวแล้ว
ฉู่จ้านก็ส่งของขวัญไปให้ฉู่ลั่ว พูดจาประชดประชัน “วางใจได้ ของขวัญของเธอแพงกว่าหร่านหร่านแน่นอน!”
มันคือบ้านเดี่ยวริมแม่น้ำหลังหนึ่ง
ฉู่ลั่วรับมา ก่อนจะพูดขอบคุณเบา ๆ
ฉู่จ้านยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย
ก่อนจะหันไปเลิกคิ้วให้ฉู่หร่าน แล้วหยิบใบรับรองใบหนึ่งออกมา
ฉู่หร่านรับมา ก่อนดวงตาของเธอจะเบิกกว้าง “คำเชิญงานเดินพรมแดงของลาริซ่า! หนูเหรอคะ ให้หนูเหรอคะ?”
ฉู่จ้านเผยสีหน้าพอใจ “แน่นอนสิ! เธอบ่นอยู่ตลอดว่าอยากไปเดินพรมแดงของลาริซ่าไม่ใช่เหรอ? พี่ชายของเธอจัดการให้แล้ว สุดยอดเลยใช่ไหม!”
“สุดยอดเลยค่ะ! พี่สามเก่งที่สุดเลย หนูรักพี่จังเลย!”
ฉู่จ้านยิ้มอย่างภูมิใจ “ถ้าอย่างนั้นเธอรักพี่รองที่สุด หรือรักพี่สามที่สุด?”
“รักทุกคนเลย!”
“ไม่ได้ ต้องเลือกมาหนึ่งคน!”
ฉู่จิงเอามือกอดอก แสร้งทำท่าเหมือนโกรธ “เลือกมาหนึ่งคน! ใครคือพี่ชายที่เธอรักที่สุด?”
ฉู่หร่านขมวดคิ้วเป็นปม “หนูไม่เลือก หนูไม่เลือกหรอก! หนูรักพี่ชายทั้งสองคนเลย”
ฉู่จิงกับฉู่จ้านมองเจ้าหญิงของพวกเขาอย่างเหนื่อยใจ คนหนึ่งยกมือขึ้นลูบศีรษะเด็กสาว อีกคนก็บีบหน้าเธอเบา ๆ
“เธอเนี่ยนะ เผด็จการมาตั้งแต่เด็ก! ช่างเถอะ พวกพี่ชายรักน้องสาวคนนี้ที่สุด!”
พวกเขาสามพี่น้องสนิทสนมกันมาก ทำให้ฉู่ลั่วที่ยืนอยู่ด้านข้างดูโดดเดี่ยวอย่างเห็นได้ชัด
“คนตระกูลฉู่ใส่ใจมากเลยนะ” มีแขกพูดเยาะเย้ยออกมาเสียงเบา “คนโลภก็ให้เงิน คนรักครอบครัวก็ให้ความรัก ลงตัวทั้งสองทาง!”
“ไม่แน่ว่าฉู่ลั่วอาจจะดีใจมากก็ได้ เธอไม่ได้สนใจเรื่องความรักในครอบครัวอยู่แล้ว”
“จริง ๆ เลย”
ซ่งจือหนานยิ่งฟังก็ยิ่งประสาทจะกิน “…ผมโมโหจะตายแล้ว! ฉู่จิงกับฉู่จ้านเป็นคนยังไงกัน! นี่ไม่เท่ากับตบหน้าพี่ลั่วต่อหน้าคนอื่นเหรอ?”
“ต่อไปจะให้พี่ลั่วอยู่ในเมืองเจียงยังไง!”
“น่าโมโหจริง!”
“คนตระกูลฉู่ตาบอดกันหรือไง!?”