เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 27 ฟันร่วง
บทที่ 27 ฟันร่วง
ด้ายแดงขาดแล้วจริง ๆ!
“เป็นไปไม่ได้! ท่านปรมาจารย์เคยบอกไว้ว่า ด้ายแดงพวกนี้ นอกจากเขาแล้ว ทั้งโลกไม่มีใครทำให้มันขาดได้” เหยาซุ่ยหยิบด้ายแดงที่สีค่อย ๆ จางลงเหล่านั้น พลางร้องคร่ำครวญราวกับจะเป็นจะตาย
ซ่งจือหนานเห็นแบบนั้น ก็โผล่หน้าออกมาจากข้างหลังบอดี้การ์ด “ปรมาจารย์อะไรกัน ต้องเป็นพวกของเก๊แน่นอน พี่ลั่วของฉันต่างหากที่เป็นปรมาจารย์ที่แท้จริง!”
“อ้ากกกก!”
เขาพูดจบ ก็มีเสียงน่าสะพรึงกลัวดังขึ้นมาอีกครั้ง
ตามมาด้วยเสียงหอบหายใจก็ดังก้องไปทั่วห้องรับแขก
ด้ายแดงที่เหยาซุ่ยถือไว้ในมือ พริบตาเดียวก็กลายเป็นสีแดงเข้มเหมือนเลือดสด เธอในตอนนี้ราวกับนั่งอยู่บนกองเลือดสดไม่มีผิด
ร่างกายของเหยาซุ่ยค่อย ๆ แก่ชราลงจนมองเห็นได้ชัดเจน
ผมขาวโพลน ผิวหนังเหี่ยวย่น
อายุของเธอดูเหมือนผ่านไปเป็นสิบกว่าปีในชั่วพริบตา
“กรี๊ด! เกิดอะไรขึ้นกับฉัน ทำไมถึงเป็นแบบนี้?” เหยาซุ่ยลูบใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นด้วยความตื่นตระหนก และมองดูตัวเองที่กำลังเน่าเปื่อย
พอจะอ้าปาก ฟันหลายซี่ก็หลุดร่วง และถูกพ่นออกมาขณะพูด
“ที่แท้นี่ก็คือยายแก่ฟันร่วงสินะ!” ซ่งจือหนานอดจะพูดแขวะไม่ได้ ทั้งยังรู้สึกขยะแขยงจนส่งเสียงเหมือนจะอาเจียน
ซ่งอวิ๋นชิงกอดฉิงจื่อฉิงเอาไว้แน่น ไม่อยากให้ภรรยาเห็นภาพนี้
ซ่งจือหนานหรี่ตา “…”
ใช่สิ พวกพ่อแม่คือรักแท้ ส่วนลูกชายอย่างผมคือความบังเอิญใช่ไหม!
บอดี้การ์ดกับคนรับใช้ที่อยู่ในห้องรับแขกต่างทนไม่ไหว ต้องอาเจียนออกมา
มีเพียงฉู่ลั่วที่สีหน้าเรียบเฉย
ไม่เพียงแต่ไม่แสดงอาการ แต่เด็กสาวยังเดินเข้าไปหาเหยาซุ่ยด้วยซ้ำ ตอนที่เดินไปถึงขอบรอยเลือด เธอก็หยุดนิ่ง
“คุณพยายามฝ่าฝืนลิขิตสวรรค์โดยไม่ยั้งคิด เปลี่ยนแปลงชะตาฟ้า นี่คือราคาที่คุณต้องจ่าย”
ดวงตาขุ่นมัวทั้งสองข้างของเหยาซุ่ย มองไปยังฉู่ลั่วที่อยู่ตรงหน้า
ร่างกายที่เสื่อมโทรม จมูกบิดเบี้ยว ดูเหมือนแม่มดในยุคกลาง
“แต่ว่า คุณยังมีโอกาสอยู่นะ”
แสงสว่างที่เคยหายไปในดวงตาของเหยาซุ่ยสว่างขึ้นมาอีกครั้ง มองไปที่เด็กสาวด้วยตาเป็นประกาย
ซ่งจือหนานได้ยินก็รีบกระโดดออกมา “พี่ลั่ว คนชั่วแบบนี้อย่าไปให้โอกาสอีกเลย! ให้เธอตายไปเถอะ!”
ซ่งอวิ๋นชิงห้ามซ่งจือหนานไว้ “ฟังที่ลั่วลั่วบอก แกอย่าเข้าไปยุ่ง”
ซ่งจือหนานเงียบงัน “…”
หรือว่าพ่อยังทำใจปล่อยนังแม่มดคนนั้นไปไม่ได้?
ฉู่ลั่วปริปาก “คนที่สอนคำสาปดอกท้อพิฆาตให้คุณ ต้องเอาวันตกฟากกับของบางอย่างในร่างกายคุณไปแล้วแน่นอน”
“ขอแค่คุณเอาของพวกนั้นกลับมาได้ ผลสะท้อนกลับของคำสาปดอกท้อพิฆาตบนตัวคุณก็จะหายไป”
เหยาซุ่ยน้ำเสียงหยาบกระด้าง “ทำไมฉันต้องเชื่อเธอด้วย?”
“คุณยังมีทางเลือกอื่นด้วยเหรอ?” ฉู่ลั่วหัวเราะ “ร่างกายของคุณแก่ลงอย่างรวดเร็ว เวลาคุณเหลือไม่มากแล้วนะ ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง ถ้าคุณยังหาอีกฝ่ายไม่พบ คุณก็จะแก่ตาย!”
เหยาซุ่ยรับสภาพตัวเองในตอนนี้ไม่ได้ เธอพยายามลุกขึ้นยืน แล้วพาร่างกายที่ชุ่มไปด้วยเลือดออกไปข้างนอก
เมื่อออกจากคฤหาสน์ตระกูลซ่งก็ลากสังขารตัวเองขึ้นรถ และขับไปยังจุดหมายปลายทาง
แต่ด้านหลังรถสีเงินของเธอ มีรถสีดำคันหนึ่งขับตามมา
“ลั่วลั่ว เธออยากใช้เหยาซุ่ยตามหาคนที่อยู่เบื้องหลังใช่ไหม?”
ฉู่ลั่วพยักหน้า “อีกฝ่ายสามารถทำดอกท้อพิฆาตซึ่งเป็นคาถาต้องห้ามร้ายแรงได้ หลายปีมานี้เขาคงไม่ได้ทำเรื่องชั่วช้าไร้เหตุผลแค่เรื่องเดียวแน่”
เธอนิ่งไปพักหนึ่ง แล้วมองซ่งอวิ๋นชิง “แต่ว่า พวกคุณยังต้องตามหาคนอยู่ไม่ใช่เหรอ?”
สีหน้าของซ่งอวิ๋นชิงจริงจังขึ้นทันที ความเจ็บปวดในส่วนลึกของดวงตาอยากซ่อนก็ซ่อนไม่มิด “เธอหมายถึง… อยู่ที่นั่นเหรอ?”
“อืม”
ซ่งอวิ๋นชิงเคร่งขรึม “…”
โชคดีที่ไม่ให้อาฉิงมาด้วย ไม่อย่างนั้นเธอคงรับไม่ไหว
ซ่งจือหนานที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับถามด้วยความสงสัย “พ่อกำลังพูดถึงใครเหรอ?”
ซ่งอวิ๋นชิงยกมือขึ้นมาบังดวงตาที่เปียกชื้นของตน ก่อนจะพูดออกมาอย่างยากลำบาก “พี่สาวของแก ซ่งเมี่ยวเมี่ยว”