เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 32 ฉู่ลั่วกำลังดูละคร
บทที่ 32 ฉู่ลั่วกำลังดูละคร
“ขอบใจนะ”
ซ่งจือหนานเอ่ยขอบคุณเบา ๆ
ฉู่หร่านฟังความห่างเหินในน้ำเสียงของเขาไม่ออก เธอเลิกทำหน้าเศร้า และมองฉู่ลั่วด้วยสายตาคลุมเครือ
“เมื่อก่อนนายบอกว่าเกลียดลั่วลั่วไม่ใช่เหรอ บอกว่าลั่วลั่วเป็นผู้หญิงบ้านนอกที่ไม่มีวันโด่งดัง บอกว่าถ้าเธอกล้ามาอยู่ต่อหน้า นายจะทำให้เธอรู้ว่านายมีดีแค่ไหน”
“คิดไม่ถึงว่าทั้งหมดจะเป็นแค่เรื่องล้อเล่น…”
“ที่แท้นายชอบลั่วลั่วนี่เอง!”
ดูเหมือนเป็นการหยอกล้อ แต่ที่จริงเธอกำลังพูดยั่วยุ
ฉู่ลั่วเผยสีหน้าเรียบเฉย เธอรู้ว่าฉู่หร่านจะทำอะไร จึงเตรียมใจเอาไว้นานแล้ว
แต่ซ่งจือหนานไม่เหมือนกัน เมื่อได้ยินคำพูดแบบนี้ เขาก็โกรธจนหน้าดำหน้าแดง “ฉู่หร่าน สมองเธอมีปัญหาเหรอ! คนอย่างพี่ลั่ว ฉันจะกล้าฝันขนาดนั้นได้ยังไง?”
พี่ลั่วน่ะ เหมาะจะมีไว้เคารพบูชาเท่านั้นแหละ!
เขาไม่ได้ใจกล้าขนาดจะคิดเรื่องชู้สาวกับฉู่ลั่ว
เขาคาดว่าโลกนี้ไม่มีผู้ชายคนไหนเหมาะสมกับพี่ลั่วด้วยซ้ำ
ยิ่งเขาโกรธมากเท่าไหร่ นิสัยอันธพาลก็ยิ่งปรากฏออกมา เขาชี้หน้าฉู่หร่าน พร้อมพูดอย่างไร้เยื่อใยว่า “ใครบอกว่าฉันเกลียดฉู่ลั่ว ฉันบอกว่าจะสั่งสอนเธอต่างหาก! แล้วทั้งหมดมันมาจากคำพูดยุแยงของเธอไม่ใช่เหรอ!”
“เธอบอกว่าถ้าฉู่ลั่วกลับมา คนตระกูลฉู่จะไม่รู้สึกกับเธอเหมือนเมื่อก่อนแล้ว”
“บอกว่าถ้าฉู่ลั่วกลับมา ก็จะแย่งของของเธอไป”
“ถ้าเธอไม่ได้มาโอดครวญต่อหน้าพวกเรา พวกเราจะยอมออกหน้าแทนเธอไหม? พอถึงตอนนี้ เธอกลับโยนความผิดให้ฉันทั้งหมด!”
ฉู่หร่านกำลังจะเอ่ยปาก แต่เห็นซ่งเชียนหย่าเดินออกมาเสียก่อน
เธอแอบตกใจเล็กน้อย ก่อนจะทำเป็นตาแดงเหมือนถูกรังแก “ตอนนั้นสภาพจิตใจฉันไม่มั่นคง ก็เลยพูดไปเรื่อย คิดไม่ถึงว่าพวกนายจะจริงจังกับเรื่องนี้”
แต่จะให้ซ่งเชียนหย่ารู้ไม่ได้ ว่าเธอจงใจใส่ร้ายฉู่ลั่วต่อหน้าลูกหลานคนรวยในเมืองเจียง
“เธอ…” ซ่งจือหนานที่ไม่เคยถูกใส่ร้ายป้ายสีมาก่อน ไม่รู้ว่าต้องรับมือกับฉู่หร่านอย่างไร
เขาโกรธจนจะใกล้ระเบิด แต่กลับพูดตอบโต้กลับไปไม่ได้เลย
และภาพที่ปรากฏในสายตาซ่งเชียนหย่า คือซ่งจือหนานกำลังสั่งสอนฉู่หร่านด้วยใบหน้าโกรธจัด ในขณะที่ฉู่หร่านกำลังร้องไห้อย่างน่าสงสาร
ลูกสาวแสนสำคัญถูกคนนอกตำหนิ ซ่งเชียนหย่าต้องโกรธเคืองเป็นธรรมดา
“จือหนาน! เธอกับหร่านหร่านทะเลาะอะไรกัน!” ซ่งเชียนหย่าเดินเข้ามาพร้อมสีหน้าไม่เป็นมิตร ก่อนปรายตามองฉู่ลั่ว “ลั่วลั่ว ลูกก็เหมือนกัน เห็นจือหนานกับหร่านหร่านทะเลาะกัน ทำไมไม่รู้จักห้าม”
เดิมทีซ่งจือหนานกลัวว่าซ่งเชียนหย่าจะเข้าใจผิด แต่กลับต้องได้ยินคุณนายกล่าวโทษฉู่ลั่ว
ทำเอาเขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แต่เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่ จึงทำได้แค่ข่มความโกรธเอาไว้
“ป้าซ่ง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพี่ลั่ว ผมกับหร่านหร่านทะเลาะกันเอง”
“ถ้าอย่างนั้นในฐานะที่ลั่วลั่วเป็นเพื่อนเธอ และในฐานะน้องสาวของหร่านหร่าน จะมายืนดูอยู่เฉย ๆ แบบนี้ไม่ได้” ในมุมมองของซ่งเชียนหย่า ฉู่ลั่วไม่ต่างจากกำลังยืนดูละคร
เธอรู้ดีว่าลูกสาวคนนี้ไม่ชอบฉู่หร่าน
ซ่งจือหนานก้าวออกมาเพื่อจะตอบโต้กลับ แต่ถูกฉู่ลั่วห้ามไว้
ความลำเอียงรักลูกไม่เท่ากันของซ่งเชียนหย่าเห็นได้ชัดเต็มสองสายตา ไม่มีประโยชน์ที่จะอธิบายอีกต่อไป
“นายกลับไปเถอะ ฉันเหนื่อย จะขึ้นไปพักผ่อนแล้ว”
ซ่งจือหนานเชื่อฟังมาก หากฉู่ลั่วไม่ให้เขาเถียง เขาก็ไม่เถียง ทั้งยังบอกลาซ่งเชียนหย่าอย่างมีมารยาท
แต่ตอนที่กำลังจะจากไป เขาเห็นวิญญาณตัวน้อยข้างหลังฉู่ลั่ว จึงขยิบตากับพี่สาวสุดน่ารักของตนก่อน แล้วเดินจากไปอย่างมีมาด
การเล่นหูเล่นตาของเขาอยู่ในสายตาของซ่งเชียนหย่ากับฉู่หร่านอย่างชัดเจน
ฉู่หร่านจับแขนซ่งเชียนหย่า พูดด้วยความเสียใจว่า “คุณแม่ ลั่วลั่วไปพูดอะไรกับจือหนานหรือเปล่าคะ?”
“ดูสิคะ เมื่อกี้จือหนานยังเล่นหูเล่นตาใส่คุณแม่ด้วย ไร้มารยาทเกินไปแล้ว”
หากเธอไม่พูด ซ่งเชียนหย่าก็ไม่ได้คิดแบบนี้
แต่พอเธอพูดออกมา ซ่งเชียนหย่าก็รู้สึกว่าซ่งจือหนานไร้มารยาทและไร้การอบรม
ทั้งสองครอบครัวมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน ในฐานะคนอายุน้อยกว่า ซ่งจือหนานไม่ควรเล่นหูเล่นตาใส่เธอ ทั้งยังขยิบตาใส่ด้วย
ซ่งจือหนานคนนี้ต้องอบรมสั่งสอนเสียหน่อยแล้ว…
ฉู่ลั่วเองก็ต้องได้รับการอบรมสั่งสอนเช่นกัน!