เกิดใหม่ชาตินี้… ขอเป็นเจ้านิกายมาไลฟ์สด - บทที่ 33 เรียนรู้จากฉู่หร่าน
บทที่ 33 เรียนรู้จากฉู่หร่าน
ซ่งจือหนานกลับมาถึงบ้านตระกูลซ่งด้วยความโกรธ
เพิ่งเข้าบ้านมาก็ถูกซ่งอวิ๋นชิงลากไปอบรมสั่งสอน เขามึนงงไปหลายนาที ก่อนจะถามว่า “พ่อ ด่าผมทำไมเนี่ย?”
“ป้าซ่งโทรมาบอกฉันว่าแกทำตัวไม่เคารพเธอน่ะสิ ฉันจะสอนแกยังไงดี? ปกติทำตัวลอยชายฉันก็ไม่ว่าหรอก แต่แค่มารยาทพื้นฐานแกยังไม่มีเลย”
ซ่งจือหนานยังข้องใจ “ผมไม่เคารพเธอตรงไหน! ป้าซ่งมากล่าวหาพี่ลั่วของผม ผมยังอดทนไม่อารมณ์เสียเลยนะ”
เมื่อพูดถึงฉู่ลั่ว ซ่งอวิ๋นชิงก็หรี่ตาลง “กล่าวหาลั่วลั่วงั้นเหรอ เกิดอะไรขึ้น?”
ซ่งจือหนานเล่าเรื่องราวทั้งหมดของตระกูลฉู่ให้ฟังด้วยความแค้นเคือง
กลายเป็นว่าซ่งอวิ๋นชิงโกรธยิ่งกว่าซ่งจือหนานเสียอีก! เขาทำธุรกิจมานาน ย่อมมองเห็นสถานการณ์ชัดเจนกว่าลูกชาย
เห็นได้ชัดว่าฉู่หร่านจงใจยั่วยุ ส่วนซ่งเชียนหย่าก็ลำเอียงปกป้อง
“แย่แล้ว!” ซ่งจือหนานอุทานด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“อะไร?”
“แม้แต่ผม ป้าซ่งยังโทรมาเอาเรื่อง กับพี่ลั่วยิ่งไม่ต้องพูดถึง” พี่ลั่วยังอยู่ในบ้านตระกูลฉู่ ไม่รู้ว่าถูกคนตระกูลฉู่สั่งสอนอย่างไรบ้าง
หลังฟังจบ สีหน้าของซ่งอวิ๋นชิงก็เต็มไปด้วยความกังวลเช่นกัน
…
เหมือนที่พวกเขาคิด หลังซ่งเชียนหย่าส่งฉู่หร่านออกไปข้างนอกแล้ว เธอก็มาหาฉู่ลั่ว คิดจะสั่งสอนลูกสาวเสียหน่อย
แต่พอเห็นฉู่ลั่วยืนรออยู่หน้าประตู พร้อมมองมาด้วยสายตาเย็นชา คำพูดที่คุณแม่เตรียมมาก็ติดอยู่ในลำคอ
คิ้วและดวงตาของฉู่ลั่วเหมือนเธอมาก หน้าตาสะสวยแบบดั้งเดิม
พอเห็นลูกสาวที่หน้าตาเหมือนตนเองขนาดนี้ ก็รู้สึกสงสารขึ้นมา
เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ลั่วลั่ว แม่รู้ว่าลูกไม่ชอบหร่านหร่าน นั่นเพราะลูกกับหร่านหร่านไม่สนิทกัน เลยไม่รู้จักตัวตนของเธอ”
“รอให้ลูกกับเธอสนิทกันก่อน ลูกก็จะรู้ว่าหร่านหร่านเป็นคนอารมณ์ดี นิสัยดี และกระตือรือร้น”
“แม่หวังว่าลูกจะเรียนรู้จากหร่านหร่าน”
ฉู่ลั่วฟังซ่งเชียนหย่าพูดแล้วก็อยากหัวเราะ
ก่อนหน้าแม่ก็พูดแบบนี้
พูดว่าฉู่หร่านดียังไง แล้วให้เธอเรียนรู้จากฉู่หร่าน
นี่ทำให้เมื่อก่อนเธอรู้สึกว่าตัวเองเทียบฉู่หร่านไม่ได้ และด้อยกว่าอีกฝ่ายมาก
“หนูมีตรงไหนต้องเรียนรู้จากฉู่หร่านเหรอคะ?” หลังจากเกิดใหม่ สภาพจิตใจของฉู่ลั่วก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
เธอไม่คิดว่าตัวเองด้อยกว่า แถมต่อให้ไม่ได้เกิดใหม่หลังแดนเซียน เธอก็ไม่เคยด้อยไปกว่าฉู่หร่านเลย
ซ่งเชียนหย่านึกว่าอีกฝ่ายยอมฟังที่ตนพูด จึงยกนิ้วขึ้นมานับ “หร่านหร่านมีเหตุผล กตัญญู ผลการเรียนดี เข้าสังคมเก่ง…”
เมื่อพูดถึงลูกสาวที่ตนเองเลี้ยงมากับมือ ในดวงตาของแม่ก็เต็มไปด้วยความพอใจ
นับเสร็จ เธอก็มองฉู่ลั่วด้วยสายตาภาคภูมิใจและเสียดายระคนกัน
หากไม่ใช่เพราะความผิดพลาด คนที่ได้รับการอบรมสั่งสอนอย่างดีคงเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของเธอ
เมื่อคิดได้แบบนี้ ซ่งเชียนหย่าก็แอบคิดถึงใบหน้าออดอ้อนของฉู่หร่านขึ้นมา
หญิงสาวส่ายหน้าทันที
ในใจบอกตัวเองว่าจะคิดแบบนี้ไม่ได้! ฉู่หร่านก็เป็นลูกสาวของเธอเหมือนกัน แม้จะไม่ได้คลอดออกมา แต่ความสัมพันธ์แม่ลูกของพวกเธอแน่นแฟ้นมาก
“ลั่วลั่ว ลูกดูหร่านหร่านเป็นตัวอย่างนะ เรียนรู้จากเธอให้มาก พวกลูกอายุเท่ากัน น่าจะพูดคุยกันได้ง่าย”
ฉู่ลั่วยิ้มบาง ก่อนจะเหน็บแนมออกมาเล็กน้อย “หนูกลัวว่าชีวิตนี้คงทำตัวแบบฉู่หร่านไม่ไหวหรอกค่ะ”
ซ่งเชียนหย่าเงียบลงไป “…”
“ยังมีอะไรอีกไหมคะ?”
เมื่อเห็นว่าคุณแม่ไม่พูดอะไร ฉู่ลั่วจึงปิดประตู
ครั้นประตูห้องถูกปิดลง สีหน้าของซ่งเชียนหย่าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ลูกคนนี้พูดไม่รู้เรื่องเกินไปแล้ว…
ทำแบบนี้กับแม่ของตัวเองได้ยังไง?
หร่านหร่านไม่เคยทำตัวไร้มารยาทแบบนี้!
สุดท้ายเพราะไม่ได้เลี้ยงดูมากับตัวเอง จึงไม่มีความผูกพันให้มานั่งสั่งสอนกันได้สินะ
มีแต่หร่านหร่านที่ยอมเข้าใจ!
น่าเสียดายที่หร่านหร่านไม่ใช่ลูกแท้ ๆ
หากฉู่หร่านเป็นลูกสาวแท้ ๆ ก็คงดี
ซ่งเชียนหย่าถอนหายใจ แล้วหันหลังเดินจากไป
 
                                         
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
         
                                     
                                     
                                     
                                     
		 
		 
		 
		